The Popular Course

The Popular Course

The  Popular Course
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปฏิกรณ์ ศิลปรายะ
Photo by เล็ก

   
    พูดถึงสนามกอล์ฟใกล้กรุงเทพฯ ที่สวยและท้าทายที่สุด ถ้าให้หยุดคิดสักครู่ และไล่รายชื่ออันดับต้นๆ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อสนามกอล์ฟเมืองแก้วอย่างแน่นอน  ด้วยความที่เป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟใกล้ใจกลางกรุง เดินทางได้สะดวกรวดเร็ว และที่สำคัญยังมีเลย์เอาท์ที่ท้าทายฝีมือนักกอล์ฟทำให้สนามแห่งนี้ได้รับความนิยมจากบรรดาคอกอล์ฟมาตลอดตั้งแต่เปิดให้บริการจนกระทั่งปัจจุบัน     

     เมืองแก้ว เป็นสนามกอล์ฟ 18 หลุม  ระยะ 7,000 หลา พาร์ 72 ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่  เปิดให้บริการนักกอล์ฟทั้งสมาชิกและนักกอล์ฟทั่วไปเมื่อปี พ.ศ. 2535 ต่อมาในปี พ.ศ.2545  มีการปรับโฉมใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะในส่วนของสนามกอล์ฟได้รับการดีไซน์ใหม่โดยนักออกแบบสนามกอล์ฟระดับโลกอย่างบริษัท ‘ชมิดท์-เคอร์ลีย์ กอล์ฟ ดีไซน์’ ให้มีความสวยงามท้าทายได้มาตรฐานระดับสากล

    โดยในส่วนของกรีนได้ออกแบบปรับแต่งพื้นผิวสนาม (SHAPE CONTOUR) ใหม่ให้มีลูกเล่นท้าทาย และปรับโครงสร้างกรีนใหม่หมดไม่ว่าจะเป็นการทำระบบระบายน้ำใต้ผิว
กรีน และการเปลี่ยนชั้นรูท โซน ให้ได้มาตรฐานยูเอสจีเอ และที่สำคัญ เปลี่ยนหญ้าบนกรีนเป็นพันธุ์ ‘ทิฟอีเกิ้ล’ ซึ่งมีใบเล็ก ลำต้นแคระ ทำให้สปีดของลูกกอล์ฟเวลาพัตต์แล้วมีความเร็วเหมือนที่บางท่านเรียกว่า ‘กรีนกระจก’ นั่นเอง ส่วนแท่นทีออฟปรับปรุงใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และใช้หญ้ากำมะหยี่ (ZOYSIA TENUIFOLIA) แฟร์เวย์และรัฟมีการเชพคอนทัวร์ใหม่ให้มีลูกเล่นเพิ่มขึ้น ส่วนหญ้าเปลี่ยนเป็น พันธ์นวลน้อย (ZOYSIA MATRELLA)  สำหรับบังเกอร์ก็ปรับใหม่ทั้งหมด โดยเน้นให้เป็นอุปสรรคที่มองเห็นได้ทุกช็อต ส่วนรูปลักษณ์มีความสวยงามพลิ้วไหวสอดรับกับเม็ดทรายในบังเกอร์ที่เป็นสีขาวอมชมพู ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของสนามเลยทีเดียว แต่ต้องขอบอกว่าเป็นสวยประหารแน่ๆ ถ้าลูกตกทรายลงไป สุดท้ายในส่วนเลย์เอาท์ และ แลนด์สเคปของต้นไม้ยังคงเอกลักษณ์ของ ต้นไม้ใหญ่ที่เป็นธรรมชาติเดิมไว้ทั้งหมด จะมีบางหลุมที่โยกย้ายต้นไม้เข้ามามีส่วนกับเกมเพิ่มขึ้นโดยทำให้เป็นอุปสรรคเพิ่มความท้าทายขึ้นอีกจุดหนึ่ง

ความท้าทาย
    นักกอล์ฟจะได้เผชิญกับการเล่นกอล์ฟที่สุดสนุกและท้าทายฝีมือ พื้นที่แฟร์เวย์ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ บางหลุมแคบ บางหลุมกว้างสลับกันไป รัฟค่อนข้างเหนียว บังเกอร์ได้รับการออกแบบให้ค่อนข้างยากพอสมควร มีความลึกและค่อนข้างสูงชัน นักกอล์ฟที่ไม่ชำนาญในการเล่นลูกแบบนี้รับรองว่าเจองานหินแน่ๆ   มาถึงกรีนถือเป็นอีกจุดเด่นที่นักกอล์ฟต้องพบกับความเจ้าเล่ห์ อีกทั้งยังยกสูงขึ้น มีสโลปลาดเอียง บางหลุมแม้ว่ากรีนจะใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆในการจะทำ 1พัตต์ให้ลง   ถ้าออก 3 พัตต์ก็อาจเป็นเรื่องปกติ

หลุมเด่น
    * หลุม 3 พาร์ 3 ระยะหมุดน้ำเงิน 149 หลา หมุดขาวระยะ 138 หลา และหมุดแดงระยะ 123 หลา  หลุมนี้ได้รับการปรับแต่งให้สวยงามแต่ท้าทายฝีมือลูกสั้นอย่างยิ่ง กรีนค่อนข้างเล็กอีกทั้งยังลาดเอียง  มีอุปสรรคทั้งน้ำและทรายขนาดใหญ่ขวางหน้ากรีน และหากไม่สามารถควบคุมการตีให้ลูก
ตกหยุดแล้วจะทำให้ลูกทะลุลงทรายหลังกรีนได้ และหากระเบิดทรายกลับมาก็อาจตกทรายหรือน้ำด้านหน้าอีกรอบ เสน่ห์ของหลุมนี้อยู่ที่การวางช็อตแรก อีกทั้งยังมีแนวต้นไม้ใหญ่เรียงรายสวยงามแต่ก็ท้าทายทำให้นักกอล์ฟต้องระมัดระวังการเล่นเป็นอย่างมาก

    * หลุม 7 พาร์ 3 ระยะหมุดน้ำเงิน 145 หลา  หมุดขาวระยะ 123 หลา และหมุดแดงระยะ 108 หลา หลุมนี้เป็นหลุมพาร์ 3 ที่มีระยะสั้น แต่มีความสวยงามมากอีกหลุม การวางเลย์เอาท์ จึงวางกับดักไว้ครบครัน ช็อตแรกต้องตีข้ามน้ำให้ได้ระยะลูกตกบนกรีนพอดีส่วนด้านซ้ายและขวาของกรีนมี
บังเกอร์คอยดักลงโทษ กรีนค่อนข้างยาวและมีคอนทัวร์เยอะ โอกาสที่จะเสียแต้มจากการทำ 3
พัตต์มีค่อนข้างสูง

    * หลุม 13 พาร์ 5  ระยะหมุดน้ำเงิน 570 หลา หมุดขาวระยะ 551 หลา และหมุดแดงระยะ494 หลา หลุมนี้เดิมเป็นหลุมพาร์ 4 หรือนักกอล์ฟเรียกว่า ‘หลุมระฆัง’ แต่ได้ปรับเปลี่ยนเลย์เอาท์ใหม่เพิ่มระยะความยาวให้เป็นหลุมพาร์ 5 ที่เป็นด๊อกเลกขวา  จากจุดทีออฟมองไม่เห็นเลย์เอาท์ที่จะไดรฟลูกออกไปเลย ส่วนด้านซ้ายของแฟร์เวย์ระยะประมาณ 200 หลา มีทะเลสาบทอดยาวขนานกับแนวแฟร์เวย์ไปตลอดจนถึงกรีน  นักกอล์ฟต้องวางแผนการเล่นและการวางตัวที่ดีทุกช็อต  ใครที่ตีไกลมีโอกาสทำเบอร์ดี้หรืออีเกิ้ล ได้พอๆกับการทำโบกี้และดับเบิ้ลโบกี้

     * หลุม 16 พาร์ 4 ระยะหมุดน้ำเงิน 297 หลา หมุดขาวระยะ 277 หลา และหมุดแดงระยะ213 หลา  เป็นหลุมพาร์ 4 ที่ค่อนข้างสั้น มีโอกาสทำวันออนได้ มองผิวเผินเหมือนตีค่อนข้างง่าย แต่ธรรมชาติของหลุมพาร์ 4 สั้นจะมีอุปสรรคที่ค่อนข้างยาก หลุมนี้ก็เช่นเดียวกันที่มีเป็นบังเกอร์ทรายยกขบวนมาล้อมกรีน รวมทั้งที่อยู่ในแฟร์เวย์ทั้ง
ด้านหน้าและด้านขวา รวมแล้วมีบังเกอร์อยู่ทั้งหมดหกบังเกอร์ ไม่แปลกใจถ้าจะตีไปบังเกอร์ทรายอีกหลุม เหมือนคำศัพท์ที่เรียกว่า ‘ทราย 1 เรียก ทราย 2’ นักกอล์ฟมีโอกาสทำอีเกิ้ลได้ง่ายพอๆกับการออกดับเบิ้ลโบกี้

