ผงะ! พบกะโหลกนิรนามริมเขื่อนเจ้าพระยา คาดถูกทำร้ายก่อนเสียชีวิต

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 ก.ค. 2562 พ.ต.ท.สุรินทร์ พันเจริญ สว. (สอบสวน) สภ.สรรพยา จ.ชัยนาท รับแจ้งเหตุมีคนพบกะโหลกศีรษะ ที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณริมแนวป้องกันตลิ่งพัง หน้าบ้านเลขที่ 8/3 ม.11 ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาทและแพทย์เวรโรงพยาบาลสรรพยา

ที่เกิดเหตุพบกะโหลกศีรษะค่อนข้างใหญ่ มีรอยแตกที่หน้าผากร้าวมาถึงศีรษะ มีฟันล่างและบนอย่างละ 3 ซี่ อยู่ที่พงหญ้าริมตลิ่งเขื่อนเจ้าพระยา จากการตรวจสอบของแพทย์ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นกะโหลกของเพศชายหรือหญิง แต่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ผู้ตายน่าจะมีรูปร่างสูงใหญ่ อายุประมาณ 30-50 ปี เพราะฟันยังไม่หลุดร่วงหมดปาก น่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี จึงนำส่งกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาอัตลักษณ์ของกะโหลก แล้วจึงสืบหาชื่อเจ้าของกะโหลกดังกล่าวต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่ากะโหลกดังกล่าว อาจเป็นศพที่มาจากทางจังหวัดเหนือเขื่อนอย่าง จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี ลอยมาตามกระแสน้ำ พอบานประตูเขื่อนเจ้าพระยาเปิด ร่างอาจถูกบานประตูเขื่อนเฉือนจนขาดเป็นเสี่ยง ๆ แยกกะโหลกออกจากร่าง ทั้งนี้บาดแผลที่เป็นรอยร้าวก็อาจจะถูกทำร้ายก่อนตายด้วยอาวุธหนัก เพราะเป็นรอยแตกค่อนข้างใหญ่หรือไม่ก็อาจจะผุกร่อนไปตามกาลเวลา ต้องทำการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่งโดยเจ้าหน้าที่เฉพาะทาง

นายมัสสพนธ์ ถีจันทร์ 24 ปี เปิดเผยว่า แม่เป็นคนเจอกะโหลกดังกล่าวที่ริมตลิ่ง เห็นตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นกะโหลกมนุษย์ เลยเอาไม้มาเขี่ย ๆ ดูก็พบว่าเป็นกะโหลกจริง ๆ เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ เห็นว่ามีรอยแตก ไม่รู้ว่าถูกทำร้ายมาหรือเปล่า ชาวประมง คนงานก่อสร้างเขื่อนที่มาหาปลา ชอบออกวางข่ายหาปลาท้ายเขื่อน เคยเจอชิ้นส่วนมนุษย์อื่น ๆ เป็นกระดูก แต่ไม่ได้ใส่ใจก็โยนทิ้งไป

นายเสรี ดีเมือง ผู้ใหญ่บ้าน ม.11 เจ้าของพื้นที่เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ในละแวกไม่มีใครแจ้งคนหายเลยสักหลังคาเรือน มีคนงานมาทอดแห มาเจอกะโหลกก็โยนขึ้นมา เพราะไม่ต้องการเลยเหวี่ยง ๆ ขึ้นมาริมตลิ่ง แถว ๆ นี้ เมื่อก่อนมีการวางตาข่ายแนวยาวหาปลาจะเจอกันบ่อย เจอพวกกะโหลกศีรษะกระดูกเก่า ๆ เจอแล้วก็เหวี่ยง ๆ ทิ้งกันไปกลายเป็นเรื่องปกติ