"เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" วิกฤตหนัก ระดับน้ำลดลงเหลือเพียง 4%

"เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" วิกฤตหนัก ระดับน้ำลดลงเหลือเพียง 4%

"เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" วิกฤตหนัก ระดับน้ำลดลงเหลือเพียง 4%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี เผชิญหน้าภัยแล้งหนักสุดในรอบหลายปี ระดับน้ำในเขื่อน ลดลงเหลือเพียงแค่ 4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

นายศุภชัย มโนการ ผู้อำนวยการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่าปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ยังคงวิกฤตหลังจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ล่าสุดปริมาณน้ำสะสมอยู่ในอ่างเก็บน้ำร้อยละ 4.82 เปอร์เซนหรือมีน้ำสะสมอยู่ที่ 46 ล้าน ลบ.ม. จากความจุทั้งหมดที่ 960 ล้าน ลบ.ม. โดยไม่มีฝนตกลงมาในลุ่มน้ำป่าสักเลยทำให้ไม่มีน้ำไหลลงอ่างของเขื่อน

แต่ทางเขื่อนป่าสักจำเป็นต้องระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนเพื่อรักษาระบบนิเวศและใช้ในการอุปโภคบริโภค จากสภาพน้ำที่ลดลงของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในปีนี้ทำให้มองเห็นชุมชนเก่า บ้านเรือน วัด ที่ถูกน้ำท่วมจมอยู่ใต้เขื่อนโผล่ขึ้นมาให้ได้เห็นอีกครั้งในรอบหลายปี และจะเป็นจุดท่องเที่ยวอีกขุดของเขื่อนช่วงน่าแล้ว

สำหรับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จังหวัดลพบุรี ในปีนี้มีปริมาณน้ำน้อยเท่ากับปี 2558 ที่แล้งหนักมีปริมาณน้ำสะสมอยู่ในระดับเดียวกัน และขณะนี้ทางเขื่อนป่าสักได้มีการทำกาลักน้ำเพื่อผันน้ำไปช่วยหมู่บ้านท้ายเขื่อนให้ใช้ในการอุปโภคบริโภคและ เนื่องจากปัจจุบันปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้อย

กรมชลประทาน โดย สำนักงานชลประทานที่ 10 จึงได้ดำเนินการส่งน้ำให้กับพื้นที่ 3 อำเภอ ของจังหวัดลพบุรี ได้แก่ อำเภอสระโบสถ์ อำเภอโคกเจริญ และอำเภอโคกสำโรง โดยทำการสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ส่งน้ำตามระบบท่อ ไปยังพื้นที่ดังกล่าว อำเภอละ 10,000 ไร่ รวมพื้นที่กว่า 30,000 ไร่ ในขณะที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำได้ลดระดับลง จึงส่งผลให้การเดินเครื่องสูบน้ำทำได้อย่างจำกัด จากปกติเคยสูบได้วันละประมาณ 20,000 ลูกบาศก์เมตร แต่ตอนนี้สูบได้เพียงวันละประมาณ 8,333 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ถึงอย่างไรก็ตามปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ยังคงเพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำของราษฎรในพื้นที่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook