แห่กินจักจั่นมีเขา หามส่งรพ.ระนาว

แห่กินจักจั่นมีเขา หามส่งรพ.ระนาว

แห่กินจักจั่นมีเขา หามส่งรพ.ระนาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จักจั่น มีเขาหรือว่านจักจั่น ที่ชาวบ้าน จ.ร้อยเอ็ด นำไปกินเพราะเชื่อว่าจะรักษาโรคได้ ปรากฏว่าหลายคนกินแล้วอาเจียนท้องร่วง จนสสจ.ร้อยเอ็ด ต้องเตือนอันตราย

ชาว บ้านเจอดี "ว่านจักจั่น" ที่ร้อยเอ็ด หลังยกโขยงแห่ขุดต้มกินสดๆ ซดน้ำ เชื่อร่าง กายแข็งแรงล่าสุดพ่นพิษแล้ว หลังกิน 3-4 ชั่วโมง ถึงกับหน้ามืด อ้วกแตก ท้องร่วงรุนแรง หามส่งร.พ. ระนาว "สธ.ร้อยเอ็ด" ชี้ตัวว่านฝังดินมาหลายปี ดูดซับสารเคมีหรือแร่ธาตุไว้มาก อาจมีสารพิษเจือปน ทางที่ดีไม่ควรกิน

จากกรณีมีชาวบ้านจากหลาย อำเภอในจ.ร้อย เอ็ด และจังหวัดข้างเคียง เช่น จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม แห่กันไปที่ป่าบ้านเหล่าตำแย ต.สีแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อขุดหาจักจั่นมีเขา คล้ายรากไม้งอกออกมา เรียกว่า ว่านจักจั่น และจับได้กันเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นสิริมงคล ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายอภิเชษฐ์ สังวิบุตร นายกอบต.สีแก้ว ว่า มีชาวบ้านหลายราย นำเอาจักจั่นมีเขาที่จับได้มาต้มกิน บางรายก็กินดิบๆ เพราะเชื่อว่ารักษาโรคได้ จนเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ อาเจียน ท้องร่วง ต้องนำส่งร.พ. จึงไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงหมู่บ้าน พบนายบุญโฮม ยาวะรักษ์ อายุ 40 ปี และเป็นสมาชิกอบต.หมู่ 4 นอนซมอยู่หลังกลับจากร.พ.ร้อยเอ็ด นายบุญโฮม ยอมรับว่า กินว่านจักจั่นสดๆ เข้าไป เพราะคิดว่าเป็นของมงคล จะทำให้ร่างกายดีขึ้น แต่พอกินไปได้ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เกิดอาการหน้ามืด คลื่นเหียน อาเจียน และท้องร่วงอย่างแรง จนญาติต้องนำส่งร.พ. แพทย์ให้ยารับประทานอาการดีขึ้นจึงกลับมาพักผ่อนที่บ้าน

นายบุญโฮ มกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีนายมานะ ขันธิรัตน์ อายุ 45 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่นำเอาว่านจักจั่นจำนวน 2 ตัวต้มน้ำกิน หลังกินน้ำต้มจนหมดก็กินตัวว่านตาม หลังกินเสร็จเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมง ก็เกิดอาการในลักษณะเดียว กัน ญาติต้องนำส่งร.พ. แต่ตอนนี้กลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว และอีกรายคือนายจู เพ็งรัตน์ อายุ 53 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านเดียวกัน กินว่านดิบๆ เกิดอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ ส่วนที่หมู่บ้านอื่นก็ทราบว่ามีหลายคนกินว่านจักจั่นเข้าไป เกิดอาการ ในลักษณะเดียวกันต้องเข้าทั้งสถานีอนามัยและร.พ.ใกล้เคียง

น.พ.ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า เท่าที่ทราบว่านจักจั่นดังกล่าวชาวบ้านเชื่อว่าเป็นของมงคล ต่างแสวงหาเอามาไว้กิน แต่ควรศึกษาให้ดีเสียก่อน เพราะจักจั่นมีเขาหรือว่านจักจั่นฝังตัวอยู่ในดินเป็นเวลาหลายปี อาจดูดซับสารเคมีหรือแร่ธาตุต่างๆ เก็บไว้ในตัว และอาจมีสารมีพิษเจือปน เมื่อรับประทานเข้าไปทำให้เกิดอันตรายได้ ทางที่ดีไม่ควรนำมารับประทาน ไม่ว่าจะต้มหรือกินสดๆ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook