ลูกชายบาทหลวงสารภาพ ฆ่าข่มขืนหญิงนักวิทย์ฯ หมกศพไว้ที่บังเกอร์

ลูกชายบาทหลวงสารภาพ ฆ่าข่มขืนหญิงนักวิทย์ฯ หมกศพไว้ที่บังเกอร์

ลูกชายบาทหลวงสารภาพ ฆ่าข่มขืนหญิงนักวิทย์ฯ หมกศพไว้ที่บังเกอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจจับกุมคุณพ่อลูกสองชาวกรีซ หลังสารภาพเป็นฆาตกรฆ่าข่มขืนนักวิทยาศาสตร์หญิงชาวอเมริกัน หมกศพเอาไว้ที่หลุมหลบภัย อ้างเห็นเดินผ่านแล้วมีอารมณ์ทางเพศ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หนุ่มชาวนาอายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของบาทหลวงประจำหมู่บ้าน ถูกจับกุมตัวหลังยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุฆ่าข่มขืนนักวิทยาศาสตร์หญิงวัย 60 ปี ก่อนจะอำพรางศพเอาไว้ที่บังเกอร์หลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บนเกาะคริติ ประเทศกรีซ

หนุ่มชาวนาคนดังกล่าวตกเป็นผู้ต้องสงสัยรายล่าสุด หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามคลี่คลายปริศนาเหตุฆาตกรรม นางซูซานน์ นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกา ที่พบเป็นศพเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผลจากการกดดันสืบสวนสอบอย่างหนัก ทำให้ชายผู้ต้องสงสัยได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่เป็นคุณพ่อลูกสองและเป็นลูกชายของบาทหลวง ได้ให้การรับสารภาพว่า เขาพบเห็นนักวิทยาศาสตร์หญิงคนดังกล่าวในหมู่บ้าน โดยยอมรับว่าช่วงเวลานั้นกำลังเกิดอารมณ์ทางเพศ ก่อนจะเข้าจู่โจมทำร้ายร่างกายเธอ กระทั่งหมดสติลงไป พร้อมกับนำร่างของเธอขึ้นรถกระบะของตัวเองไปยังบังเกอร์หลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ผู้ต้องหายังได้รับสารภาพ เขาได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อ ก่อนจะลงมือฆ่าเหยื่อให้ตายด้วยการพยายามทำให้ขาดอากาศหายใจตาย หลังจากนั้นเขาก็ขับรถกระบะกลับบ้าน พร้อมกับทำลายหลักฐานและเบาะต่างๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งมีข่าวพบเจอศพเหยื่อที่บังเกอร์ และเขาถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้ในที่สุด

ตามรายงานระบุว่า นางซูซานน์ วัย 60 ปี เป็นนักชีววิทยาโมเลกุลประจำสถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งที่เยอรมนี เธอเดินทางไปยังเกาะคริติ ประเทศกรีซ เพื่อร่วมประชุมกับนักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการคนอื่นๆ หลังจากงานเสร็จสิ้น เธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปเดินป่าและปีนเขาเพียงลำพัง

เธอได้ติดต่อกับเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย ในวันที่ 2 กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เธอจะถูกทำร้ายและฆาตกรรม ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาพบร่างของเธอ นอนเสียชีวิตอยู่ในบังเกอร์หลบภัยในอีกสัปดาห์ถัดมา จุดดังกล่าวอยู่ห่างจากเมืองไปราวๆ 20 ไมล์

ผลการชันสูตรพบว่าเธอถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ กระดูกซี่โครงหักหลายแห่ง กะโหลกศีรษะบนใบหน้ายุบ และมีบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกายอีกหลายจุด แพทย์ยืนยันว่าเธอเสียชีวิตจากภาวะขาดอากาศหายใจ ขณะที่ผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวได้ เพราะการสุ่มตรวจเทียบดีเอ็นเอกับผู้คนบนเกาะ และพบว่าดีเอ็นเอใกล้เคียงกับหนุ่มชาวนารายนี้มากที่สุด กระทั่งเขายอมรับสารภาพออกมา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook