เปิดใจ "จ่าก๊อฟ" หลวงพี่ควงลูกซองวิ่งไล่คนร้ายจีวรปลิว เห็นแล้วไม่ช่วยก็รู้สึกผิด

(11 ก.ค.62) จากกรณีกล้องวงจรปิดจับภาพพระรูปหนึ่งในจีวรคล้ายซ่อนอาวุธปืนยาวไว้ กำลังวิ่งไล่ตามคนร้ายที่จับภรรยาเป็นตัวประกัน จนในที่สุดสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการอาบัติ ก่อนลาสิกขาออกมาและปฏิบัติหน้าที่ตำรวจต่อในทันที ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

>> หลวงพี่ถือปืนวิ่งจีวรปลิวช่วยตัวประกัน สุดท้าย "อาบัติ" ก่อนสึกกลับมาเป็นตำรวจ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ไปติดต่อสอบถามข้อมูลกับ จ่าก๊อฟ นายตำรวจในคลิปดังกล่าว ซึ่งเป็นตำรวจในสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.นครสวรรค์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าวันนั้นตนยังบวชเป็นพระจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.โกรกพระ แล้วได้วานเพื่อนที่เป็นตำรวจในสังกัดเดียวกัน ให้มารับตนพาไปซื้อของ จนกระทั่งขากลับ จู่ๆ เพื่อนก็ได้รับแจ้งขอกำลังสนับสนุนเหตุคนร้ายจี้จับหญิงเป็นตัวประกันที่ปั๊มน้ำมัน จึงทำให้เพื่อนต้องรีบไปที่เหตุดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยพาตนไปด้วย และเมื่อตนเห็นเหตุการณ์ จึงได้อาสาขอช่วย ถึงแม้ตนจะยังบวชเป็นพระอยู่ แต่ก็อยากทำตามหน้าที่ด้วยสัญชาตญาณของตำรวจ จึงได้ขอเพื่อนให้นำปืนลูกซองยาวซึ่งเป็นอาวุธประจำกายของตำรวจในสังกัดตน และมีลูกกระสุนยางบรรจุอยู่มาให้ตนสะพายไหล่อยู่ภายในจีวร 

จากนั้นเมื่อเห็นคนร้ายวิ่งฝ่าวงล้อมตำรวจออกมา ตนจึงได้วิ่งถือปืนตามไป และพยายามจะหามุมเพื่อเข้าประชิดตัว เนื่องจากคนร้ายพยายามใช้มีดฟันเพื่อเปิดทางหนีตลอด แต่สุดท้าย ทางเจ้าหน้าที่ก็ใช้ไม้ง่ามพิชิตคนร้ายจนล้มลงจนสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้

“ตอนนั้นผมก็เข้าใจว่าผมเป็นพระอยู่นะ แต่ภายในจิตใต้สำนึก หากผมไม่เข้าช่วย แล้วเกิดความสูญเสียขึ้นมา ผมจะรู้สึกว่าผิดมากเลยล่ะ ถ้าหากผมมีโอกาสแล้วไม่เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้น ผมก็ได้กลับวัดไปทำอาบัติ ส่วนตอนนี้ ผมกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษเหมือนเดิม เนื่องจากเพิ่งสึกออกจากพระไปเมื่อวานนี้ และต้องขอปิดหน้าในการให้สัมภาษณ์ เพราะผมเป็นตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในเชิงลับ” จ่าก๊อฟกล่าวทิ้งท้าย