"หมอกฤษฎ์" ร้องโอด! ถอยลัมโบร์กินี 27 ล้านไม่ทันได้ขับ ถูกอายัดก่อน

"หมอกฤษฎ์" ร้องโอด! ถอยลัมโบร์กินี 27 ล้านไม่ทันได้ขับ ถูกอายัดก่อน

"หมอกฤษฎ์" ร้องโอด! ถอยลัมโบร์กินี 27 ล้านไม่ทันได้ขับ ถูกอายัดก่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม บุกร้องเรียน ดีเอสไอ เร่งดำเนินคดีขบวนการนำเข้ารถหรู หลังเก๋งลัมโบร์กีนี ซื้อมา 27 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าโดนอายัดไว้

(12 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายศุกฤษฎ์ ปทุมศรีวิโรจน์ หรือ หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม หมอดูชื่อดัง พร้อมด้วย นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ โดยมี พ.ต.จรัล แสงหิรัญ รอง ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับคำร้อง ภายหลังดีเอสไอมีคำสั่งอายัด รถยนต์ลัมโบร์กีนี รุ่นอเวนทาดอร์ ราคา 27 ล้านบาท ทั้งที่ซื้ออย่างถูกต้องจากโชว์รูมตัวแทนจำหน่ายลัมโบร์กีนีประจำประเทศไทย

หมอกฤษฎ์ คอนเฟิร์ม เปิดเผยว่า ตนได้ทำการซื้อรถคันดังกล่าว มาตั้งแต่ปี 2559 แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ มีหนังสือเรียกให้นำรถเข้าให้ข้อมูล และมีคำสั่งอายัดรถเมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา เนื่องจากรถยนต์ในความครอบครองของตน มีการนำเข้าและการสำแดงภาษีไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ในฐานะผู้บริโภคถือว่าได้รับความเสียหาย เพราะนำเงินไปซื้อรถยนต์ที่จดทะเบียนถูกต้อง แต่ไม่สามารถตรวจกับหน่วยงานของรัฐได้ว่า รถยนต์ที่ซื้อจากโชว์รูมจดทะเบียนตรงรุ่นทุกอย่าง และไม่ใช่รถจดประกอบ จะมีกระบวนการนำเข้าผิดกฎหมายหรือมีการทุจริตกันภายใน

ดังนั้นตนพร้อมทนายความจึงเข้าร้องทุกข์ ขอให้ ดีเอสไอ ดำเนินคดีกับผู้นำเข้าและบริษัทจัดจำหน่ายทั้งขบวนการ เนื่องจากที่ผ่านมาโชว์รูมผู้ขายรถยนต์ไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ทำให้ผู้ซื้อและผู้ครอบครองรถลัมโบร์กีนี ต้องถูกอายัด 80-90% โดยเฉพาะรุ่นอเวนทาดอร์ที่ถูกอายัดสูงสุด

ขณะที่ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า กรณีรถยนต์ของหมอกฤษฎ์นั้น เมื่อรายละเอียดทยอยจัดส่งมายังดีเอสไอ พนักงานสอบสวนจึงได้เรียกผู้ครอบครองมาให้ปากคำ พร้อมทำหนังสืออายัดรถยนต์ ซึ่งเป็นของกลางในคดี ส่วนตัวรู้สึกเห็นใจผู้ซื้อ แต่ในทางคดีเมื่อตรวจสอบไปยังประเทศต้นทางพบว่า รถลัมโบร์กีนีมีการนำเข้า และการสำแดงภาษีไม่ถูกต้องเกือบทั้งหมด ส่งผลให้รถยนต์ของกลางต้องถูกอายัด

ปัจจุบันประเทศผู้ผลิตและจัดจำหน่ายได้เปลี่ยนตัวแทนในประเทศไทยใหม่แล้ว ส่วนผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรายเดิมถูกดีเอสไอดำเนินคดี ในส่วนของผู้บริโภคหรือผู้ครอบครองไม่ได้ถูกดำเนินคดี แต่ต้องถูกอายัดรถ แต่อนุญาตให้เจ้าของนำรถยนต์ไปเก็บรักษาและใช้ประโยชน์ได้ เพียงแต่ห้ามไม่ให้มีการซื้อขาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook