ชายไทยป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ติดเชื้อราในอากาศ 30 วันเสียชีวิต

ชายไทยป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ "ผสมภาวะติดเชื้อราในอากาศ" ไม่ถึง 30 วันเสียชีวิต

ชายไทยป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ "ผสมภาวะติดเชื้อราในอากาศ" ไม่ถึง 30 วันเสียชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมอมนูญ โพสต์เล่าถึงเคสผู้ป่วยชาวไทยที่เป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A แต่มีอาการแทรกซ้อน จากภาวะติดเชื้อราที่ลอยปะปนอยู่ในอากาศ ทำให้เสียชีวิตลงหลังรักษาไม่ถึง 30 วัน

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบทางเดินหายใจ ได้โพสต์เล่าถึงเคสผู้ป่วยรายล่าสุดผ่านเฟซบุ๊ก หลังพบว่าผู้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A แต่ปรากฏว่าติดเชื้อราที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศเข้าไป ทำให้อาการลุกลามส่งผลให้ปอดอักเสบและเสียชีวิต

ผู้ป่วยชายไทย อายุ 57 ปี สุขภาพปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ สูบบุหรี่ครึ่งซองต่อวัน ก่อนหน้าที่จะไม่สบาย ได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลติดต่อกันหลายวัน หลังจากนั้นเริ่มมีอาการไอแห้งๆ มีไข้ และรู้สึกเหนื่อยมากมา 3 วัน ไม่มีอาการปวดหัวปวดตัว ไม่มีน้ำมูกหรือเจ็บคอใดๆ

ต่อมาได้เข้านอนรักษาในโรงพยาบาล ทำการเอ็กซเรย์ปอดพบว่าผิดปกติ มีฝ้าขาวทั้งสองข้าง คลื่นหัวใจปกติ ตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง (Echocardiogra ) พบการบีบตัวของหัวใจห้องซ้ายล่าง (Ejection Fraction) ปกติ แต่ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำมาก จึงตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่จากช่องจมูกด้วยวิธีที่รวดเร็วให้ผลลบ แต่ก็ให้ยารักษาไข้หวัดใหญ่ Tamiflu ครบ 5 วัน ให้ยาปฏิชีวนะและสเตียรอยด์

แต่ปรากฏว่าผู้ป่วยยังรู้สึกเหนื่อย ต้องให้ออกซิเจนตลอดเวลา เอ็กซเรย์ปอดดูก็ยังไม่ดีขึ้น ทำคอมพิวเตอร์ปอดเห็นผิดปกติข้างซ้ายมากกว่าข้างขวา ต่อมาปอดข้างขวามีภาวะรั่วประมาณ 15% ช่วงสัปดาห์ที่ 2 อาการดีขึ้นเล็กน้อย อาการปอดรั่วดีขึ้น ก่อนจะแย่ลงอีกในวันที่ 17 ที่นอนรักษาตัว ผู้ป่วยรู้สึกหนื่อยมาก เอ็กซเรย์ปอดดูก็เห็นว่าแย่ลง ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ

ถึงแม้จะให้ออกซิเจน 100% ระดับออกซิเจนในเลือดก็ยังต่ำมาก แพทย์ส่องกล่องเข้าไปดูในหลอดลม พบเห็นตุ่มเล็กๆ อยู่ในหลอดลมใหญ่ด้านขวาหลายตุ่ม จึงดูดเสมหะในหลอดลมและตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ ปรากฏว่าพบเชื้อราสายเป็นจำนวนมาก

และส่งตรวจหาสารพันธุกรรม PCR ของไข้หวัดใหญ่จากเสมหะในหลอดลม พบเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ได้ให้ยารักษาไข้หวัดใหญ่ตัวใหม่ Xofluza และยาฆ่าเชื้อราวอริโคนาโซล (voriconazole) ร่วมกับยาฆ่าเชื้อรา Ambisome ผลเพาะเชื้อราขึ้นเชื้อ Aspergillus fumigatus และ Aspergillus flavus ได้ให้ยาฉีดเพิ่มภูมิคุ้มกันอิมมูโนโกลบูลินจี (IgG) ผู้ป่วยก็ไม่ดีขึ้น ในที่สุดเสียชีวิตหลังจากนอนรักษาตัวได้เกือบๆ 30 วัน

ทั้งนี้ หมอมนูญ สรุปให้ว่า ผู้ป่วยรายนี้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และมีอาการปอดอักเสบรุนแรง ระบบหายใจล้มเหลว ได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อไข้หวัดใหญ่ทำให้ดีขึ้นชั่วคราว แต่กลับพบว่าติดเชื้อราแอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus) ที่ลอยปะปนอยู่ในอากาศ ทำให้เชื้อลุกลามและถึงขั้นเสียชีวิต

นอกจากนี้ คุณหมอยังให้ข้อมูลว่า โรคไข้หวัดใหญ่ในไทย ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2562 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีผู้ป่วยเกือบ 2 แสนคน เสียชีวิตแล้ว 14 ราย โดยส่วนใหญ่เกิดจากภาวะติดเชื้อไวรัส ทำให้มีการอักเสบของเยื่อบุผนังถุงลมและผนังหลอดเลือดในถุงลมอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อปอด ไม่สามารถรับออกซิเจนจากอากาศที่หายใจได้ เกิดภาวะร่างกายขาดออกซิเจนและมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา กระทั่งถึงขั้นเสียชีวิตลง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook