"กิ๊ก สุวัจนี" เคยหลงผิดใช้ยาลดน้ำหนัก เสาะหาวิธีลดเพราะกลัวตายเร็ว
กลายเป็นอีกหนึ่งไอดอลสาวเรื่องการลดน้ำหนักให้หุ่นกลับมาเป๊ะเหมือนสมัยวัยรุ่น สำหรับอดีตนางร้ายยืนหนึ่ง กิ๊ก-สุวัจนี พานิชชีวะ ที่ถึงแม้จะเบรกงานวงการบันเทิงไปนานถึง 9 ปีเต็ม เพื่อดูแลสามีและลูกๆ อีก 3 คน แต่ก็ยังคงมีแฟนคลับจดจำและคิดถึงเธออยู่เสมอ
ล่าสุด กิ๊ก สุวัจนี ได้ออกมาเปิดใจถึงเคล็ด (ไม่) ลับวิธีการลดน้ำหนักจาก 80 กิโลกรัม ให้เหลือเพียง 50 กิโลกรัม ในงานเปิดตัวรายการคนแปลงร่าง Reality โดยเจ้าตัวยอมรับว่าในสมัยวัยรุ่นเคยหลงผิดใช้ยาลดน้ำหนักจริง เพราะอยากให้ตัวเองดูสวยขึ้นกล้อง แต่พอวันเวลาผ่านมาถึงรู้ว่าไม่ดี จึงหันมาดูแลร่างกายด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหารอย่างจริงจัง พร้อมแย้มอีกว่าตอนนี้เริ่มหวนกลับสู่วงการบันเทิงแล้ว อยากให้แฟนๆ ที่คิดถึงผลงานเธอรอกันอีกสักนิดหนึ่ง
หุ่นกลับมาเหมือนเดิมแล้ว ?
"ดีใจมาก เพราะตัวเองมีความพยายามกับเรื่องนี้มากๆ บอกเลยว่ามันไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ ต้องทุ่มทั้งแรงกายแรงใจ เพราะกิ๊กรู้ว่าคนที่มีน้ำหนักเยอะแบบเรา จะไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เรารู้สึกว่าลมหายใจเราจะเหมือนกับคนริบหรี่ ใกล้ตาย เหมือนคนที่ไม่ค่อยอยากจะทำอะไร ไม่อยากจะขยับตัว กิ๊กเลยมั่นใจว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้กิ๊กตายเร็วแน่ แล้วถ้าฉันตาย ลูกฉันจะอยู่กับใครล่ะ เลยเริ่มออกกำลังกาย เริ่มค้นหาให้เจอว่าตัวเองชอบออกกำลังกายอะไร เมื่อไหร่ที่ใจพร้อมมันจะมองทะลุ และเริ่มเลย ก็ลองให้หมด ค้นหาให้เจอว่าตัวเองชอบอะไร กิ๊กว่าสิ่งนี้มันจะทำให้เราอยากจะไปออกกำลัง"
"และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือเรื่องของการควบคุมอาหาร เดี๋ยวนี้อาหารคลีนมีมากมาย สามารถทำที่บ้านเองได้ เพียงแค่เราลดเครื่องปรุงลง แค่นี้รอบปูดๆ ของเราก็จะเริ่มดีขึ้น เวลาออกกำลังกายจะเริ่มเบาขึ้น กิ๊กไม่เคยพึ่งยาเลย ในอดีตตอนวัยรุ่นยอมรับเคยใช้ ถ่ายละครเขาอยากให้เราผอม เราก็กินยา วิตามินอะไรดีช่วยได้เราก็ไปหามากิน เป็นไง สุดท้ายเราคิดว่ายาพวกนั้นมันสะสมในไต ในตับเรา แต่วิธีที่เราจะชดเชยสิ่งเหล่านั้นคือตอนนี้เราต้องหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง ออกกำลังกายมากๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ มันจะช่วยกันได้"
เคยคิดไหมว่ามันจะมีเอฟเฟกต์มาถึงวันนี้ ?
“ไม่คิดนะ เพราะวันนั้นบอกเลยว่าโง่จริงๆ คิดไม่ได้เพราะฉันอยากแค่สวยไง ไม่ได้นึกถึงความเป็นพ่อแม่ กินเข้าไปตายไปจะเป็นยังไง ไม่รู้อะไรคืออะไร พอเรามีลูก เรารู้อะไรเป็นอะไรมากขึ้น แม้กระทั่งเครื่องปรุงเรายังต้องอ่านฉลาก ส่วนประกอบเลยว่ามันประกอบไปด้วยอะไรบ้าง พวกนี้เป็นเรื่องสำคัญเลย เด็กๆสมัยนี้อยากผอมได้ แต่ต้องผอมแบบสุขภาพดี ไม่พึ่งวิตามิน ไม่พึ่งยา ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานอาหารที่ดี กิ๊กว่าทุกอย่างมันจะเพอร์เฟกต์"
ตอนนี้โอเคกับน้ำหนัก รูปร่างตัวเองหรือยัง ?
"กิ๊กโอเคนะ ตอนนี้หนัก 53 กิโลกรัม ก็ยังเด้งไปเด้งมา ถึง 55 กิโลกรัมบ้าง จากก่อนหน้าที่ยังไม่ได้เต้นซุมบ้ากิ๊กน้ำหนัก 70-75 กิโลกรัม ทำอะไรก็กระฉับกระเฉงขึ้น เบาตัวขึ้น ทำอะไรก็รู้สึกมั่นใจ ลุกนั่งไม่ร้องโอ้ย ใส่เสื้อผ้าได้มั่นใจขึ้น กิ๊กเองไม่ได้แต่งตัวเยอะนะ แต่วันไหนที่น้ำหนักขึ้นเยอะมันจะรู้ทันทีเพราะเสื้อผ้ามันจะคับ เราก็จะเริ่มลดแล้ว ไม่ได้แล้ว เราต้องเริ่มเอาออก มันจะเป็นลูทีนแบบนี้เรื่อยๆ เราเลยจะไม่อ้วนขึ้น ตอนออกกำลังกายใหม่ๆ ก็เครียดนะ น้ำหนักไม่ลง จนเรามารู้ว่าต้องควบคุมอาหาร เพราะเต้นเสร็จเหนื่อยก็กลับไปกินเท่าเดิม การลดความอ้วนมันไม่ได้มีเทคนิคอะไรเลย ไม่ต้องหาผู้รู้อะไรทั้งสิ้น อย่างแรกที่ต้องมีเลยคือใจ สองลงมือทำเลย สามคุมอาหารให้อยู่ในปริมาณแคลอรี่ต่อวัน แค่นั้นเองจริงๆ ใครจะอ้วนแค่ไหน ทำแค่นี้ลง ชัวร์ ถ้ากิ๊กลงได้คนทั้งโลกต้องลงได้"
สามีว่าไง ?
"สามีก็เฉยๆ นะ เขาก็มีบอกช่วงนี้ยูผอมไปแล้วนะ ยูน้ำหนักลงนะ เขาชอบแบบที่เราร่างกายแข็งแรง ไม่ชอบให้ดูผอมเกินไป อ้วนก็ไม่เคยบ่น เราก็เลยล่อไป 80 กิโลกรัมไง (หัวเราะ) พอเราผอมลงเขาก็เฉยๆ เลยรู้สึกว่าเอาประมาณร่างกายแข็งแรงดีกว่า เพราะดูแล้วเขาแฮปปี้ เราไปเที่ยวไปเดินไหนต่อไหนกับเขาได้ เมื่อก่อนตอนอ้วนเดินไม่ได้เลย โดนบ่นตลอด เดินพักๆ ขอนั่งเรื่อย เขาก็รำคาญ แต่เขาไม่เข้าใจเราเพราะเขาไม่ใช่คนอ้วน เราเลยเอาวะ ตอนนี้มาเดินแข่งกันไหม"
สามีชมไหม ?
"เรื่องเราสวยขึ้นอะไรขึ้นนี่ไม่มีชมเลย แต่จะชมว่ายูดูแข็งแรงขึ้นนะ ยูดูฟิตขึ้นนะ อันนี้ถือเป็นคำชมที่สามีมีให้ กิ๊กว่าการลดความอ้วนมันคือการให้รางวัลกับชีวิตของเรา เราทำเราได้ เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าเราทำได้ แล้วมันทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เราดูแลตัวเอง มันทำให้เรารู้สึกว่าเราทำได้ทุกอย่างลูกๆ ให้กำลังใจเยอะ ลูกจะคอยคุยเรื่องรูปร่าง น้ำหนักเราตลอด"
กลายเป็นเราตอนนี้ดูแลอาหารการกินให้คนในบ้านด้วย ?
"ใช่ค่ะ พวกเครื่องปรุงในบ้านตอนนี้จะไม่ค่อยมี น้ำปลา น้ำตาล ในบ้านจะน้อยมาก จะพยายามทำอาหารให้หลากหลาย ไม่ทำให้เขาติดกับรสชาติมากเกินไป"
กลับมารับงานในวงการ ?
"นี่ก็เหมือนกลับมาแล้ว ตอนนี้ก็ทำพิธีกรรายการตัวแม่มาแล้ว ก็รู้สึกดีใจ ที่เขาติดต่อมา เขาติดต่อมาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว แต่ช่วงนั้นเราตัวใหญ่ พอเรามาออกรายการเราก็อยากให้คนดูได้เห็นอะไรสวยๆ งามๆ วันหนึ่งที่เราพร้อมคือลูกเราโตแล้ว เขาเรียนยาวเราสามารถไปทำงานได้ แล้วสุขภาพร่างกายของเราก็เริ่มฟิต มีน้ำหนักที่โอเค ออกจอมาแล้วคนรู้สึกว่ากิ๊กมาแล้ว ไม่ใช่แบบเห้ย จำกิ๊กไม่ได้เลย การที่จะมาออกจอแต่ละครั้งเราก็อยากให้คนดูประทับใจ ให้ดู กิ๊ก สุวัจนี แบบที่เป็นตอนนี้ดีกว่า"
งานละคร ?
"งานละครนี่อยากมากเลย มันเหมือนเป็นในสายเลือดของเรา วันหนึ่งต้องเล่นแน่นอน แต่เรื่องของเวลายังไม่เหมาะสม แล้วก็เรื่องบทต่างๆ ต้องขอบคุณผู้จัดละครทุกท่านเลยที่ติดต่อกันเข้ามาเยอะมากๆ ยังรับงานละครอยู่นะคะ แต่ช่วงนี้ขอเรียบเรียงตัวเองก่อน อยากให้ตัวเองค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปดีกว่า ถ้าทำทีเดียวเดี๋ยวไม่มีใครดูแลลูก"
รู้สึกยังไงที่พอพูดถึงบทนางร้ายคนก็ยังนึกถึงเรา ?
"ขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่งค่ะ ขอบคุณทุกๆ คนเลยที่ยังให้ใจ ยังคิดถึงกิ๊กอยู่เสมอ กิ๊กไม่มีลืมนะ เวลาเราดูละคร เราก็คิดว่าเราอยากจะเล่นแบบนั้นแบบนี้เหมือนกัน แต่ก็ต้องดูความเหมาะสมของเวลา กิ๊กต้องมีครอบครัวที่ดูแล แต่รับรองว่าในอนาคตเร็วๆ นี้กิ๊กต้องได้เล่นแน่นอน กิ๊กยังชอบในบทละคร ยังมีมันอยู่ในสายเลือด คิดว่าสักวันหนึ่งต้องได้กลับมาเล่นแน่นอน รอกิ๊กด้วยนะคะ"
ติดที่สามีหรือลูก ?
"มันติดที่ตัวเองมากกว่า สามีไม่ได้ห้าม ลูกไม่ได้ห้ามแล้วตอนนี้ แต่เรารู้สึกว่าเราจะต้องดูแลทั้งครอบครัวให้ดี ดูแลทั้งงานให้ดี อย่างพิธีกรมันไม่กระทบมาก มันทำให้เราดูแลทั้งสองอย่างได้ปกติ แต่เมื่อไหร่ที่ละครเข้ามา งานมันจะเริ่มไม่เป็นเวลา กิ๊กโตมาจากตรงนี้กิ๊กรู้ว่าทุกอย่างมันสามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งมันอาจจะกระทบกับครอบครัวกิ๊กได้เหมือนกัน ก็รอให้เวลาเหมาะสม ลูกโตอีกสักหน่อย รอให้สามีใจเย็นอีกนิดหนึ่ง รอให้ตัวเองพร้อมอีกหน่อยก็จะกลับไปแน่นอน รอกันด้วยนะคะ"
>>“กิ๊ก สุวัจนี” โชว์สเต็ปเพลง เต่างอย สะบัดสุดฤทธิ์ จนลืมว่ากำลังเต้นออกกำลังกาย (มีคลิป)
>>"กิ๊ก สุวัจนี" ให้กำลังใจคนท้อ โพสต์ภาพเปรียบเทียบหลังน้ำหนักลด 27 กิโลกรัม
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