    สำหรับหลุมที่ไม่ได้แนะนำไว้ก็ท้าทายไม่แพ้กัน ทุกหลุมได้รับการออกแบบให้มีโจทย์และการบ้านให้นักกอล์ฟได้คิดและวางแผนการเล่นเสมอ อย่างเช่นหลุม 18 หลุมจบที่แสนประทับใจ แม้จะมีแฟร์เวย์กว้างในลูกเดินทาง แต่เมื่อช็อต 2 ขึ้นกรีนแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกต่อไป กรีนยกสูงมีสโลปลาดเอียง แถมบ่อน้ำเล็กๆดักหน้ากรีน พร้อมบังเกอร์ทรายที่วางไว้ด้านหน้าและข้างๆกรีนอีก แอพโพรชลูกขึ้นกรีนไม่ดีเจอลงโทษจากทรายหรือน้ำได้ทั้งสองอย่าง แต่ตกทรายดีกว่าตกน้ำครับ 

    สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกของสนามกอล์ฟเมืองแก้วนั้น หลังการปรับปรุงใหม่ในปี พ.ศ.2545 ทำให้ในส่วนของคลับเฮาส์สวยงามมากขึ้น รวมทั้งล็อกเกอร์รูมทั้งชายและหญิงที่สามารถรองรับนักกอล์ฟได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีโปรช็อปที่กว้างขวางจำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ส่วนของภัตตาหารก็มีเมนูหลากหลายแสนอร่อยทั้งไทยและเทศให้เลือกชิม  พร้อมทั้งระเบียงที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ในสนามกอล์ฟ และกรีนของหลุม 18 ส่วนนักกอล์ฟที่เมื่อยล้าจากการออกรอบยังมีสปาไว้บริการผ่อนคลายอีกด้วย

    การเดินทางมาสนามแห่งนี้ ผมเชื่อว่านักกอล์ฟต่างก็คุ้นเคย เปรียบเสมือนเป็นสนามกอล์ฟหลังบ้าน เพราะห่างจากใจกลางเมืองแค่อึดใจเดียว แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยมา สามารถเดินทางโดยใช้เส้นมอเตอร์เวย์ เลี้ยววงแหวนรอบนอกบางนา ขับมาเรื่อยๆ จะเจอป้ายบอกทางอย่างชัดเจน และถ้ามาจากบางนา ให้ใช้เส้นทางถนนบางนา-ตราด ขับตรงมาถึงเทสโก้ โลตัส บางนา เตรียมกลับรถบนสะพานก็จะเจอทางเข้าสนามกอล์ฟเมืองแก้วทันที ทางเดียวกับทางเข้าโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว

    สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการทดสอบ  ต้องขอบอกว่าจัดก๊วนแล้วโทรจองเวลาได้เลย เพราะตอนนี้สภาพสนามสมบูรณ์สุดๆ น่าออกรอบมาก  เหนืออื่นใดนักกอล์ฟที่มีโอกาสมาแล้วต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สนามกอล์ฟแห่งนี้เป็นสุดยอดสนามที่ดีที่สุดที่อยู่ใกล้ใจกลางเมือง

สนามกอล์ฟเมืองแก้ว
ที่ตั้ง  52 หมู่ 8 บางนา-ตราด กม.7.7  ต.บางแก้ว อ.บางพลี  จ.สมุทรปราการ  10540
โทรศัพท์ 02 740-2693-700 โทรสาร 02-740-2691  
www.muangkaewgolf.com 

ออกแบบโดย            ชมิดท์-เคอร์ลีย์ กอล์ฟ ดีไซน์     
ระยะ                        7,000 หลา พาร์ 72
ขนาด                       18 หลุม

กรีนฟี                       วันธรรมดา     2,500 บาท
วันหยุด                     3,500 บาท
สมาชิก                     วันธรรมดา    1,400 บาท
วันหยุด                     2,100 บาท
แคดดี้                       250 บาท
รถกอล์ฟ                   600 บาท
ค่าเช่าชุดไม้กอล์ฟ     1,000 บาท
ค่าเช่ารองเท้า            150 บาท
ค่าเช่าร่มกอล์ฟ           100 บาท

สนับสนุนเนื้อหาโดย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook