สธ.พบผู้ป่วยหวัด 2009 รวดเดียว 42 ราย

สธ.พบผู้ป่วยหวัด 2009 รวดเดียว 42 ราย

สธ.พบผู้ป่วยหวัด 2009 รวดเดียว 42 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทั้ง นร.อินเตอร์ในกทม.-ภูเก็ต-สงขลาและที่เข้าตรวจใน รพ.เอกชน ชาวบางละมุง-ผู้ปกครองเด็กเซนต์คาเบรียล แตกตื่น แห่ขอตรวจเชื้อ นศ.หญิงสาธารณสุขศาสตร์ ม.มหิดลติดเชื้อ หวัด2009 จากสหรัฐฯ สั่งหยุดเรียนทั้งคณะ เด็กเซนต์คาเบรียลติดเชื้อ เพิ่มอีก 1 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานในช่วงเย็น วันที่ 12 มิถุนายนว่า กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้ ทำการเฝ้าระวังคนไทยที่จะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ปรากฎว่าพบผู้ป่วยในวันเดียวกันนี้ถึง 43 ราย โดยมีรายงานว่า เป็นผู้ติดเชื้อที่อยู่พัทยา 3 ราย เป็นนักเรียนนานาชาติในกรุงเทพฯ 1 ราย ในภูเก็ต 1 ราย สงขลา 1 ราย และเป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนอีก 37 ราย

ชาวบางละมุง-ผู้ปกครองเด็กเซนต์คาเบรียล แตกตื่น แห่ขอตรวจเชื้อ

นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค สธ. กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่มีอาการป่วยกว่า 100 ราย เดินทางไปโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า ตัวเองป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลหรือสายพันธุ์ใหม่ หรือไม่เช่นเดียวกันกับผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ที่ต่างพาบุตรหลานไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งขอยืนยันว่าการตรวจหาเชื้อไม่เป็นประโยชน์ เพราะไม่ว่าจะติดเชื้อไข้หวัดจากสายพันธุ์ใดก็ตาม วิธีการรักษาและการป้องกันโรคเหมือนกันทุกสายพันธุ์ ที่สำคัญ การตรวจวิเคราะห์ต้องเสียค่าตรวจอย่างน้อยครั้งละ 2,000 บาท

นพ.คำนวณ กล่าวว่า ส่วนกรณีข่าวที่มีนักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นั้น ข้อมูลคือ รายดังกล่าวเป็นหญิงอายุ 20 ปี ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนไปก่อนหน้า

นศ.มหิดลติด"หวัด2009" สั่งหยุดเรียนคณะสาธารณสุขฯ

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ขณะนี้พบนักศึกษาหญิง คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อายุ 20 ปี ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 1 ราย ซึ่งมหาวิทยาลัยเพิ่งรับทราบข้อมูลเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยนักศึกษารายนี้เดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ตนจึงได้สั่งหยุดการเรียนการสอนของคณะสาธารณสุขศาสตร์ไปก่อน จนกว่าจะผ่านระยะติดเชื้อ ซึ่งเป็นไปตามหลักการป้องกันโรคระบาดของกระทรวงสาธารณสุข

เด็กเซนต์คาเบรียลติดเชื้ออีก1 รวมยอด 47 ราย

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นธารการประชุมประชุมคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข เพื่อทบทวนสถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด เอ เอช 1 เอ็น 1 หลังพบการแพร่ระบาดในประเทศ และองค์การอนามัยโลกประกาศยกระดับ ความรุนแรงของการแพร่ระบาดเป็นระดับ 6 พร้อม วันที่ 12 มิถุนายน

นายวิทยา กล่าวว่า ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในไทย และยุบศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่มี นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ. เปลี่ยนเป็นศูนย์อำนวยการปฏิบัติการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยมี นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ โดยจะยังคงมาตรการเฝ้าระวังโรคในทุกพื้นที่ และเพิ่มความเข้มข้นการควบคุมโรคในพื้นที่ที่มีการระบาดแล้ว เพื่อจำกัดวงให้แคบที่สุด ลดผลกระทบโดยรวม

"การรายงานจำนวนผู้ป่วยยืนยันจะดำเนินการต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและประชาชนได้รับรู้ข้อเท็จจริง ไม่มีการปกปิดข้อมูล ประชาชนทุกคนไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก สามารถใช้ชีวิตประจำวัน ไปเรียนไปทำงานได้ตามปกติ แต่ขอให้เพิ่มพฤติกรรมการดูแลความสะอาดส่วนบุคคล เช่น การล้างมือ การใช้ช้อนกลางในการกินอาหารร่วมกัน การใช้หน้ากากอนามัยเมื่อป่วยเป็นไข้หวัด ไอ มีน้ำมูก เพื่อป้องกันแพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่น"

นายวิทยา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การนำเสนอข้อมูลทางสื่ออย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ประชาชนเกิดความตระหนกได้ ได้ให้คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ของศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขจัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับโรงเรียน โรงงาน สถานบริการต่าง ๆ สถานบันเทิง เรือนจำ ที่เป็นจุดเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของโรค เพื่อใช้เป็นคู่มือดำเนินการเป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ จะเร่งให้เสร็จในวันที่ 15 มิถุนายน โดยมอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและกรมอนามัย ดำเนินการรณรงค์สร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ และขยายให้ครอบคลุมทุกกลุ่มทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ตื่นตระหนกแต่ตระหนักในการดูแลป้องกันตนเองให้ปลอดจากโรค

สำหรับเรื่องการดูแลรักษาผู้ป่วย นายวิทยา กล่าวว่า สธ.มียาต้านไวรัสอย่างเพียงพอ 420,000 ชุด โดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้สำรองวัตถุดิบสำหรับผลิตเพิ่มอีก 100,000 ชุด ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ ขณะเดียวกันได้ให้ อภ.สั่งจองวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไว้ 2 ล้านชุด คาดว่าจะมีการผลิตในอีก 4 เดือน และจะส่งถึงไทยประมาณเดือนมีนาคม 2553

ทางด้านนพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 เพิ่มอีก 1 ราย รายที่ 47 เป็นนักเรียนโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ผู้ป่วยอาการดีขึ้น และรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และมีผู้อยู่ในข่ายเฝ้าระวังที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและตรวจทางห้องปฏิบัติการจำนวน 105 ราย

ศธ.สั่งปิด ร.ร.กวดวิชา"เกียรติบัณฑิต" 7 วัน

นายชัยภัทร เจริญพร ผู้อำนวยการเขตราชเทวี เปิดเผยว่า ศูนย์บริการสาธารณสุข 2 และฝ่ายสิ่งแวดล้อม เขตราชเทวี ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปให้คำแนะนำแก่ผู้บริหารโรงเรียนกวดวิชา "เกียรติบัณฑิต" ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 2 และ 6 ของอาคารธนาคารทหารไทย ตรงข้ามกรมปศุสัตว์ หลังโรงเรียนได้รับการประสานจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ให้ปิดโรงเรียนชั่วคราวเป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากเด็กชายวัย 11 ปี ชั้น ป.6 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งมีการระบุว่าอาจจะติดเชื้อจากโรงเรียนกวดวิชาดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำในการทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงอาคารห้องเรียน โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ และดูแลเรื่องความสะอาดให้ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแจกแผ่นพับและหน้ากากอนามัย ซึ่งโรงเรียนได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ผอ.เขตราชเทวี กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ได้รับการยืนยันจากนายธีระวุธ ชูช่วยสุวรรณ ผู้จัดการโรงเรียนกวดวิชาดังกล่าว ว่า ร.ร.กวดวิชาไม่ได้เป็นต้นตอที่ทำให้เด็ก ป.6 รร.เซนต์คาเบรียลป่วย เนื่องจากในวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา เด็กได้เข้าเรียนครั้งล่าสุดมีอาการป่วยมาก่อนหน้านั้นแล้ว และมาเข้าเรียนได้เพียงชั่วโมงเดียว แล้วผู้ปกครองก็ได้มารับกลับบ้านไป และเด็กมีประวัติเดินทางไปต่างประเทศมาด้วย

