หนุ่มขับเก๋งแต่งซิ่งลอบส่งยาบ้าคิดว่าทางสะดวก สุดท้ายโดนจับคาหนังคาเขา

หนุ่มคิดว่าตำรวจไปทำบุญไม่ว่างวันเข้าพรรษา ขับรถเก๋งแต่งซิ่งมากับเยาวชนชายอายุ 17 ปี ลอบส่งยาบ้าเกือบ 2,000 เม็ด สุดท้ายถูกตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ รวบตัวได้พร้อมของกลาง

วันที่ 17 กรกฎาคม 2562 พ.ต.ต.ณรงฤทธิ์ งามแฉ่ง สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ (ส.ทล.3 กก.2) ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.สำราญ แก้วโก รองสารวัตรตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ด.ต.วังทอง ศรัณวิริยะพงศ์ หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนเกาะหลัก ด.ต.ธำมรงค์ กำไลทอง และ ด.ต.ธีรยุทธ อรชุน รถวิทยุตรวจการณ์ 2321 ออกตรวจสิ่งผิดกฎหมาย

หลังรับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีพ่อค้ายาบ้าลักลอบส่งยาในพื้นที่โดยอาศัยวันหยุดเข้าพรรษา อำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว ประชาชนจำนวนมากเดินทางไปทำบุญ ท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้เฝ้าตรวจสอบรถยนต์ที่เข้ามาในพื้นที่ ที่คนขับหรือผู้โดยสารอาจจะมีท่าทีพิรุธเป็นที่ผิดสังเกต

กระทั่งรถวิทยุตรวจการณ์ 2321 พบรถต้องสงสัยเป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กท 1137 ประจวบคีรีขันธ์ ลักษณะแต่งซิ่ง โหลดเตี้ย ติดสติ๊กเกอร์สีดำที่โคมไฟ ขับมาจอดอยู่ริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 311 ใกล้สี่แยกเกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าสังเกตการณ์จึงได้เข้าตรวจสอบ โดยพบคนขับและผู้โดยสารรวม 2 ราย แสดงอาการตื่นตกใจมีพิรุธเมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าขอตรวจสอบ ทราบชื่อต่อมาคือ นายณัฐวุฒิ อายุ 27 ปี เป็นคนขับ และเยาวชนชาย อายุ 17 ปี นั่งโดยสารมาด้วย

เมื่อตรวจค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจพบกระเป๋าสะพาย คาดอกสีเขียวขี้ม้า วางไว้บริเวณที่วางเท้าฝั่งผู้โดยสาร เมื่อเปิดออกพบกล่องกระดาษสีน้ำตาล ด้านในพบยาบ้าบรรจุในถุงชนิดปิดเปิดสีน้ำเงิน มัดรวมกันห่อด้วยพลาสติกสีดำ โดยนำถุงมือสีดำสวมทับอีกชั้น ก่อนจะปิดใส่ในกล่องกระดาษหวังป้องกันกลิ่นยาบ้าเล็ดลอดออกมา ตรวจนับได้ทั้งหมด 1,950 เม็ด

เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองราย ระบุว่ามีอาชีพเป็นช่างซ่อมรถ โดยยอมรับว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยเพิ่งมารับยาบ้าในพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซื้อมาในราคาเม็ดละ 15 บาท และหวังนำไปขายให้ลูกค้าใน อ.ทับสะแก ซึ่งเป็นผู้ใช้แรงงานในราคาเม็ดละ 20 บาท โดยสาเหตุที่เลือกวันนี้มารับยาไปขายเพราะเห็นว่าเป็นวันหยุดเข้าพรรษา ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากเดินทางไม่น่าจะผิดสังเกต และคิดว่าตำรวจน่าจะไม่ว่าง เพราะต้องไปคอยดูแลประชาชนตามแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งนายณัฐวุฒิเคยต้องคดีข้อหายาเสพติดถูกจับคุกมาแล้วถึง 2 ครั้ง

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ได้คุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายต่อไป