โซเชียลเทียบคดี "แพรวา 9 ศพ - เสี่ยเบนซ์ชนรองตี๋" จิตสำนึกรับผิดชอบต่างกัน
กระแสในโลกโซเชียลมีเดีย ได้ปลุกแฮชแท็ก #แพรวา9ศพ กลับมาติดเทรนด์อันดับต้นๆ ของประเทศอีกครั้ง ท่ามกลางคำถามของสังคมถึงความคืบหน้าในกรณีนี้ โดยเหตุการณ์เกิดมาเกือบจะครบ 9 ปีเต็มแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจะยังไม่ได้รับความยุติธรรม การชดใช้หรือเยียวยาจากอุบัติเหตุครั้งนั้น
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นของคืนวันที่ 27 ธ.ค. 2553 เมื่อรถยนต์นั่งส่วนบุคคล สีขาว ฮอนด้า ซีวิค ขับโดย อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือ แพรวา ขณะนั้นอายุ 17 ปี ขับมาด้วยความเร็วแล้วพุ่งเข้าชนท้ายรถตู้สาธารณะบนทางยกระดับอุตราภิมุข ซึ่งมีผู้โดยสาร 14 คน เป็นเหตุให้รถตู้คันดังกล่าวฟาดกับขอบทางยกระดับอุตราภิมุขอย่างแรง มีผู้โดยสารกระเด็นออกจากรถ เบื้องต้นเสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บอีก 6 คน ต่อมา ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตลงอีก 1 คน รวมจำนวนผู้โดยสารเสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บ 5 คน ส่วน แพรวา บาดเจ็บเล็กน้อย
หลังใช้เวลาต่อสู้คดีกันนานถึง 9 ปี ศาลฎีฎา มีคำพิพากษาให้แพรวา จำคุกเป็นเวลา 2 ปี รอลงอาญา 3 ปี คุมประพฤติจำเลย 3 ปี พร้อมกับบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 48 ชั่วโมง และห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปี นอกจากนี้ ยังให้ แพรวาพร้อมพ่อแม่ และชายหนุ่มเจ้าของรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค ชดใช้ค่าเสียหายเยียวยาแก่ ญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 9 คน แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการจ่ายเงินสินไหมทดแทนให้เหยื่อและครอบครัวแต่อย่างใด
>> แม่แพรวาโอดลูกป่วยซึมเศร้าจนเลิกสามี ลั่นขายที่ดินชดใช้เหยื่อ วอนรัฐบาลออกเงินให้ก่อน
>> แพรวา 9 ศพ ขับรถขึ้นโทลเวย์ดอนเมืองคันละ 7 หลัก ก่อนเกิดเหตุเมื่อ 9 ปีก่อน
ในขณะเดียวกัน โลกออนไลน์ยังได้ยกเอาคดีดังที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากกรณี นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ที่ก่อเหตุเมาแล้วขับรถเบนซ์ ชนรถเก๋ง ของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. หรือ รองตี๋ เสียชีวิตพร้อมภรรยา ขณะที่ลูกสาวบาดเจ็บสาหัส โดยหลังเกิดเหตุนายสมชายได้มอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมทั้งสิ้นกว่า 45 ล้านบาท โดยไม่ได้รอให้ศาลสั่ง อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังได้มีการกราบขอขมาญาติและบวชหน้าไฟในงานฌาปนกิจศพ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตายด้วย
>> เสี่ยซิ่งเบนซ์ชนเก๋ง รอง ผกก.กองปราบ ดับคู่เมีย พบค่าแอลกอฮอล์สูงปรี๊ด
ในส่วนของคดีนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 ได้ยื่นฟ้อง นายสมชาย รวม 3 ข้อหา โดยอัยการสั่งไม่ฟ้องความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นฯ ตามที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนแจ้งข้อหาดังกล่าวมาด้วย เพราะพิจารณาแล้วพฤติการณ์ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดทางกฎหมาย
ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์แล้ว จึงเห็นสมควรให้มีการสืบเสาะและพินิจจำเลยก่อนมีคำพิพากษา โดยให้พนักงานคุมประพฤติรายงานผลการสืบเสาะนั้นให้ศาลทราบภายใน 15 วัน และให้นัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ เวลา 09.00 น.