มุนแจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ ลั่นญี่ปุ่นเล่นเกม "ไม่ฉลาด" ปมงดส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เตือนญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ให้พิจารณาอีกครั้งเกี่ยวกับการงดส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้เกาหลีใต้ และกล่าวว่าการเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นในครั้งนี้ นอกจากเป็นการโยงเรื่องเศรษฐกิจแลประวัติศาสตร์ให้มาเกี่ยวข้องกันแล้ว ยังเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ฉลาดนักเพราะญี่ปุ่นอาจได้รับผลกระทบที่ร้ายแรงกว่าเกาหลีใต้

"การกระทำของญี่ปุ่นที่นำเรื่องประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจมาโยงกัน ทั้งที่เป็นคนละเรื่อง เป็นมาตรการที่ไม่ฉลาดนัก และสิ่งนี้จะลั่นคลอนความสัมพันธ์ของทั้งสองฝั่ง ที่เคยมีทีท่าว่ากำลังดีขึ้นเรื่อยๆ" นายมุน กล่าว

ผู้นำเกาหลีใต้รายนี้กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นไม่เคยนำ 2 เรื่องนี้มาโยงกันเลย แต่คราวนี้กลับไม่เหมือนเดิม

เชื่อญี่ปุ่นเดือด เพราะศาลเกาหลีใต้สั่งชดใช้แรงงานทาส

เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจนำเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าเมื่อนำเข้าวัตถุดิบหลักเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมจากญี่ปุ่น ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นการแสดงความไม่พอใจที่ศาลฎีกาเกาหลีใต้มีคำสั่งให้ญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยเพิ่มเติมให้ผู้ที่ถูกบังคับใช้แรงงานเมื่อครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 (ประมาณปี ค.ศ. 1900-1949) ซึ่งเป็นช่วงที่เกาหลีตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น

รัฐบาลเกาหลีใต้ย้ำว่า ไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงคำสั่งศาล เพราะก้าวก่ายการทำงานกันไม่ได้ นอกจากนี้ ยังเสนอให้ตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อจ่ายค่าชดเชยให้อดีตผู้ถูกบังคับใช้แรงงานเหล่านั้น ด้วยการรับบริจาคเงินจากบริษัทเกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ส่งสัญญาณต้านสันติภาพเกาหลีเหนือ-ใต้

นายมุน เชื่ออีกว่า การที่รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามบริษัทในประเทศตัวเองส่งออกวัตถุดิบมาให้เกาหลีใต้ น่าจะมีอีกสาเหตุหนึ่ง คือ การที่เกาหลีใต้คว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติมไม่สำเร็จ เพราะเกาหลีใต้เองก็กำลังต้องการเข้าหาเกาหลีเหนือมากขึ้น เพื่อให้เกิดสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี แต่ถึงอย่างนั้นญี่ปุ่นก็ควรหารือกับเกาหลีใต้ก่อนออกมาตรการเหล่านี้

"ถ้าญี่ปุ่นข้องใจนัก ก็ควรคุยกับเกาหลีใต้หรือองค์กรนานาชาติก่อน ไม่ใช่ใส่ความกันแล้วทำอะไรเอง โดยไม่บอกไม่กล่าว" นายมุน กล่าว

นอกจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ก่อนหน้านี้มีการรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลญี่ปุ่นอาจสงสัยว่า เกาหลีใต้เป็นฝ่ายปล่อยให้เทคโนโลยีของญี่ปุ่นหลุดไปอยู่ในมือเกาหลีเหนือ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ชิ้นนส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตในญี่ปุ่นและส่งออกไปยังเกาหลีใต้ ถูกพบที่เกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเกาหลีใต้ตอบโต้กลับทันทีว่า ถ้าหากญี่ปุ่นเชื่อเช่นนั้น ก็ควรเปิดทางให้องค์กรระหว่างประเทศมาสอบสวน ว่าเกาหลีใต้ทำให้รั่วไหลจริง หรือที่แท้แล้วเป็นเพราะญี่ปุ่นอยากให้เกาหลีใต้คว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติมกันแน่

หวังสกัดเศรษฐกิจเกาหลีใต้ไม่ให้โต

นายมุนยังส่งสัญญาณว่า การตัดสินใจของญี่ปุ่นอาจมีแรงจูงใจบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ จึงเลือกโจมตีอุตสาหกรรมอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ (เซมิคอนดักเตอร์) ของเกาหลีใต้ แต่ญี่ปุ่นจะทำไม่สำเร็จแน่นอน

"สิ่งที่ญี่ปุ่นทำอยู่ ไม่ต่างกับการสกัดกั้นเศรษฐกินเกาหลีใต้ในตอนที่เศรษฐกิจของเรากำลังเติบโตสูงขึ้น ซึ่งถ้าหากเป็นจริง ขอบอกเลยว่า ไม่มีทางสำเร็จหรอก" นายมุน กล่าว

ผู้นำเกาหลีใต้รายนี้ บอกอีกว่า เกาหลีใต้เอาชนะอุปสรรคในอดีตมาได้มากมาย ดังนั้นน่าจะถึงเวลาแล้วที่เกาหลีใต้จะผลิตวัตถุดิบและอุปกรณ์ในประเทศได้เอง และควรหาแหล่งนำเข้าเพิ่มเติมให้หลากหลายกว่านี้ และเตือนว่า สุดท้ายคนที่จะแพ้ภัยตัวเองคือญี่ปุ่น เพราะจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงกว่าที่เกาหลีใต้โดนอยู่

"ผมขอเตือนเลยนะว่าสุดท้ายแล้ว ความเสียหายที่จะเกิดกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะมากกว่าเกาหลีใต้" นายมุน กล่าว