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่เขตราชเทวี นับเป็นอีกเขตที่มีโรงเรียนและสถาบันกวดวิชาจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ กทม.ได้เข้าไปให้ความรู้ คำแนะนำในการดูแลความสะอาดของโรงเรียนกวดวิชา เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดต่อไป ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีโรงเรียนกวดวิชาแห่งอื่นที่แจ้งว่ามีเด็กป่วยเพิ่มแต่อย่างใด

กรมราชทัณฑ์สั่งคุมเข้มคุกทั่วปท.ป้องหวัดใหญ่ฯแพร่เข้าถึง

นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าววันที่ 12 มิถุนายนถึงมาตรการป้องกันและการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ภายในเรือนจำว่า ได้สั่งการไปยังผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศให้เฝ้าระวังการระบาดเป็นพิเศษ โดยเน้นเรื่องความสะอาดของสถานที่ อาหาร และเฝ้าระวังญาติที่จะเข้ามาเยี่ยมนักโทษทุกราย ควรมีการตรวจโรคก่อนเข้าไป ทหากพบญาตินักโทษรายใดต้องสงสัยว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้ ก็ต้องรีบประสานกับทางสาธารณสุขจังหวัดให้นำเครื่องมือมาตรวจสอบทันที เพื่อป้องกันโรคนี้เข้าไปแพร่ระบาดในเรือนจำ

 "เรือนจำไหนอยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยง อย่างเช่น เรือนจำพิเศษพัทยา ควรต้องมีการเฝ้าระวังจับตานักโทษแต่ละรายเป็นกรณีพิเศษ หากพบว่านักโทษรายใดเกิดป่วยเป็นไข้หวัด ก็จะต้องรีบแยกออกจากนักโทษรายอื่นทันที ส่วนญาติที่เข้าเยี่ยมนักโทษที่เรือนจำก็ควรจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าป่วยหรือไม่ รวมทั้งนักโทษที่เข้าใหม่ก็จะต้องตรวจสุขภาพอย่างละเอียด ก่อนส่งตัวเข้าไปในแดน อย่างไรก็ตาม เรือนจำที่อยู่ในพื้นที่สุ่มเสี่ยง ควรพิจารณาเลื่อนหรืองดกิจกรรมเยี่ยมญาติใกล้ชิดออกไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ปกติ"

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า นอกจากนั้นยังได้สั่งให้ทุกเรือนจำเตรียมห้องกักโรคไว้ให้พร้อม และให้เตรียมยาต้านไวรัสโรคไข้หวัดไว้ให้พร้อมด้วย หากเกิดการแพร่ระบาดขึ้นก็จะสามารถป้องกันได้ทันท่วงที ทั้งนี้ ในส่วนของจำนวนนักโทษปัจจุบันมีประมาณ 199,000 คน จากเรือนจำ /ทัณฑสถานทั่วประเทศ

ด้าน นพ.จอน เลอวิทย์วรพงษ์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจสุขภาพนักโทษภายในเรือนจำ ยังไม่พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 อย่างไรก็ตามกรมราชทัณฑ์ได้ให้ความสำคัญ และสั่งการให้ทางโรงพยาบาลเตรียมพร้อมและรับมือ หากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แพร่ระบาดเข้าในคุกก็คงลำบากแน่ เนื่องจากคุกเป็นสถานที่ปิด ต่างกับโรงเรียน หากพบเด็กติดเชื้อก็ยังสามารถให้หยุดเรียนหรือปิดโรงเรียนได้ แต่ในคุกทำได้ยากลำบาก จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และทางโรงพยาบาลก็ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขไว้แล้ว หากพบมีการแพร่ระบาดในคุกก็พร้อมจะเข้าไปดำเนินการทันที

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook