มือน้ำกรด จนมุมแล้ว ยังปฏิเสธ

มือน้ำกรด จนมุมแล้ว ยังปฏิเสธ

มือน้ำกรด จนมุมแล้ว ยังปฏิเสธ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จับแล้วมือสาดน้ำกรดใส่สาวนับ 10 คนที่โคราช เผยเป็นโชเฟอร์นายกอบต.แห่งหนึ่งใน อ.ขามสะแกแสง สอบสวนยังปากแข็งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เผยเหยื่อสาวที่เคยโดนสาดพริกเกลือเมื่อเดือนมี.ค.จำหน้าได้แม่น เมื่อตร.นำรูปมาให้ดูจึงยืนยัน แฉเคยก่อคดีอนาจารสาวมาด้วย ส่วนเหยื่อน้ำกรดยังรักษาที่ร.พ.อีก 4 ราย มี 2 รายอาการน่าเป็นห่วง

จากกรณีคนร้ายใช้สารเคมีผสมน้ำ ซึ่งสงสัยว่าจะเป็นน้ำกรดใส่ในขวดน้ำพลาสติก แล้วขี่รถจักรยานยนต์ออกตระเวนฉีดใส่ใบหน้าผู้หญิงที่มีหน้าตาดี ในเขต อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้หญิงหลายหมู่บ้านได้รับบาดเจ็บนับสิบราย เข้ารักษาตัวที่ร.พ.ขามสะแกแสง และบางรายอาการสาหัสถูกส่งต่อไปรักษาที่ร.พ. มหาราชนครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. พ.ต.อ.สมชาย ภูการุณย์ ผกก.สภ.ขามสะแก แสง จ.นคร ราชสีมา เรียกประชุมตำรวจฝ่ายสืบสวน เพื่อวางแผนติดตามจับกุมคนร้ายที่ ก่อเหตุดังกล่าว โดยมีการระดมกำลังตั้งจุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พร้อมจัดสายตรวจรถจักร ยานยนต์และสายตรวจรถยนต์ออกไปตามหมู่บ้านและตำบลต่างๆ พร้อมทั้งขอความร่วมมือตำรวจบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปพร. ของหมู่บ้านต่างๆ ช่วยสอดส่องหาเบาะแสคนร้ายรายนี้ซึ่งตำรวจมั่นใจว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และยังไม่หลบหนีไปไหน

พ.ต.อ.สมชายเปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจพบตัวผู้ต้องสงสัยและคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งพ.ต.ต.สมบูรณ์ จันทร์โท พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี นำรูปถ่ายไปให้ผู้เสียหายที่พักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.มหาราชนครราชสีมา ชี้ตัวแล้ว เมื่อค่ำวันที่ 10 มิ.ย.และจากการชี้ตัวผู้เสียหายบางคนก็จำใบหน้าของคนร้ายไม่ได้ เพราะขณะก่อเหตุคนร้ายสวมหมวกกันน็อก อย่างไรก็ตามจากการติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยรายนี้ ตั้งแต่เคยใช้พริกป่นสาดหน้าหญิงสาวเมื่อปี 2551 จนถึงการเปลี่ยนมาใช้สารเคมีผสมในขวดน้ำพลาสติกฉีดใส่หน้าผู้หญิง ซึ่งตำรวจมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานมัดตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหาย ที่เป็นผู้หญิงทั้งหมดมาแจ้งความแล้ว 4 ราย แต่ทราบว่าบางรายก็ไม่ได้มาแจ้งความ เพราะเห็นว่าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก รวมแล้วประมาณ 10 ราย

อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ โดยในวันนี้จะออกหมายเรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำที่ สภ.ขาม สะแกแสง ซึ่งถ้าผู้ต้องสงสัยรับสารภาพ ตำรวจ ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กาย และควบคุมตัวไปดำเนินคดี ต่อไป ส่วนผู้เสียหายจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของ แพทย์ที่รักษา อีกครั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจขอออกหมายจับ เป็นพนักงานขับรถของนายก อบต.คนหนึ่งใน อ.ขามสะแกแสง อายุ 40 ปี มีภรรยา 2 คน บุตร 2 คน ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องสงสัยรายนี้กระทำลงไปน่าจะมาจากความผิดปกติทางจิต และมีปัญหาทางครอบครัว เนื่อง จากมีภรรยา 2 คน มีเหตุทะเลาะกันบ่อยครั้ง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกนางมีนา สอนสะอาด อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 3 ต.พะงาด อ.ขามสะแกแสง ซึ่งเคยถูกคนร้ายใช้พริกกับเกลือสาดเข้าที่ใบหน้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา มาสอบปากคำ นางมีนาให้การว่า ขณะที่ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับจากทำงาน อยู่บนถนนทางเข้าบ้านขามสะแกแสง มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ปกปิดใบหน้า มาเทียบข้างรถของตนก่อนจะใช้มือซ้ายกำพริกผสมกับเกลือ ที่เตรียมใส่ถุงพลาสติกมาปาเข้าใส่หน้าของตน จนตนต้องจอดรถเนื่องจากเกิดอาการแสบร้อนที่ดวงตา ก่อนจะประคองตัวขี่รถกลับถึงบ้านและรีบล้างน้ำออก ส่วนคนร้ายกลับรถขับหลบหนีไป ตนยืนยันว่าจำหน้าคนร้ายได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นคนที่อาศัยอยู่ใน ต.พะงาด เหมือนกัน ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ไปดูรูปของผู้ที่ก่อเหตุซึ่ง เป็นคนเดียวกันกับวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้คือ นายบุญทิ้ง มุ่งทุ่งกลาง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 204 หมู่ 7 บ้านดอนใหญ่ ต.พะงาด อ.ขาม สะแกแสง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และกระทำอนาจาร เนื่องจากเคยก่อเหตุจับหน้าอกผู้หญิงคนหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 340 หมู่ 7 บ้านดอนใหญ่ ต.พะงาด ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญทิ้ง แต่ไม่พบนายบุญทิ้งอยู่ในบ้าน ทราบว่านายบุญทิ้งออกไปขับรถไถที่ท้องนา และเมื่อติดตามไปดูก็ไม่พบตัว อย่างไรก็ตามต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายบุญทิ้งได้แล้ว พร้อมทั้งแจ้งข้อหากระทำอนาจารอีกข้อหาหนึ่ง หลังสืบสวนพบว่าเคยก่อเหตุจับหน้าอกผู้หญิงคนหนึ่ง และนำตัวมาสอบสวนที่บก.ภ.จว.นครราชสีมา เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ

ด้านน.พ.ณัฐชัย นิธิอภิญญาสกุล หัวหน้ากลุ่มงานจักษุแพทย์ ร.พ.มหาราชนครราชสีมา ที่รักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยมารับการรักษาที่ร.พ.มหาราชนครราช สีมา 6 ราย โดยแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 2 ราย แต่ได้แจ้งให้ผู้เสียหายมาตรวจดวงตาอย่างละเอียดอีกครั้ง และจนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 4 ราย โดย 2 ราย อาการค่อนข้างน่าห่วง เพราะมีปริมาณสารเคมีในดวงตาที่มีค่าเป็นด่างสูงและซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อ ซึ่งแพทย์ยังคงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนอีก 2 รายอาการเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังคงต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดเช่นกัน

ส่วนสารเคมีที่คนร้ายใช้ นั้นมีค่าเป็นด่างและยังไม่ทราบชนิด ซึ่งแม้จะไม่ใช่น้ำกรดแต่ก็เป็นสารเคมีที่มีค่าเป็นด่าง เป็นชนิดที่เป็นอันตรายมากกว่าน้ำกรดอีก ผู้ป่วยต้องรักษาตัวอย่างน้อย 1 เดือน อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยที่ถูกฉีดพ่นสารเคมีในลักษณะดังกล่าว ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดทันทีเพื่อเจือจางปริมาณของสารเคมีเพราะหากปล่อยไว้ จะถึงขั้นตาบอดได้

ส่วนในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผกก.สภ.เมืองนคร ราชสีมา เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันว่า หลังจากมีเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เป็นที่หวาดกลัวแก่พี่น้องประชาชน สั่งการระดมเจ้าหน้าที่สายตรวจกระจายกำลังตระเวนตรวจ สอบหาข้อเท็จจริงทั่วพื้นที่ นอก จากนี้ยังสั่งการให้ตรวจสอบเพื่อป้องกันการเกิดเหตุ เพิ่มความเข้มในการตรวจตราตามพื้นที่เสี่ยง ที่ลับตาผู้คน และแหล่งชุมชน แต่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบนั้นยังไม่พบเบาะแสเกี่ยวกับคดีนี้แต่อย่างใด หากผู้ใดมีเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายที่ก่อเหตุสามารถแจ้งเหตุได้ที่ 191 สภ.เมืองนครราชสีมา อย่างไรก็ตามประชาชนอย่าวิตกกังวลในข่าวลือมากจนเกินไป จนทำให้ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้

รายงานข่าวแจ้งว่าจากการตรวจสอบพบว่าน้ำที่คนร้ายใช้สาดสาวๆ นับ 10 รายนั้น เป็นน้ำยาล้างห้องน้ำผสมกับน้ำเปล่า

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook