ไกรสร ร่ำไห้วอน พระเพชร สำนึกผิด!!! ปัดรสนิยมทางเพศวิตถาร
"ไกรสร"พร้อมครอบครับ"ดวงจันทร์"แถลงข่าว"พระเพชร"จะสร้างหุ่นแม่ หลั่งน้ำตาขอลูกสำนึกผิดกลับมาเป็นคนเดิม ปัดรสนิยมทางเพศส่อวิตถาร ลั่นคนปล่อยข่าวไม่จบง่ายๆ "จันทร์จวง"แจงไม่มีใครค้าน แค่อยากให้หลานตอบรายละเอียด เพื่อนสาวคนสนิท"พระเพชร"วอนหยุดใส่ร้าย ขู่ฟ้องหมิ่นประมาท
เพื่อนสาว"พระเพชร"วอนฝ่าย"ไกรสร"หยุดใส่ร้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า หลังเกิดความขัดแย้งรุนแรงระหว่าง"พระเพชร"หรือนายสรภพ ลีละเมฆินทร์" บุตรชายวัย 22 ปี ของ"พุ่มพวง ดวงจันทร์" หรือรำพึง จิตรหาญ ที่มีปัญหาทะเลาะกับพ่อ คือนายไกรสร แสงอนันต์ และญาติฝั่งแม่คือลุงและน้า กลางงานครบรอบ 17 ปีการเสียชีวิตของพุ่มพวง ที่วัดทับกระดาน จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน โดยประเด็นปัญหาอยู่ที่นายไกรสรและครอบครัวพุ่มพวงไม่เห็นด้วยกับการที่พระเพชรจะสร้างหุ่นพุ่มพวง โดยขอรับบริจาคเงินจากประชาชน เนื่องจากเกรงจะเกิดความเสียหายในภายหลัง ทั้งยังมองว่าระยะหลังพระเพชรเปลี่ยนไป ไม่ฟังคำของพ่อและญาติๆ เนื่องจากหลงเชื่อคนที่อาศัยอยู่ด้วย ขณะที่พระเพชรมองว่าที่ผ่านมาไม่มีใครที่สนใจดูแลพุ่มพวงอย่างจริงจัง แม้กระทั่งช่วงที่ป่วยก่อนเสียชีวิตก็มีสภาพเหมือนถูกทอดทิ้ง อีกทั้งยังมีเรื่องของทรัพย์สินพุ่มพวงที่ทิ้งไว้นั้น
น.ส.ธิดารัตน์ อรรถรัตน์ วัย 27 ปี พี่สาวคนสนิทที่ "พระเพชร" ไปอาศัยอยู่ด้วยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมการที่พระจะสร้างหุ่นถึงก่อให้เกิดปัญหาขนาดนี้ ทั้งฝ่ายนายไกรสรที่ไม่พอใจ รวมไปถึงนายอำนาจ จิตรหาญ ผู้เป็นลุง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้นายอำนาจไม่ถูกกับนายไกรสร และคุยดีกับพระเพชรมาตลอด แต่ถึงตอนนี้กลับเป็นตรงกันข้าม อย่างไรก็ตามเรื่องในครอบครัวโดยเฉพาะความขัดแย้งของนายไกรสรกับพระเพชร ซึ่งเท่าที่ทราบมีหลายเรื่องนั้น ต้องรอให้พระเพชรสึกออกมาแล้วพูดเองดีกว่า ส่วนตนขอชี้แจงเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องนั่นคือเรื่องสร้างหุ่นที่ขอยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส โดยหุ่นที่จะสร้างขึ้นมีมูลค่า 300,000 บาท ตอนนี้ได้เงินบริจาคมาเพียงหมื่นกว่าบาท ทั้งนี้หากได้มาครบเมื่อไหร่ก็จะจัดสร้าง โดยใส่ชื่อผู้บริจาคทุกคนไว้ที่ศาลาซึ่งตั้งหุ่นด้วย
"เรื่องเงินไม่ต้องกลัวเลย เพราะเราจะใส่ชื่อทุกคนไว้ ขนาดขอทานมาบริจาค 5 บาท พระยังให้จดชื่อไว้เลย" น.ส.ธิดารัตน์กล่าว
น.ส.ธิดารัตน์กล่าวอีกว่า ไม่เฉพาะเรื่องเงินบริจาคเท่านั้นที่โปร่งใส แต่เงินของพระเพชรก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยว ที่ผ่านมาพระเพชรออกเทปได้เงิน 19,000 บาทก็ไม่เคยยุ่ง เพราะที่บ้านทำธุรกิจหอพัก มีรายได้ดีอยู่แล้ว ส่วนตัวของพระที่ผ่านตนก็เห็นว่าเป็นไปตามปกติ ไม่ได้เป็นคนไม่ดี หรือเปลี่ยนไปอย่างที่มีคนปล่อยข่าว โดยที่ผ่านมาตนไม่เคยโต้ตอบ แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว
"อย่ามารุมรังแกเราเลย หยุดใส่ร้ายเราได้แล้ว ทนมา 3-4 ปี ถ้าไม่หยุดเราจะฟ้องหมิ่นประมาทนะ พระท่านเองก็เคยคิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง หรือจะให้ท่านฆ่าตัวตายซะก่อนถึงจะมาร้องไห้ ขอให้ท่านยกโทษให้ทีหลัง" น.ส.ธิดารัตน์กล่าว
แม่บุญธรรม"พระเพชร"บอกให้ใจเย็นไปขอโทษครอบครัวพ่อ
ด้านนางสุพรรณี สุปราการ มารดาน.ส.ธิดารัตน์ และแม่บุญธรรมของพระเพชร ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "เน็ก สเตชั่น บาย พรหมพร" ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ว่า จริงๆเรื่องของพ่อลูกควรจะคุยกันดีๆ ไม่น่าจะพูดผ่านสื่อมวลชนให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต อย่างไรก็ตามหลังจากเหตุการณ์วันที่ 13 ตนก็ได้บอกพระไปแล้วว่าเมื่อใจเย็นลงให้ไปขอโทษพ่อและญาติ
"บอกกับพระว่าเรื่องออกมาอย่างนี้ คนอื่นเขาจะไม่เข้าใจ นึกว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า ถ้าเย็นลงแล้วก็อยากให้ไปขอโทษ แต่พระบอกว่า โยมแม่จะให้อาตมากลับไปอีกเหรอ เขาจะฆ่าอาตมาให้ตาย ขนาดกลับไปยังไม่มีที่อยู่เลย"นางสุพรรณีกล่าว
นางสุพรรณีกล่าวด้วยว่า พระเพชรเป็นคนใจร้อนมาแต่ไหนแต่ไร แต่ระยะหลังเมื่อมาอยู่ด้วยกัน ตนก็พยายามสอนจนดีขึ้น
"ที่เลี้ยงเขาไว้เพราะสงสาร เห็นไม่มีที่จะไป ตอนที่เขาจะปั้นหุ่นพุ่มพวง เรายังจะออกเงินให้ บอกเขาแสนหนึ่งเดี๋ยวแม่ออกให้ ไม่เป็นไร เงินแค่นี้ แต่เขาก็อยากทำให้เป็นกุศล เป็นความตั้งใจของเขา" มารดาน.ส.ธิดารัตน์ กล่าว
"ไกรสร"ปัด ไม่มีรสนิยมทางเพศเข้าขั้นวิตถาร
ด้านนายไกรสร แสงอนันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเอง และไม่มีใครคิดว่าเป็นฝ่ายผิด ดังนั้นเรื่องนี้จึงยังไม่จบเสียที อย่างไรก็ดีในความคิดของตน พระเพชรไม่เคยเป็นเด็กดื้อรั้นหรือหัวแข็ง หากตั้งแต่ออกจากบ้านไป ก็เหมือนถูกใครล้างสมอง ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด
"ตั้งแต่พระออกจากบ้าน ผมเจอเขาแค่ 2 ครั้ง คือเมื่อครั้งไปออกรายการตีสิบ และล่าสุดเมื่อวันที่ 13 เมื่องานแม่เขา 3 ปีที่ออกจากบ้าน ผมไม่เคยติดต่อลูกได้เลย และทางนั้นก็ไม่เคยติดต่อผมสักครั้ง ถามหน่อยเถอะเขาเอาลูกผมไป แล้วผมยังต้องไปง้องอนเขาอีกเหรอ คนที่เอาลูกผมไปน่าจะเป็นฝ่ายเดินมาหาผมไม่ใช่เหรอ แล้วผมไม่เชื่อเด็ดขาดว่าลูกผมที่เคยเป็นเด็กดีจะกลายเป็นอย่างนี้ไปเองได้ ผมเชื่อว่าเขาต้องโดนอะไรสักอย่าง โดนของ โดนคุณไสยแน่ๆ"
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่านอกจากเรื่องสร้างหุ่นแล้ว ลึกๆสิ่งที่พระเพชรรู้สึกขัดแย้งกับนายไกรสรอย่างยิ่งคือเรื่องที่นายไกรสรมีรสนิยมทางเพศเข้าขั้นวิตถาร ซึ่งนายไกรสรกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง
"ผมเป็นมนุษย์ ไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน ไม่มีทางทำอะไรอุบาทว์อย่างนั้นหรอกครับ อยากรู้ว่าใครเป็นคนพูดเรื่องนี้ออกมา ซึ่งคงต้องรอให้พระสึกออกมาเสียก่อน และถ้าไม่ใช่ลูกเพชรพูด เพื่อที่จะใช้ตรงนี้เป็นข้ออ้างให้เขาโด่งดัง ผมก็จะพูดถึงความจริงของเรื่องนี้แบบหนึ่ง แต่ถ้าคนอื่นออกมาพูด ผมก็จะพูดอีกแบบหนึ่ง แต่ผมบอกตรงนี้เลยว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆหรอก คนที่ปล่อยประเด็นนี้ออกมา ผมไม่จบง่ายๆแน่"
"ไกรสร"หลั่งน้ำตา ขอทำทุกอย่างให้ลูก"เพชร"กลับมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมริชมอนด์ อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 มิถุนายน นายไกรสร พร้อมด้วย นางเล็ก จิตรหาญ แม่พุ่มพวง ,สลักจิตร ดวงจันทร์ ,จันทร์ดวง ดวงจันทร์,ดวงใจ ดวงจันทร์ น้องสาวพุ่มพวง แถลงข่าวกรณีพระสรภพ หรือเพชร ลีละเมฆินทร์ ลูกชายพุ่มพวง จะสร้างหุ่นพุ่มพวง
จันทร์ดวง กล่าวว่า พวกเราไม่ได้คัดค้านที่พระเพชรจะสร้างหุ่นพุ่มพวง แต่หลานต้องตอบให้ได้ว่า หุ่นสร้างเสร็จแล้วจะเอาไว้ที่ไหน งบประมาณเท่าไร ใครดูแลบัญชีรายรับรายจ่าย จะใช้เวลาสร้างนานเท่าไร เพราะรับบริจาคเงินจากแฟนเพลง และเราไม่ต้องการเข้าไปดูแล เพียงแต่ต้องการให้หลานตอบให้ชัดว่า จุดประสงค์ในการสร้างคืออะไร ที่ผ่านมาญาติไม่ออกมาพูดเพราะหุ่นทุกตัวที่สร้าง เขาสร้างกันเองไม่ได้รับบริจาคจากแฟนเพลง ต้องรอให้หลานสึกแล้วคงมีคำตอบ
ด้านนายไกรสร กล่าวว่า ตนเป็นจำเลยของสังคมมาตลอด เป็นความเจ็บปวดที่ไม่มีใครรู้สึกได้ ที่ผ่านมา เลี้ยงลูกด้วยความรัก ความทะนุถนอม เหตุการณ์ครั้งก่อน ยอมรับว่าผิด และกราบขอโทษคุณแม่เล็ก และญาติๆไว้แล้ว จากนั้นนายไกรสร ได้หลั่งน้ำตาและกราบของโทษแม่เล็กอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกล่าวอีกว่า การสูญเสียพุ่มพวงคือ การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของตน ขณะนี้ตนกำลังจะเสียลูกไปอีก อยากฝากไปถึงพระเพชรด้วย คนที่ทำผิดแล้วยอมรับผิดคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ครอบครัวอยากให้พระเพชรสำนึก หากกลับใจทุกคนให้อภัย เราทำเพื่อให้ลูกกลับมา ทุกคนรอการกลับมาของลูก
นายไกรสร กล่าวอีกว่า เพชรเป็นคนดีแต่ทุกวันนี้ไม่ใช่เพชร เราไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ตนอาจเลี้ยงลูกมาอย่างตามใจ เพราะเพชรไม่มีแม่ ตนอยากให้เพชรสบายที่สุด ลูกคิดให้มากๆ ทุกคนรอการกลับมาของลูก
ขณะที่ นางเล็ก กล่าวว่า ขอให้หลานมีความคิดกตัญญูต่อพ่อแม่ ยายจะดีใจมากๆ
แม่เลี้ยงแนะพระเพชรปรึกษาจิตแพทย์ ชี้สับสน เครียด
สิริกร อินทร์พรหม ภรรยานายไกรสร แสงอนันต์ หรือแม่เลี้ยงพระเพชร หรือนายสรภพ ลีละเมฆินทร์ อายุ 22 ปี ออกมาแถลง ที่จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 16 มิถุนายนหลังถูกฝ่ายแฟนสาวพระเพชรโต้กลับอย่างแรงว่าเป็นสาเหตุทำให้พระเพชรไม่ยอมกลับบ้านว่า ไม่เป็นเรื่องจริงและต้องการชี้แจงว่าไม่เคยตบโต๊ะหรือพูดว่าไม่ต้องกลับมาบ้านอีก ยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรอย่างนั้น ที่ผ่านมาดูแลพระเพชรอย่างดีในฐานะลูก รับรองได้ว่าลูกไม่ได้ติดยาก่อนที่จะออกไปอยู่กับแฟนสาว จึงต้องการออกพูดความจริงว่าแฟนของพระเพชรบิดเบือน
"ปรึกษาจิตแพทย์ที่รู้จักในเชียงใหม่ ซึ่งแนะนำว่าอยากให้พระเพชรปรึกษากับจิตแพทย์ เพราะท่าทางของพระเพชรเหมือนคนที่ตกอยู่ในภาวะสับสน เครียด หรือถูกหล่อหลอมไปในแนวทางที่ผิด ซึ่งน่าเป็นห่วง"
.......
คำต่อคำ ไกรสร - ญาติพุ่มพวง แถลงข่าว เปิดใจ
ที่แถลงข่าวในวันนี้เพื่ออะไร?
''ไก่-จันทร์จวง'' กล่าวว่า ''จริงๆ แล้วต้องขอบคุณสื่อที่ให้ความเมตตา สิ่งที่จะพูดคือเราทุกคนแม่น้า พี่ปุ้ม (นายไกรสร) ไม่ได้คัดค้านหลานปั้นหุ่นนะ เพียงแต่วันที่เกิดเรื่อง (13 มิ.ย. ที่วัดทับกระดาน) คือเราเข้าไปคุยพระหลาน ถามในสิ่งที่แฟนเพลงอยากรู้ ถามเรามาเรื่องปั้นหุ่นแม่ เวลาเราไปร้องเพลงตามที่ต่างๆ แฟนเพลงมาถามเราก็ตอบไม่ได้ เพราะเขานึกว่าหลานได้มาปรึกษาเราแล้ว พวกเราเองไม่ต้องการคัดค้านนะ เราต้องการถามเพื่อไขความกระจ่างที่จะทำขึ้นมา คือ
1. สร้างเสร็จแล้วตั้งที่ไหน
2.งบประมาณอยู่ที่เท่าไหร่
3. ใครดูแลบัญชีตรงนี้
4.ระยะเวลาในการปั้นนานเท่าไหร่
สิ่งที่พูดมาคืออยากมาขอย้ำเลยสิ่งที่บริจาคเข้ามา แม่ น้า พี่ปุ้ม ไม่เคยคิดที่จะเข้ามาดูแล ไม่ต้องการร่วมอยู่ด้วยอยู่แล้ว เพียงแต่ให้เขาตอบโจทย์ตรงนี้ออกมาให้ชัดเจน ตัวญาติจะได้ตอบคำถามแฟนเพลงได้ว่า หุ่นตัวนั้นจะตั้งตรงไหน เสร็จเมื่อไหร่ ถ้าหลานตอบได้ก็ไม่มีปัญหา หลานทำได้''
ที่ผ่านมาเวลาคนอื่นสร้างหุ่นทำไมไม่มีการท้วงติง?
''ไก่-จันทร์จวง'' กล่าวว่า ''ที่ผ่านมาทำไมญาติไม่ออกมาพูด เพราะหุ่นทุกหุ่นไม่มีปัญหา เพราะหุ่นทุกหุ่นไม่มีการเปิดรับบริจาค ไม่ว่าจะเป็นหุ่นที่ใหม่ (ใหม่ เจริญปุระ) หุ่นที่ยุ้ย (ยุ้ย ญาติเยอะ) สร้างขึ้น แล้วเขาก็เอามาไว้ที่วัดทับกระดานซึ่งเป็นศูนย์กลาง รวมทั้งอีก 2 หุ่นที่สร้างขึ้นมาไว้ที่บ้านแม่ ซึ่งค่ายโฟร์เอสฯ และค่ายท็อปไลน์ฯ ให้มา เรื่องเงินมันเป็นเรื่องละเอียดนะ''
''โอ่ง-สลักจิต'' กล่าวเพิ่มว่า ''สิ่งที่หลานทำเราไม่รู้ พอเรารู้ก็อยากให้หลานบอกให้ชัดเจน ณ วันนั้นมีโอกาสได้พูด จึงได้เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่วัดทับกระดานขึ้น เราเลยต้องมาตอบคำถามในวันนี้ว่าเพราะอะไร เพื่อความสบายใจของแฟนเพลงที่ร่วมทำบุญ ถ้าหลานมาคุยก่อนวันรับบริจาค จะไม่เกิดปัญหาเลยถ้าหลานชายตอบคำถามได้หมดก่อน คราวนี้ต้องรอให้หลานสึกทุกอย่างหลานคงจะออกมาตอบให้แฟนเพลงทุกคนได้ถาม เวลาไปร้องเพลงที่ไหนจะมีคนถามว่าหุ่นหลานจะสร้างเมื่อไหร่ ไว้ที่ไหน น้าตอบไม่ได้ เป็นคำถามที่เรางงไม่รู้จะตอบยังไง''
เรื่องที่เกิดมีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องไหม?
''ไก่-จันทร์จวง'' กล่าวว่า ''อันนี้ขอตอบให้ชัดเจนเลยนะคะ ระยะ 18 ปี ทุกคนเข้าใจว่าไม่ว่าใครทำอะไรกับพุ่มพวง ญาติได้ผลประโยชน์ตลอด ซึ่งทางญาติไม่ได้ผลประโยชน์อะไร ถามว่าพุ่มพวงให้อะไรกับเรา พี่ผึ้งให้คำว่าดวงจันทร์ ให้เป็นนักร้อง หาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เลี้ยงแม่ได้ นี่ก็คือสิ่งที่พี่ผึ้งให้มาพอแล้ว แต่ถ้าคนอื่นทำเกี่ยวกับพี่ผึ้ง ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงคอนเสิร์ตหรืออะไร ผู้ใหญ่ก็จะเอาไปให้ที่แม่เอง ตามที่เขาเห็นว่าสมควร มันไม่มีผลประโยชน์มาตั้งแต่ต้นแล้ว อันนี้คือสิ่งที่เราไม่ได้พูดเลย อันนี้ต้องขอบอกทุกวันนี้สิ่งที่เราได้คือจากแฟนเพลงที่รักในพุ่มพวง''
''โอ่ง-สลักจิต'' กล่าวเสริมว่า ''หนังสือที่พิมพ์กี่เล่ม กี่ฉบับ พิมพ์ซ้ำกันไปกี่ครั้ง เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย หุ่นที่วัดทับกระดานก็ให้ทางวัดเป็นผู้ดูแล''
สรุปว่า ''พระเพชร'' ปั้นหุ่นได้?
''ไก่-จันทร์จวง'' กล่วว่า ''หุ่นทุกหุ่นใครอยากปั้นก็ปั้นได้เลย เราไม่ได้ห้าม แต่ถ้าปั้นแล้วเอาไว้ในบ้านตัวเอง เป็นเงินของตัวเอง ไม่เอาออกมานอกบ้านให้คนกราบไหว้เพื่อหาผลประโยชน์ก็ทำได้''
วันนี้ ''ไกรสร'' รู้สึกอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น?
ไกรสรกล่าวว่า ''ผมกับพระลูกเพชรตลอดระยะเวลา 17-18 ปี มานี้ผมเป็นจำเลยของสังคมมาโดยตลอด เทปลับหรือไม่ลับที่ท่านได้ชม เปิดมาแล้วเมื่อ 17 ปีก่อน ความเจ็บหรือความอะไรก็ตามที่ได้รับไม่มีใครรู้สึกได้เท่าผม ผมเลี้ยงลูกมา 17 ปี ด้วยความทะนุถนอม ด้วยความรัก ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อน ผมยอมรับว่าผมผิด และผมได้ไปกราบแม่ (นางเล็ก จิตรหาญ แม่พุ่มพวง) และบอกขอโทษพวกน้องๆ (โอ่ง-ไก่-จิ๋ม น้องสาวพุ่มพวง) ไปแล้ว ไม่มีใครทราบ และผมก็ไม่จำเป็นต้องไปร้องแรกแหกกระเชอบอกใครว่าเราดีกันแล้ว จากเหตุการณ์เมื่อ 17 ปีก่อน ลูกเองไม่เคยได้รับความรู้สึก ที่ผมเจ็บปวดมาก่อน''
จังหวะนี้ นายไกรสรได้หยุดพักการแถลงข่าว พร้อมกับปล่อยโฮหลั่งน้ำตาลูกผู้ชาย หลังน้ำตาความเป็นสามีที่สูญเสียภรรยาสุดที่รัก และหลั่งในน้ำตาความเป็นพ่อออกมาอย่างไม่อายใคร ก่อนที่จะทำการแถลงข่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
''ผมรักพุ่มพวงมาก ลูกเป็นลูกคนเดียวที่เรามี สิ่งที่สูญเสียที่สุดคือ พุ่มพวงจากไป และขณะนี้ผมก็ได้สูญเสียลูกอีกคน ซึ่งไม่รู้ลูกจะอภัยให้พ่อเมื่อไหร่ ผมทำให้ทุกคนเดือดร้อน ครอบครัวจิตรหาญ ครอบครัวของผมเดือดร้อน ญาติพี่น้องผม แม่ของผมเดือดร้อนจากสิ่งที่ผมทำคนเดียว วันนี้ผมจะแจ้งให้ฟังว่าสิ่งที่ผมทำในอดีตผมต้องกราบขอโทษ''
จังหวะนี้นายไกรสรปล่อยโฮมากกว่าเดิม และลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินลงเวทีทั้งน้ำตา มุ่งตรงเข้าไปกราบตัก นางเล็ก จิตรหาญ แม่ของพุ่มพวง และนางมยุรี ถนอมวงศ์ พร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า ''ผมขอโทษครับแม่ ผมขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน'' ขณะที่บนเวที ''ไก่-จันทร์จวง, โอ่ง-สลักจิต, จิ๋ม-ดวงใจ'' ต่างก็พากันร่ำไห้ เมื่อได้เห็นภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า
จากนั้นนายไกรสรกลับขึ้นมาแถลงข่าวบนเวทีอีกครั้ง โดยประคอง นางเล็ก จิตรหาญ ขึ้นมานั่งบนเวทีด้วย โดยบรรดาสื่อมวลชนต่างก็เริ่มซักถามต่อทันที
อยากฝากอะไรถึง ''พระเพชร''?
ไกรสร กล่วว่า ''ผมอยากประกาศให้รู้ว่าครอบครัวเราไม่ได้มีอะไรต่อกันมานานแล้ว คนที่ทำผิดการให้อภัยคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สังคมยอมรับทุกคนยอมรับ นักโทษประหารถ้าสารภาพผิดยังลดการประหารลงได้เลย ถ้าทำผิดมาสารภาพผิดกับทุกคน พระเพชรต้องฟังป๊า ครอบครัวเราทุกคนอยากให้พระเพชรสำนึกไม่ว่าลูกจะทำกับป๊า ทำกับน้าๆ ขนาดไหน ทำกับยายขนาดไหน ทำกับครอบครัวเราขนาดไหน พระเพชรกลับใจทุกคนก็ให้อภัย นี่คือความเป็นครอบครัว ความเป็นลูกเพราะลูกคือหนึ่งเดียวของม่าม้าพุ่มพวงเราทำทุกวันนี้เพื่อให้ลูกกลับมา ใช่ว่ายายจะมีหลานเพชรคนเดียว ยายเองก็มีหลานหลายคนแต่ทำไมต้องเป็น เพราะเพชรมีเลือดของแม่ผึ้ง ขนาดนี้แล้วลูกคิดให้ได้นะ...ทุกคนรอการกลับมาของลูก (ปล่อยโฮ)''
เวลานี้คุณยายอยากบอกอะไรกับหลานบ้าง?
''ไก่-จันทร์จวง'' กล่าวเสริมขึ้นมาก่อนว่า ''แม่อยากจะถามพระหลานว่าพูดได้อย่างไรว่าครอบครัวและพ่อฆ่าแม่ของหลาน หลานเอาอะไรมาพูด ตลอดเวลา 17-18 ปี ครอบครัวเราบอบช้ำทั้งคู่ ย้อนกลับไปถ้าแก้ไขอะไรได้ไม่มีใครอยากให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น''
เมื่อ ''ไก่-จันทร์จวง'' กล่าวผ่านไป นางเล็ก จิตรหาญ แม่ของพุ่มพวง ซึ่งมีศักดิ์เป็นยายของ ''พระเพชร'' กล่าวว่า คำพูดที่ว่ายายทำร้าย พ่อทำร้าย น้าทำร้ายแม่นั้น ทำให้ทุกคนเสียใจ ให้ยายขอโทษ หรือกราบก็ได้ถ้าหลานจะดีได้
จังหวะนี้ นางเล็กซึ่งอายุ 75 ปี ได้ยกมือไหว้ขึ้นเหนือหัว และปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครอีกคน พร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ตะกุกตะกักสลับกับเสียร่ำไห้ว่า ''ยายไม่เคยคิดฆ่าแม่ ยายขอกราบขอโทษจริงๆ''
''โอ่ง-สลักจิต'' กล่าวเสริมว่า ''น้าก็ต้องขอโทษ ถ้าสิ่งที่น้าทั้ง 3 คน ทำให้หลานซึ่งอยู่ในผ้าเหลืองเสื่อมเสีย ต้องกราบขอโทษผ้าเหลืองด้วยนะคะ และกราบให้ชีวิตของหลานที่ดำเนินไปประสบความสำเร็จ สำหรับสายสัมพันธ์หรือสายเลือดขอให้หลานรู้ว่า ก้อนเลือดก้อนนั้นเป็นก้อนเลือดที่มีเชื้อสายเดียวกัน เป็นก้อนเลือดขอพี่ผึ้งซึ่งพวกเราเป็นพี่น้องกัน ไม่มีสายเลือดใดพรากกันได้''
''พระเพชร'' บอกว่ากลัวถูกญาติๆ ทำร้ายหรือตามฆ่า?
''ไก่-จันทร์จวง'' กล่าวว่า ''ถามถึงความผิดมันร้ายแรง ถ้ามันร้ายแรงคนที่ถูกฆ่าควรเป็นพี่ปุ้ม (ไกรสร) ไม่ใช่เค้า ถามหน่อยว่าเราจะไปทำร้ายเค้าทำไม สิ่งที่เราออกมาพูดเราต้องการแก้ไขเพื่อให้ชัดเจน ต้องการให้หลานเดินอยู่ในหนทางสายนี้อย่างใสสะอาด เราผิดหรือคะ''
เหตุการณ์ที่ถกเถียงกันในวันที่ 13 มิ.ย. ที่วัดทับกระดานดู ''จิ๋ม-ดวงใจ'' จะแรงมาก?
''จิ๋ม-ดวงใจ'' กล่าวว่า ''วันนั้นต้องถามว่าทุกคนเห็นภาพมั้ย คือเราเป็นแม่คนความรู้สึกรักลูกมันมีอยู่แล้ว แต่ถามว่าการที่พระทำกับพ่อตัวเอง พ่อเดินเข้าไปจับต้องลูก จะไปกอดลูกแต่ลูกกลับผลักพ่อเห็นพ่อเหมือนตัวอะไร เราก็ถามว่าพระทำไมทำกับพ่อแบบนี้ละลูก เห็นพ่อเป็นตัวอะไร พ่อน่ารังเกียจมากเหรอ ในเมื่อพ่อเลี้ยงมาตั้ง 17-18 ปี สิ่งที่เราทำเหมือนเป็นตัวแทนของพี่ผึ้ง ของคุณไกรสร แค่นั้นเอง ถามว่าเราอยากทำมั้ย เราไม่อยากทำ เราแค่รู้สึกเสียใจว่าทำไมต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เราแค่ให้หลานขอโทษเรา ไม่ใช่จะไปตบหลาน แค่ให้มาขอโทษพ่อ มากราบขอขมาพ่อ เรานับถือศาสนาพุทธนะ ไม่รู้จะตกนรกไปเป็นยังไง ถามหน่อยว่าได้พูดหยาบคายมั่ย ไม่มี เราแค่บอกให้เค้ามากราบขอโทษพ่อเท่านั้น ไม่มีคำว่าหยาบคายเลย มันยอมไม่ได้ ถามว่าเป็นตัวเราเองหรือเปล่า ยังไม่รู้สึกตัวเลย ตอนนี้รู้สึกว่ามันลอยไปหมดเลย เสียงเราเองก็ไม่ใช่ ตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไร (บางกระแสบอกว่าเป็นพุ่มพวงเข้าสิง) อันนี้ก็ตอบไม่ได้เดี๋ยวจะหาว่างมงาย เพราะทุกคนทุกอย่างรู้ว่าเป็นคนยังไง ถามได้เลยเราเป็นคนขี้เล่น ถามพี่ปุ้มได้ พี่ปุ้มอยู่กับพี่ผึ้ง พี่ผึ้งเป็นคนยังไง''
ไกรสรเสริมต่อ ''วันนั้นน้ำเสียงที่จิ๋มพูดไป ผมรู้สึกว่าเหมือนคุณผึ้ง คุณผึ้งเป็นคนกตัญญูเป็นคนเด็ดขาด เห็นอะไรที่ลูกทำกับพ่อแบบนี้คุณผึ้งทนไม่ได้ คำว่ากราบพ่อเดี๋ยวนี้กราบพ่อเดี๋ยวนี้มันคล้ายๆ คุณผึ้ง ก็ยืนยันนะว่าสังเกตสีหน้าพระเหมือนกันตอนแรกก็แรงมา แต่เค้าก็หยุดชะงักทันที ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เหมือนคุณผึ้งมาสั่งสอนลูก ไม่มีใครทนได้ที่เห็นลูกทำกับพ่อแบบนี้''
สรุปอีกครั้งที่ออกมาแถลงข่าวเพื่ออะไร?
''โอ่ง-สลักจิต'' กล่าวว่า ''เราต้องการคำตอบจากหลาน หลานอยู่ในผ้าเหลืองเราให้เกียรติผ้าเหลือง หลานศึกเมื่อไร น้า พ่อ ยายพร้อมเปิดโอกาสเสมอ เราไม่ต้องการบุคคลที่สาม ตอนนี้ทางเราอยากจะคุย อยากได้ข้อมูลต่างๆ จากปากหลานคนเดียว''
ไกรสรเสริมว่า ''ผมก็เลี้ยงลูกมาดีที่สุดแต่อาจจะเลี้ยงลูกผิด เรียกว่าตามใจเค้ามาก เพราะเพชรไม่มีแม่ ผมเป็นผู้ชายก็อาจจะพูดไม่สุภาพมาก แต่ที่ทำไปเพราะรักพุ่มพวงอยากให้ลูกสบายที่สุด ผมเลี้ยงแบบที่เค้าต้องการ ความลำบากของผมเค้ารู้ดี ผมต้องล้างจาน เสิร์ฟอาหาร ทำทุกอย่างเพื่อให้เค้าเรียนเมืองนอก เค้ารู้ดีว่าผมรักเค้าขนาดไหน เค้าเรียกร้องที่จะเรียนเมืองนอกเอง ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เปลี่ยนชีวิตเลย ผมต้องรับปัญหาพวกนี้มาโดยตลอด''
บางกระแสบอกว่า ที่ผ่านมา ''ไก่-จันทร์จวง'' สอนหลานให้เกลียดพ่อ?
''ไก่-จันทร์จวง'' กล่าวว่า ''เรื่องซีดี เรื่องเทปมันไม่ได้ลับนะ สิ่งที่พูดอยู่ข้างในเป็นเองของผัวเมีย ที่ให้ดูเพราะหลานอยากทราบว่าพ่อกับแม่เป็นยังไงกันมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่พี่ผึ้งพูดก็ไม่ใช่จริงทั้งหมด และไก่เชื่อว่าถ้าพี่ผึ้งอยู่ต้องไม่ทำแบบนั้นแน่นอน ทางเราก็พยายามอธิบาย พยายามบอกหลานว่าเป็นเรื่องที่จบไปแล้วไม่ว่าจะอย่างไร พ่อจะดูผิดในสายตาแค่ไหน หรือประชาชนจะรู้สึกอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ผู้ใหญ่ตัดสิน เราเป็นลูกไม่มีสิทธิ์จะไปตัดสินพ่อ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ มันจบไปแล้ว ที่เราให้ดูเพราะเราไม่มีคำตอบในสิ่งที่หลานอยากรู้ เลยให้หลานไปฟัง ถ้าหลานโต หลานต้องแยกแยะได้ ต้องมาถามน้าว่าอันนี้ใช่มั้ย แต่เค้าไม่มีโอกาสได้ถาม เราเองก็ไม่มีโอกาสได้อธิบาย จริงๆ แล้วต้องให้ทุกคนลองดูว่าตอนที่พี่ผึ้งเสียชีวิตน้องเพชรยังไม่ 6 ขวบ ขอถามหน่อยว่าตอนนั้นเด็กจะรู้สึกอะไรบ้าง และปัจจุบันภาพพ่อกับครบครัวของแม่เป็นอย่างไหน อันไหนจะปลูกฝังความรู้สึกเค้าได้มากกว่ากัน''
ไกรสรเสริมว่า ''คนที่ควรจะเจ็บแค้นไม่ใช่น้องเพชร แต่เป็นทางครอบครัวของผึ้ง ผมสมควรตายตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ถ้าผมผิดมากจริงๆ แต่ทำไมถึงได้รับการอภัยจากคุณแม่ นั่นก็เพราะเป็นการเข้าใจผิดกันจริงๆ (ไก่เสริมต่อ) ไม่เถียงว่าทะเลาะกันทุกอย่างมันคือความแรงแต่เมื่อเรามาตั้งสติ ทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องมาร่วมกันแก้ไข ซึ่งเราก็อยู่ร่วมกันทุกวันนี้ได้''
''โอ่ง-สลักจิต'' เสริมอีกว่า ''ตอนที่พี่ผึ้งเสีย น้องเพชรอายุไม่ถึง 6 ขวบ ความรู้สึกเป็นอย่างไร ใครควรจะเจ็บมากกว่ากัน''
ไกรสรกล่าวขึ้นมาอีกว่า ''ผมควรจะตายตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่ผมยังได้อภัย''
''ไก่-จันทร์จวง'' กล่าวขึ้นมาด้วยว่า ''ก็ไม่เถียงว่าเรามีปัญหากัน''
คุณยายเล็กอยากฝากอะไรถึง ''พระเพชร''?
ยายเล็กกล่าวว่า ''บ่อย...บ๊อย จริงเรียกเแบบนี้ ก็อยากให้หลานมีความคิด รู้จักแยกแยะสิ่งดีสิ่งชั่ว อยากให้หลานมีความกตัญญูพ่อแม่ และตอนนี้หลานไม่มีแม่ก็ขอให้กราบหมอนแทนแม่ หรือกราบพ่อคนเดียวก็ได้ อยากให้หลานเป็นอย่างนั้น ถ้าหลานเป็นอย่างนั้นได้ยายก็คงไม่มีเรื่องเสียใจแล้ว คงจะดีใจมากๆ เลย เรื่องภาพการทะเลาะกันนั้นยายไม่เห็น เพราะลูกๆ ไม่ได้ให้ดู กลัวจะไม่สบายใจ''
เรื่องมรดกพุ่มพวงเป็นอย่างไร? เห็นว่าทำพินัยกรรมให้น้องเพชรแล้วด้วย?
ไกรสร กล่าวว่า ''ความจริงเป็นเรื่องของครอบครัวผม ผมจัดการให้เสร็จสิ้นไป จนแม่เล็กมีความสุข เมื่อก่อนซื้อคอนโดฯ 2 ล้าน สื่อก็ไปบอกกันว่า 5 ล้าน หรือ 7 ล้าน บอกพุ่มพวง มีรายได้ 100 ล้าน แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า ผมซื้อคอนโดฯ เงินผ่อน ตอนคุณผึ้งอยู่ผมก็ผ่อนได้ พอผึ้งไม่อยู่ผมผ่อนไม่ได้โดนยึดไป เมื่อสมัย 17 ปีก่อนยุค พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ มีเงินสด 2 ล้านบาท ก็เยอะมากแล้วนะ แบ่งให้แม่เล็กก็แฮปปี้ เรื่องพินัยกรรม ก่อนทำให้นานแล้วครับ (จำนวนเงินเท่าไร) ไม่รู้ว่าเหลือเท่าไรก็ทำไปใช้ไป ไม่รู้เหลือเท่าไร แต้ถ้าใครอยู่กับเพชรแล้วอยากได้มรดกก็มาฆ่าผมแล้วกัน ไม่มีนะ 50ล้าน ความจริงไม่มี ผมเองก็ดูแลลูกมาอย่างดี อสังหาริมทรัพย์ยังไม่ได้โอนเป็นชื่อลูก ก็มีบ้านหลังหนึ่งและก็ที่ 20 ไร่ที่ลำพูนครับ สมบัติเดิมยังไม่หมด ผมก็ประคองมา ถ้าสุดท้ายแล้วเพชรไม่ได้ทำอะไรก็ต้องขายมาดูแลกัน''
แฟนสาวของพระเพชรเคยบอกว่าเอาพระเพชรมาคืนให้แล้วแต่พ่อยังไม่รับ?
ไกรสร กล่าวว่า ''ผมยังไม่เคยพูดอย่างนั้น เรื่องคนอื่นไม่ขอเอามาพูด ไม่ขอเอามาเกี่ยวข้องครับ''
''พระเพชร'' เคยคิดจะปั้นหุ่นมาไว้ที่วัดทับกระดานแต่มีน้าคนหนึ่งไม่อนุญาต?
''โอ่ง-สลักจิต'' กล่าวว่า ''ต้องถามว่าน้าคนไหน น้าเยอะมีพี่น้องตั้ง 12 คน จะเอามาไว้ตรงไหนไม่มีปัญหา ถ้าเข้าตอบโจทย์ได้''
หากหลานคิดจะเข้ามาคุยกับน้า?
''ไก่-จันทร์จวง'' กล่าวว่า ''กับพ่อหรือกับน้าด้วยเราเปิดโอกาสอยู่แล้ว แต่เราไม่ต้องการบุคคลที่ 3 ขอให้พระสึก และขอฟังจากปากพระ มือที่สามในที่นี้ไม่ได้หมายถึงพี่สื่อมวลชนนะคะ''
มีบางกระแสบอกว่า การที่พระเพชรไปออกรายการตีสิบกับคุณพ่อนั้นเป็นการจัดฉาก?
ไกรสร กล่าวว่า ''ความจริงวันนั้นครอบครัวผมก็อยู่ จริงๆ ผมอยากให้เป็นครอบครัวจิตรหาญจังเลย ภาพที่ออกมาคือภาพที่ปรุงแต่งที่ดีที่สุดแล้ว ผมไม่พูดดีกว่า รายละเอียดตรงนั้นมันเยอะ ขอให้ไปถามทางรายการดีกว่า คือเขาบันทึกเทปยาว แต่หลังกล้องผมก็มีการพูดคุยกับเพชร เราเข้าใจกันดี ผมบอกว่ามีอะไรก็ถามพ่อมา อย่าพูดสาวไส้หน้าทีวีเลย มันไม่ดี เพชรพูดไปผมพูดไปคนละอย่าง เพชรเขาก็แฮปปี้''
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?
ไกรสร กล่าวว่า ''เอาเป็นว่าเพชรอยู่กับผม 17-18 ปี ไปเมืองนอกเมืองนามา เขาเป็นคนดี ทุกวันนี้เกิดอะไรขึ้น มันไม่ใช่เพชร''
ทางฝ่ายแฟนสาวบอกว่าที่ผ่านมาเพชรดูดบุหรี่ดื่มเหล้า แต่เมื่อไปอยู่ด้วยแล้วปรับปรุงตัวเป็นคนละคน?
ไกรสร กล่าวว่า ''ไม่ใช่ครับอยู่กับผมดีที่สุด อยู่กับผม 18 ปี ดีที่สุดแล้วครับ ตอนที่เป็นนักร้องฝึกหัด ผมก็ไปส่งทุกวัน มีน้าไก่เป็นคนคอยให้กำลังใจ''
จะมีการฟ้องร้องกันไหม?
ไกรสร กล่าวว่า ''ไม่ฟ้องครับ ลูกนี่ครับ ผมไม่มีอะไรเสียแล้วครับ ครั้งแรกเสียพุ่มพวง ครั้งนี้กำลังจะเสียลูกไป''
จะคุยกับลูกก่อนไหม?
ไกรสร กล่าว ''นี่ล่ะครับ สิ่งที่ผมอยากรู้ว่าสังคมไทยเป็นอะไรไปแล้ว ต้องให้พ่อให้ยายออกมา จิตสำนึกของเขาควรจะทำอย่างไรดีกว่า ผมก็เลี้ยงลูกของผมมาดีที่สุด แต่อาจจะเลี้ยงแบบผิดๆ ข้าวก็ป้อน ช้อนอยู่ตรงไหนน้องเพชรยังไม่รู้เลย เพชรเขาขาดความอบอุ่น ไม่มีแม่ ผมเป็นผู้ชายก็อาจจะพูดหยาบคายกับลูกบ้าง แต่ที่ทำก็เพราะรักเพชร ผมว่าเขารู้ดีว่ารักเขาขนาดไหน อยู่เมืองนอกผมไปล้างจาน ทำทุกอย่างเพื่อเขา ที่เขาเรียนไฮสกูลไม่จบเพราะผมเอาเข้ากลับมาเอง ก็ถามเขาว่าอยากกลับมาเป็นนักร้องไหม เขาบอกว่าอยากอยู่ที่เมืองนอก ผมเอาซีดีเพลงมาให้เขาหัดร้องเพลงทุกวัน ตอนที่เรียนอยู่เซนต์คาเบียล เขาก็ขอผมไปอเมริกาเอง พ่ออยากไป ผมก็โอเค ทั้งๆ ที่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เลยนะ''
คนภายนอกมองว่าเป็นการออกมาซัดกันไปซัดกันมา?
''ไก่-จันทร์จวง'' กล่าวว่า ''อันนี้ไม่ได้ออกมาซัดใครนะ แต่เราไม่มีโอกาสได้พูด จนมีเรื่องปั้นหุ่นขึ้นมาทำให้คนอายุ 75 ช้ำใจ วันนี้ที่เรานัดมาคุย คือคุยกันให้หมด และจะไม่ออกมาพูดแบบนี้อีกแล้ว''
อยากให้เรื่องนี้จบอย่างไร?
''ไก่-จันทร์จวง'' กล่าวว่า ''อยากให้น้องเพชรใสสะอาดที่สุดในวงการนี้ อยากให้คนที่รักพุ่มพวงเอ็นดูเขากับความน่ารักที่เขามี หวังอยากให้หลานคืนมา''
เห็นลูกกราบเท้าคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อรู้สึกอย่างไร?
ไกรสร กล่าวว่า ''รู้สึกปวดใจมาก'' นะ
ลูกเคยกราบเท้าไหม?
ไกรสร กล่าวว่า ''เคย ในรายการตีสิบไง''
คิดว่าลูกชายโดนเล่นของใส่หรือไม่?
ไกรสรไม่ตอบ แต่พยักหน้า