สพฐ.สั่งล้างกว่า3หมื่นโรงเรียนสกัดหวัด

สพฐ.สั่งล้างกว่า3หมื่นโรงเรียนสกัดหวัด

สพฐ.สั่งล้างกว่า3หมื่นโรงเรียนสกัดหวัด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สพฐ.สั่ง ร.ร. ในสังกัด กว่า 3 หมื่นแห่งทำความสะอาดครั้งใหญ่ช่วงวันหยุด 13-14 มิ.ย.นี้ และปฏิบัติตามมาตรการของ สธ. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ วิทยาแถลงยอดผู้ป่วยเชื้อไข้หวัดใหญ่2009ยังอยู่ที่ 46 ราย

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.52 คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาชั้นพื้นฐาน ( กพฐ.) กล่าวถึงสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สั่งการให้ ร.ร.ในสังกัดกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ ทำความสะอาดร.ร.พร้อมกันในช่วงวัดหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ 13-14 มิ.ย.นี้ เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ

เลขาธิการกพฐ. กล่าวอีกว่า สพฐ.ได้สั่งการป้องกันเป็นระยะตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.เป็นต้นมา ให้โรงเรียนในสังกัดเฝ้าระวังการแพร่ระบาดและป้องกันไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ฯ และเมื่อเร็ว ๆ ยังได้ส่งอีเมล์ ถึงโรงเรียนทั้ง สพฐ. 30,000 แห่ง แจ้งแนวปฏิบัติในเรื่องนี้พร้อมกับแนบไฟล์การเฝ้าระวังและมาตรการป้องกันไข้หวัดอย่างละเอียดของ สธ. อีกทั้งยังได้ส่ง SMS ให้ร.ร.ประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือเรื่องนี้

"ขณะนี้กำลังรอผลการตรวจของทางกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ก่อนว่าเด็กที่ร.ร.อนุบาลปทุมธานีเป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่ และได้สั่งการให้เฝ้าระวังร.ร.ในพื้นที่เมืองพัทยาเป็นพิเศษเพราะเป็นเขตที่ มีการติดเชื้อจำนวนมาก แต่ถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีเด็กติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯเข้ามา อย่างไรก็ตาม หากโรงเรียนใดพบว่ามีเด็กติดไข้หวัดใหญ่ เพียง 1 คน อาจจะปิดเรียนบางห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังไม่ต้องปิดทั้งโรงเรียน เพราะจะทำให้เกิดความตื่นตระหนก" เลขาธิการกพฐ. กล่าว

เขตราชเทวีประสานร.ร.กวดวิชาทำความสะอาด

เมื่อเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่จากเขตดุสิต เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 6 สโมสรวัฒนธรรมหญิง เขตดุสิต กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล กว่า 100 คน ทำความสะอาดทั้งภายในและนอกโรงเรียน โดยมีนายสุทธิสรรค์ ศิวพิทักษ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) และว่าที่ ร.ต.เศวตชัย ทรัพย์บุญมี ผอ.เขตดุสิต เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยด้วย

นายสุทธิสรรค์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันทำความสะอาด ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เน้นจุดที่นักเรียนใช้ร่วมกัน เช่นอาคาร โต๊ะ ประตู โรงอาหาร คาดว่าต้องใช้เวลาตลอดทั้งวัน เนื่องจากโรงเรียนมี 10 ตึก 80 ห้องเรียน ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าจะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ ทั้งนี้ ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ได้สั่งให้โรงเรียนในสังกัด กทม. 435 แห่ง ทำความสะอาดทั่วโรงเรียน และในวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย.กทม. จะเชิญผู้บริหารโรงเรียนและผู้ประกอบการกลุ่มเสี่ยง ทั้งโรงหนัง โรงเรียนกวดวิชา ร่วมประชุมหารือเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของนักเรียน ที่ศูนย์การค้าเจเจมอลล์ ตลาดนัดสวนจตุจักร

นายชัยภัทร เจริญพร ผู้อำนวยการเขตราชเทวี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ศูนย์บริการสาธารณสุข 2 และฝ่ายสิ่งแวดล้อม เขตราชเทวี ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปให้คำแนะนำแก่ผู้บริหารโรงเรียนกวดวิชา เกียรติบัณฑิต ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 2 และ 6 ของธนาคารทหารไทย ตรงข้ามกรมปศุสัตว์ หลังโรงเรียนได้รับการประสานจากกระทรวงศึกษาธิการ ให้ปิดโรงเรียนชั่วคราวเป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากเด็ก ป. 6 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งมีการระบุว่าอาจจะติดเชื้อจากโรงเรียนกวดวิชา โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำในการทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงอาคารห้องเรียน โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ และดูแลเรื่องความสะอาดให้ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง แจกแผ่นพับและหน้ากากอนามัย ซึ่งโรงเรียนได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ผอ.เขตราชเทวี กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ได้รับการยืนยันจากนายธีระวุธ ชูช่วยสุวรรณ ผู้จัดการโรงเรียนกวดวิชา ว่า รร.กวดวิชาไม่ได้เป็นต้นตอที่ทำให้เด็ก ป. 6 รร.เซนต์คาเบรียลป่วย เนื่องจากในวันเสาร์ที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา เด็กได้เข้าเรียนครั้งล่าสุดมีอาการป่วยมาก่อนหน้านั้นแล้ว และมาเข้าเรียนได้เพียงชั่วโมงเดียว แล้วผู้ปกครองก็ได้มารับกลับบ้านไป และเด็กมีประวัติเดินทางไปต่างประเทศมาด้วย

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่เขตราชเทวี นับเป็นอีกเขตที่มีโรงเรียนและสถาบันกวดวิชาจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปให้ความรู้ คำแนะนำในการดูแลความสะอาดของโรงเรียนกวดวิชาตนเองด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดต่อไป ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีโรงเรียนกวดวิชาแห่งอื่นที่แจ้งว่ามีเด็กป่วยเพิ่มเติม

ยอดผู้ป่วยเชื้อไข้หวัดใหญ่2009ยังอยู่ที่ 46 ราย

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่าในวันนี้ได้ประชุมผู้บริหารกระทรวง นักวิชาการ และนักระบาดวิทยา เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 ที่มีการแพร่ระบาดมากขึ้นภายในประเทศ จากการประเมินของนักวิชาการพบว่า การระบาดดังกล่าวมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนไม่รุนแรง ไม่แตกต่างกับไข้หวัดใหญ่ที่มีการแพร่ระบาดประจำปี จึงขอเรียนว่าโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไม่ใช่หวัดนรก

ดังนั้นภารกิจเร่งด่วนที่กระทรวงต้องดำเนินการคือ ต้องลดความตื่นตระหนกของภาคประชาชน ซึ่งขณะนี้การระบาดยังถือว่าอยู่ในระดับบี คือ เริ่มมีการแพร่ระบาดในประเทศ ซึ่งหากควบคุมได้ดี การระบาดจะอยู่ในวงจำกัด พบผู้ป่วยจำนวนหลายสิบคนหรือไม่เกินร้อย แต่ยังอยู่ในพื้นที่เดียวกัน การควบคุมจะใช้มาตรการล้อมกรอบคือ ให้ยาทั้งผู้ป่วยและผู้สัมผัสโดยไม่ต้องตรวจยืนยัน หยุดเรียนหรือหยุดงาน แยกผู้ป่วยให้อยู่ในบ้าน เป็นต้น โดยการระบาดที่เมืองพัทยาขณะนี้ยังอยู่ในระดับบี และจากพูดคุยกับนายกและรองนายกเมืองพัทยา ทั้ง 2 คนมั่นใจว่าจะเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส พร้อมให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวว่า นักท่องเที่ยวที่มาจะไม่ถูกกักบริเวณในโรงเรียน ใครป่วยก็มียารักษาให้ ส่วนใครที่ไม่มั่นใจว่าป่วยหรือไม่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็มีรถปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์เชื้อเคลื่อนที่ของกรม วิทยาศาสตร์การแพทย์หรือโมบายแล็บคอยบริการไว้ให้

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ส่วนการแพร่ระบาดมีโอกาสที่จะพัฒนาไปสู่ระดับซี คือ มีการแพร่ระบาดขยายต่อไปในวงกว้างภายในประเทศ มีการแพร่ระบาดข้ามเมืองหรือทั้งประเทศ มีผู้ป่วยจำนวนหลายพันหรือหลายหมื่นคน มาตรการจะใช้วิธีลดผลกระทบ เช่น เน้นดูเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ให้เฉพาะผู้ที่ป่วยหยุดเรียนหรือหยุดงาน แทนการหยุดทั้งหมด ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการควบคุมจำกัดการแพร่ระบาดของโรคให้อยู่ ในวงแคบ ไม่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตามเพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากขณะนี้มีการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่ประชุมจึงมีมติให้ยุบหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของกระทรวงทั้งหมดให้เหลือเพียงศูนย์เดียว คือ ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มี นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน มีหน้าที่อำนวยการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

สำหรับยุทธศาสตร์ดำเนินการ คือ 1 ส่งสัญญาณไปยังสาธารณสุขจังหวัด และสาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศ ให้รายงานโดยตรงต่อศูนย์กรณีพบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใน พื้นที่ เพื่อที่จะเข้าไปควบคุมโรค และจำกัดการแพร่ระบาดในวงแคบอย่างรวดเร็ว 2. ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพต่อประชาชนโดยจัดทำเอกสารแนะนำในการดูแลตนเอง แจกจ่ายไปยังทุกกระทรวง ทบวง กรม ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพส่งเอกสารให้กับ อสม.นำไปแจกให้กับประชาชน และควรให้คำแนะนำแก่ประชาชนว่ากรณีที่ไม่สบายควรหยุดภารกิจ หยุดเรียน หยุดงาน หลีกเลี่ยงไปยังแหล่งชุมชน หากมีอาการหนักควรรีบพบแพทย์ และควรสวมใส่หน้ากากอนามัยหากจำเป็นต้องออกไปภายนอก และ 3. ให้องค์การสัชกรรมสั่งจองวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังจะมีการผลิตในเดือนตุลาคม จำนวน 2 ล้านชุด ซึ่งคาดว่าจะผลิตและส่งให้ไทยได้ในเดือนมีนาคมปีหน้า ดังนั้นขอเรียนประชาชนว่า ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้ จึงไม่ควรตื่นตระหนกวิ่งหาวัคซีน สำหรับในส่วนยาต้านไวรัส ทางกระทรวงสาธารณสุขมีสำรองไว้ 420,000 ชุด และ อภ. เตรียมผลิตอีก 100,000 ชุด ซึ่งเป็นจำนวนที่เพียงพอ ขอให้มั่นใจได้

นายวิทยา กล่าวต่อว่า จากนี้ไปกระทรวงสาธารณสุขจะมีการแถลงข่าวทุกวันเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ โดยตนจะเป็นผู้แถลงเพียงคนเดียว เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกและสับสนในข้อมูล ส่วนการให้ข้อมูลด้านวิชาการ จะมีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูล ขอเรียนว่าการรายงานตัวเลขผู้ป่วยยังมีการรายงานตามปกติ โดยตัวเลขผู้ป่วยในขณะนี้ยังอยู่ที่ 46 ราย และอยู่ระหว่างการตรวจวิเคราะห์ยืนยันอีกจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กอนุบาลเมืองปทุมธานี ที่ป่วยประมาณ 50 คน นายวิทยากล่าวว่า ขณะนี้กำลังรอผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการอยู่ คาดว่าจะทราบผลได้ในบ่ายวันนี้ (12 มิ.ย.)

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook