"เซลิน่า เพียซ" ดาราสาวเปิดใจทั้งน้ำตา วินาทีสามีพรากลูกสาวไปจากอ้อมอก
"เซลิน่า เพียซ" อดีตดาราสาวช่อง 3 เปิดใจทั้งน้ำตา วินาทีสามีพรากลูกสาวไปจากอ้อมอก ยอมรับมีปัญหากันตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ พยายามประคับประคองกันมาจนถึงที่สุดแล้ว ขอสู้ต่อเพื่อสิทธิ์ดูแลลูก
จากกรณีที่ นางสาวเซลิน่า เพียซ อดีตนักแสดงสังกัดช่อง 3 ได้เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากถูกพรรคพวกของสามีหนุ่ม ดิษยเดช กนกวิริยะสันติ หรือ ไฮโซโอ๊ค เข้ามาบุกแย่งชิงตัวลูกสาวตัวน้อยไปจากอ้อมอก ขณะขับรถอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต กลายเป็นประเด็นดราม่าที่สังคมกำลังให้ความสนใจ ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดเผยทั้งน้ำใจถึงประเด็นนี้
โดย เซลิน่า เปิดเผยว่า อันที่จริงแล้ว ตนกับสามีก็มีปัญหากันเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงที่ตนกำลังตั้งครรภ์แล้ว ตนก็พยายามประคับประคองและแก้ปัญหากันเรื่อยมา แต่ก็เหมือนเราต่างคนต่างคุยกันละคนภาษา เรารู้ว่าคุยกันไม่ได้แล้ว ตนจึงตัดสินใจเดินออกมาดีกว่า โดยที่ไม่ได้บอกกับสามีไว้ ตนอุ้มลูกและก็บินกลับลงมาหาพ่อที่ จ.ภูเก็ต
ตลอดเวลาที่มาอยู่ที่บ้านพ่อ ฝ่ายสามีก็พยายามติดต่อหาตน แต่ก็ติดต่อไม่ได้ เพราะตนบล็อกเขาในทุกๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะโทรศัพท์หรือโซเชียลมีเดีย เพราะตนต้องการขอเวลาอยู่กับตัวเองสักพัก หลังจากนั้นสามีก็ตีตี๋วบินมาที่ภูเก็ต ก่อนจะนัดเจอคุณพ่อและพูดคุยกับประมาณ 3 ชั่วโมง และจึงขอคุยกับตนด้วย
>> "เซลิน่า เพียซ" อดีตดาราสาว ร่ำไห้แจ้งความสามีไฮโซ ชิงลูกสาวกลางเมือง
แต่การพูดคุยของเรานั้นไม่ได้ข้อสรุป เราไม่สามารถตกลงกันได้ ฝ่ายเขาก็คงโมโหด้วยจึงกลับไป และพยายามจะดำเนินการทำอะไรใฝ่ายของเขา ซึ่งตนก็ไม่รู้มาก่อน ขณะที่พ่อของตนก็บอกเขาเสมอว่า จะมาเจอเด็กเมื่อไหร่ก็ได้ พวกตนไม่ได้กีดกัน เพราะเขาก็เป็นพ่อลูกและสายเลือดเดียวกัน และเขาก็รู้ว่าตนพักอยู่ที่ไหน
ขณะที่ตนก็เพียงแค่อยากขอเวลาอีกสักหน่อย การที่เราจะกลับไปคบกันเหมือนเดิม ทั้งที่มันผ่านอะไรมาเยอะแยะขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่กลายเป็นในมุมของเขาก็คงเข้าใจในฝ่ายเขา ตนก็เข้าใจในมุมของตน
ปัจจุบันลูกสาวอายุ 1 ขวบ 4 เดือน ตนเลี้ยงดูเขามาตลอด จะมีก็เพียงช่วงที่คุณแม่ป่วยหนัก ตนจำเป็นต้องฝากลูกให้เขาเลี้ยงดู เพราะว่าตนก็ต้องดูแลแม่ตัวเองเช่นกัน ที่บ้านของสามีมีแม่บ้านและครอบครัวที่ช่วยกันดูแล แต่ตนอยู่ที่ภูเก็ต ก็ต้องทำงานและเลี้ยงลูกไปด้วย หากจำเป็นต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลแทน
เซลิน่า ยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้คงพูดคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว หลังจากนี้ตนก็คงต้องให้ทนายความดูแลจัดการในประเด็นสิทธิ์การเลี้ยงดู ตนเลี้ยงลูกสาวมาตลอด รู้ว่าลูกต้องการอะไร ตนเป็นห่วงลูกจริงๆ และก็รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถประคับประคองความเป็นครอบครัวเอาไว้ได้
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