กระหึ่มโซเชียล #แพรวา9ศพ หวนขึ้นติดเทรนด์ คนไทยถามถึงเหตุเมื่อ 9 ปีที่แล้ว
#แพรวา9ศพ กลับมาติดเทรนด์ทวิตเตอร์เมืองไทยอีกครั้ง หลังรายการข่าวชื่อดังได้พูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อ 9 ปีก่อน ที่ยืนยันว่าปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรม
(16 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจโลกโซเชียลมีเดียตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ปรากฏว่าเกิดกระแสตีกลับของคดีจากอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงที่เคยตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งในอดีต กลับมาเป็นที่กล่าวถึงในโลกออนไลน์อีกครั้ง ทำให้แฮชแท็ก #แพรวา9ศพ กลับมาติดเทรนด์ทวิตเตอร์ของไทยได้อย่างไม่น่าเชื่อ
สืบเนื่องจากรายการ "ถามตรงๆ กับ จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์" ทางช่องไทยรัฐทีวี ได้เชิญญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาพูดคุย หลังจากผ่านพ้นและเข้าสู่ปีที่ 9 ของอุบัติเหตุดังกล่าว โดยปรากฏว่าทางญาติๆ ยืนยันว่าปัจจุบันยังคงดำเนินการเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาใดๆ เลยจากฝ่ายผู้ก่อเหตุ
การสัมภาษณ์พูดคุยกับญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ กลายมาเป็นกระแสติดเทรนด์ฮิตในโซเชียลมีเดียไปชั่วพริบตา ชาวโซเชียลออกมาติดแฮชแท็กและย้อนกล่าวถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น พร้อมกับหยิบยกเอาคำพูดต่างๆ จากรายการมาตีแผ่และสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่ผู้เสียชีวิตแทบจะยังไม่ได้รับความยุติธรรมจนถึงทุกวันนี้
ประโยคหนึ่งของแม่คนขับรถตู้โดยสารที่เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น ถูกหยิบนำมาเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ กับคำพูดที่ว่า "อยากจะได้เงินก็ออกแรงหน่อย" ที่ในวันนั้นญาติของเหยื่อก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ และยังรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่คดีมาถึงชั้นศาลแพ่ง จนไปถึงชั้นศาลฏีกา แต่คู่กรณีฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่เคยปรากฏตัวมาฟังคำพิพากษาคดีเลยสักครั้ง
นอกจากนี้ ชาวทวิตเตอร์บางคนมีการขุดคุ้ยถึงปัจจุบันของผู้ก่อเหตุในครั้งนั้นอีกครั้ง บ้างก็อ้างว่าผู้ก่อเหตุได้ทำการเปลี่ยนชื่อไปอีก 2-3 ชื่อหลังจากนั้น รวมทั้งมีการแชร์ภาพผู้ก่อเหตุเข้าพิธีสมรสกับแฟนหนุ่มไปเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะที่ส่วนใหญ่ก็ยังทวงถามความยุติธรรมในคดีนี้ให้กับเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในวันนั้น
ขณะที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า tintin ระบุว่า เขาเป็นหนึ่งในผู้ประสบเหตุบนรถตู้โดยสารคันที่เกิดเหตุในวันนั้นและเขารอดชีวิตมาได้ โพสต์ข้อความในมุมของตัวเองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เขาระบุว่า เขาเป็นหนึ่งในผู้ประสบเหตุ แต่เคราะห์ดีที่เขายังไม่ตาย แม้จะรู้ว่าเป็นเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดและไม่ได้ตั้งใจ แต่ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุกับครอบครัวไม่ได้สนใจคดีใดๆ เลย มาศาลแค่เพียงครั้งแรกที่เป็นภาพออกสื่อ และก็ไม่เคยมาอีก ส่งทนายความมาแทนทุกครั้ง
สำหรับเหตุการณ์รถตู้สาธารณะถูกชนบนทางยกระดับอุตราภิมุข ที่ถูกขนานนามเรียกชื่อว่าเหตุการณ์ #แพรวา9ศพ เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 27 ธันวาคม 2553 บนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ บริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นอุบัติเหตุรถเก๋งพุ่งมาชนรถตู้ชนจนกระเด็นไปปะทะขอบทางอย่างแรง ทำให้ร่างผู้โดยสารกระเด็นออกจากรถ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บอีก 5 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและยังมีสติรับรู้ดีหลังเกิดเหตุ ซึ่งคดีดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของสังคมในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่าคดีนี้อาจจะไม่ได้รับความยุติธรรมและความโปร่งใสในกระบวนการทางกฎหมาย
ในส่วนของรูปคดียังคงดำเนินการเรื่อยมาถึงปัจจุบันและยังไม่สิ้นสุด แม้ศาลจะมีคำพิพากษาให้ผู้ก่อเหตุจำคุกเป็นเวลา 2 ปี รอลงอาญา 3 ปี คุมประพฤติจำเลย 3 ปี พร้อมกับบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 48 ชั่วโมง และห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปี แต่ในส่วนการเยียวยาชดเชยผู้เสียหายก็ยังไม่สามารถสรุปได้จนถึงทุกวันนี้
>> แพรวา 9 ศพ ขับรถขึ้นโทลเวย์ดอนเมืองคันละ 7 หลัก ก่อนเกิดเหตุเมื่อ 9 ปีก่อน