อินเดียรอลุ้นทะยานขึ้นอันดับ 4 ชาติผู้ส่งยานสู่ดวงจันทร์ได้สำเร็จ
อินเดียจ่อขึ้นแท่นเป็นอันดับที่ 4 ของชาติที่สามารถส่งยานอวกาศขึ้นไปสู่ดวงจันทร์ได้สำเร็จ หลังปฏิบัติการลับๆ "จันทรายาน-2" ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ (22 ก.ค.) อินเดียประสบความสำเร็จในการส่ง “มูน มิชชัน-2” (Moon Mission-2) หรือ “จันทรายาน-2” (Chandrayaan-2) ขึ้นสู่วงโคจรโลกแล้ว หลังภารกิจในวันที่ 15 กรกฎาคม ถูกยกเลิกไป เนื่องจากเกิดความขัดข้องทางเทคนิค
"ยานปล่อยดาวเทียม MkIII-M1 ที่บรรทุกจันทรายาน-2 ได้ถูกยิงขึ้นสู่อวกาศ จากเกาะศรีหาริโคตร (Sriharikota) แล้ว" องค์กรวิจัยอวกาศแห่งอินเดีย (ISRO) ทวีตข้อความเช่นนี้ พร้อมยืนยันว่ายานเป้าหมายที่ส่งขึ้นไป ได้เข้าสู่วงโคจรค้างฟ้า (GTO) หรือ วงโคจรโลกแล้ว
จรวด "GSLV-Mk-III" ซึ่งบรรทุกยานโคจร ยานลงจอดวิคราม (Vikram) และยานสำรวจปราคยาอัม (Pragyaam) ได้ถูกยิงออกจากศูนย์อวกาศตีศธวัน (Satish Dhawan) บนเกาะศรีหาริโคตร (Sriharikota) นอกอ่าวเบงกอล ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐอานธรประเทศ ทางใต้ของอินเดีย เมื่อเวลา 14.43 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ อินเดียคาดว่ายานลงจอดและยานสำรวจทั้งสองจะตกลงสู่พื้นที่ใกล้ขั้วโลกใต้ของดวงจันร์ในช่วงต้นเดือนกันยายน และกลายเป็นยานอวกาศลำแรกที่ลงจอดในพื้นที่ดังกล่าว
หากปฏิบัติการลุล่วง อินเดียจะกลายเป็นประเทศที่ 4 ที่ลงจอดบนดวงจันทร์สำเร็จ รองจากสหรัฐอเมริกา รัสเซีย และจีน
“มูนมิชชัน” มีมูลค่าเกือบ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.62 พันล้านบาท) มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับน้ำ แร่ธาตุ และการก่อตัวของหินบนพื้นผิวดวงจันทร์
ในช่วงเช้าของวันจันทร์ บรรดานักวิทยาศาสตร์ขององค์กรฯ ยังได้จัดพิธีสวดภาวนาในวัดหลายแห่งที่อยู่ใกล้ฐานส่งจรวด พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างในสัปดาห์ที่แล้ว
องค์กรฯ ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับจรวด GSLV-Mk-III ว่ามีน้ำหนักราว 640 ตัน ความยาว 44 เมตรหรือสูงกว่าอาคาร 15 ชั้น เรียกได้ว่าเป็นจรวดที่มีน้ำหนักมากที่สุดและใหญ่ที่สุดของอินเดีย อีกทั้งมีความสามารถในการปล่อยดาวเทียมที่มีน้ำหนักมากถึง 4 ตัน