ทนายผู้เสียหาย "แพรวา 9 ศพ" โร่แจงแนวทางการทำคดี
ทนายความผู้เสียหายคดี "แพรวา 9 ศพ" ออกโรงแจงแนวทางการทำคดี หลังศาลพิพากษาครบ ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง
คดีแพรวา 9 ศพ ที่สังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง จากกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมกับสังคม และกระทรวงยุติธรรมได้เสนอแนะแนวทางการติดตามการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายจากคู่กรณีทั้ง 4 คน
นายวีระศักดิ์ ทัพขวา หัวหน้าสำนักงานให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย พร้อมทีมทนายความ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ร่วมกันแถลงข้อเท็จจริงในทางคดี จากกรณีคดีแพรวา 9 ศพ ที่สังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมกับสังคม
เบื้องต้น ทางกระทรวงยุติธรรมได้เสนอแนะแนวทางการติดตามการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายจากคู่กรณีทั้ง 4 คน โดยได้เรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ที่มีการฟ้องร้องคดี, ผลคำพิพากษาในคดีอาญา และคดีแพ่ง ก่อนชี้แจงแนวทางการติดตามเยียวยาค่าเสียหายว่า ขณะนี้ทีมทนายเริ่มดำเนินการขอศาลแพ่งบังคับคดีไปแล้ว อยู่ในขั้นตอนการออกหนังสือไปขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี
ซึ่งยอมรับว่าต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายในการสืบทรัพย์ของคู่กรณี ซึ่งหากจำเลยยินยอมชดใช้ค่าเสียหายโดยไม่ต้องมีการบังคับคดี ก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เสียหายมากกว่า รวมถึงคู่กรณีเองที่ไม่ต้องถูกฟ้องยึดทรัพย์สิน และที่ดิน
ส่วนกรณีที่มีการชดใช้ค่าเสียหายล่าช้า ในมุมมองทีมทนายความมองว่า สาเหตุหนึ่งคือต้องรอฟังผลคดี 13 คดี แยกกันไปตามจำนวนโจทก์ ให้ได้ข้อสรุปที่สิ้นสุดก่อน อีกส่วนมาจากเรื่องการเจรจาไกล่เกลี่ย และการส่งหนังสือคำบังคับคดีไปถึงมือจำเลยทั้ง 4 คน
ขณะนี้ทราบว่ามีเพียงบิดาของนางสาวแพรวา ที่ได้รับหนังสือไปแล้วเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามกฎหมายแล้วเข้าข่ายเป็นลักษณะการปิดหมาย ต้องรอเวลา 15 วัน เพื่อให้หนังสือบังคับคดีมีผล จากนั้นจำเลยจะมีเวลา 30 วัน ชดใช้ค่าเสียหาย ส่วนจำเลยอื่นๆ ทั้งนางสาวแพรวา, มารดา และเพื่อน ยังไม่พบรายงานจากศาลว่าได้รับหนังสือบังคับคดีดังกล่าวแต่อย่างใด
สำหรับคดีการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง ทีมทนายความได้รวบรวมความเสียหายเรียกร้องให้มีการชดใช้เงินประมาณ 113 ล้านบาท แต่หลังมีการต่อสู้คดีจนถึงศาลฎีกา ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้ง 4 คน ร่วมกันชดใช้เงินประมาณ 25 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553