ดีเอสไอ ออกโรงเตือนรับจ้าง กดไลก์-กดแชร์ เสี่ยงผิดกฎหมาย

ดีเอสไอ ออกโรงเตือนรับจ้าง กดไลก์-กดแชร์ เสี่ยงผิดกฎหมาย

ดีเอสไอ ออกโรงเตือนรับจ้าง กดไลก์-กดแชร์ เสี่ยงผิดกฎหมาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดีเอสไอชี้แจงกรณีธุรกิจ Nice Review บนเฟซบุ๊ก มีการนำภาพตราสัญลักษณ์ดีเอสไอมาเชิญชวนสร้างความเชื่อถือเพื่อให้กดไลก์ กดแชร์ ระวังรับจ้างกดไลก์-กดแชร์เสี่ยงผิดกฎหมาย

ภายหลังมีประชาชนเข้ามาสอบถามทางเฟซบุ๊กของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถึงกรณีข้อความแจ้งสมาชิกของธุรกิจ Nice Review บนระบบสังคมออนไลน์ มีการนำภาพตราสัญลักษณ์ดีเอสไอมาประกอบ และระบุข้อความซึ่งไม่เป็นความจริง พร้อมเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ธุรกิจ Nice Review เป็นการเชิญชวนประชาชนทั่วไปที่ให้ระบบออนไลน์เฟซบุ๊ก ให้กดไลก์ กดแชร์ และให้ความคิดเห็นหรือคอมเมนต์ในเชิงบวกแก่งานโฆษณาบนระบบเฟซบุ๊กที่ Nice Review เตรียมไว้ในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อโปรโมทเพจของผู้ประกอบการให้เกิดความน่าเชื่อถือ

โดยในการสมัครสมาชิกและมีรหัสให้ โดยมีค่าใช้จ่ายในการสมัครด้วยและมีการกำหนดค่าตอบแทนเป็นลำดับชั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวตรงกับคำนิยาม “กู้ยืมเงิน” ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ที่รวมถึงการรับสมัครเป็นสมาชิกโดยมีการจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้สมัคร แต่ขณะนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริง ว่า บริษัทมีฐานรายได้จากที่ใดที่นำมาจ่ายเป็นค่าตอบแทนให้สมาชิก และอัตราผลตอบแทนเป็นอย่างไร ซึ่งจะมีการตรวจสอบต่อไป

นอกจากนี้จากการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว ขอชี้แจงต่อสาธารณชนว่า

1. กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการเปิดช่องทางให้ประชาชนแจ้งข้อมูลเบาะแสในเรื่องต่างๆ รวมทั้งมีการจัดทำโปรแกรมประยุกต์ชื่อ “ตรวจสอบแชร์ลูกโซ่” ที่ทำงานบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเป็นการฉ้อโกงประชาชนตามหัวข้อที่กำหนด รวมทั้งมีช่องทางในการแจ้งเบาะแสในส่วนแชร์ลูกโซ่ผ่านโปรแกรมดังกล่าว ซึ่งในการตอบผลการพิจารณาจะเป็นเรื่องระหว่างผู้แจ้งเบาะแสกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยเป็นการพิจารณาเบื้องต้น ตามข้อเท็จจริงที่ได้รับ หากเห็นว่าข้อเท็จจริงไม่เพียงพอ จะแนะนำให้ยื่นคำร้องเป็นหนังสือเข้ามายัง ดีเอสไอ แนะนำให้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุหากพบว่าตนเองได้รับความเสียหาย

2. การนำตราสัญลักษณ์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตและนำไปประกอบข้อความข้างต้นอาจทำให้ประชาชนสับสนว่า การกระทำดังกล่าวไม่เป็นความผิดที่เป็นคดีพิเศษและกรมสอบสวนคดีพิเศษรับรองแล้ว ดังนั้น พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมอบหมายให้กองบริหารคดีพิเศษ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการรับเรื่องราวร้องทุกข์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว

3. จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าธุรกิจ Nice Review เป็นการเชิญชวนประชาชนทั่วไปที่ใช้ระบบสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก ให้กดไลก์ กดแชร์ และให้ความคิดเห็นหรือคอมเมนต์ในเชิงบวกแก่งานโฆษณาบนระบบเฟซบุ๊กที่ Nice Review เตรียมไว้ในแต่ละวันอย่างต่อเนื่องเพื่อโปรโมทเพจของผู้ประกอบการให้เกิดความน่าเชื่อถือ โดยในการสมัครสมาชิกและมีรหัสให้โดยมีค่าใช้จ่ายในการสมัครด้วย และมีการกำหนดค่าตอบแทนเป็นลำดับชั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวตรงกับคำนิยาม “กู้ยืมเงิน”

โดยตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ที่รวมถึงการรับสมัครเป็นสมาชิกโดยมีการจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้สมัคร แต่ขณะนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัทมีฐานรายได้จากที่ใดที่นำมาจ่ายเป็นค่าตอบแทนให้สมาชิก และอัตราผลตอบแทนเป็นอย่างไร ซึ่งจะได้ตรวจสอบต่อไป

กรณีดังกล่าวยังอาจเข้าข่ายความผิดอาญาอื่น เนื่องจากการกดไลก์ กดแชร์ และให้ความคิดเห็น หรือคอมเมนต์ไม่ได้เกิดจากความต้องการหรือความคิดเห็นที่แท้จริง จึงอาจทำให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อในสินค้าหรือบริการว่ามีคุณภาพหรือจริงดังคำโฆษณาทั้งที่ไม่เป็นความจริง พฤติการณ์ดังกล่าวอาจเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 22 ในเรื่องการโฆษณาที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรืออาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมในส่วนรวม

รวมถึงอาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) และ (5) ในการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข้อมูลบิดเบือนโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน รวมทั้งการเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่มีลักษณะดังกล่าวก็เป็นความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกด้วย

ดีเอสไอ แจ้งเตือนไปยังประชาชนทั่วไปให้พึงระมัดระวังในเรื่องดังกล่าวให้ทราบว่าแชร์ลูกโซ่มักจะมาในรูปแบบของธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่น่าสนใจ และโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนในระยะสั้นโดยอ้างว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราที่สูง

โดยใช้วิธีการนำเงินจากผู้ที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่จ่ายผลตอบแทนให้สมาชิกเก่าเพื่อให้เห็นว่าธุรกิจสามารถดำเนินการได้จริง ภายหลังที่ระดมทุนได้มากแล้ว จะหยุดดำเนินการและหลบหนีไปพร้อมเงินของผู้เสียหาย ซึ่งจะเกิดความเสียหายลุกลามอย่างรวดเร็ว ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ โดยควรศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจก่อนเข้าร่วมลงทุน และหากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามหรือให้ข้อมูล ได้ที่สายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 (โทรฟรีทั่วประเทศ)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook