พ่อแม่ "สตรีแห่งขุนเขา" เริ่มสิ้นหวัง สามีลูกสาวไม่เซ็นยินยอม กระดูกกลับมาตุภูมิไม่ได้
จากกรณีที่นางจูมศรี สีกันยา อายุ 72 ปี และ นายบัวสา สีกันยา อายุ 75 ปี ราษฎรบ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังหลายหน่วยงานให้ช่วยติดตามหานางลำดวน สีกันยา หรือ อาร์มิเทจ อายุ 51 ปี ลูกสาวที่แต่งงานกับชาวอังกฤษ และย้ายครอบครัวไปอยู่อังกฤษ แล้วได้หายสาบสูญติดต่อไม่ได้นานกว่า 14 ปี ต่อมาได้มีนักท่องเที่ยวพบศพหญิงนิรนาม บนภูเขาอุทยานแห่งชาติยอร์กเชีย แล้วนำศพฝังในสุสานหมู่บ้านฮอร์ตันอินริบเบิลส์เดล ชาวบ้านเรียกว่าเป็น “สตรีแห่งขุนเขา” แต่มีหลักฐานต่างๆ ระบุว่าเป็นคนไทย เช่น แหวนทอง ที่มีชื่อร้านทองใน กทม. จึงเปลี่ยนชื่อเรียก “เจ้าสาวชาวไทย”
ต่อมานางจูมศรี จึงได้เขียนจดหมายขอความช่วยเหลือถึง นายกสมาคมเครือข่ายภาคีหญิงไทยในสหราชอาณาจักร และทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บ DNA ของนางจูมศรี และนายบัวสา ผลสรุปว่าเป็นศพของนางลำดวน และก็ได้มีหลายหน่วยงานได้มาประสานงานที่จะช่วยนำเถ้ากระดูกกลับมาให้นางจอมศรี ได้ทำบุญที่บ้านเกิด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
>> แม่วอนช่วยตามหา ลูกสาวหายไป 15 ปี สงสัยเป็นคนเดียวกับศพในอังกฤษ
>> ตำรวจอังกฤษยืนยันผลดีเอ็นเอ ศพนิรนาม 15 ปีก่อนคือ "ลำดวน สีกันยา"
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ วันที่ 24 กรกฎาคม 62 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 4 บ้าน โพน ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี บ้านของนางจูมศรี สีกันยา อายุ 72 ปี และนายบัวสา สีกันยา อายุ 75 ปี พ่อแม่ของ นางลำดวน สีกันยา อาร์มิเทจ “สตรีแห่งขุนเขา” พบว่าทั้ง 2 คนได้จุดธูปที่หน้ารูปถ่ายของนางลำดวนลูกสาว เพื่อบอกให้ดวงวิญญาณของลูกให้ดลบันดาลให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายอังกฤษ ช่วยดำเนินการนำเถ้ากระดูกของลูกสาวกลับมาบ้านเกิด มาให้ได้ ด้วยความราบรื่น เพื่อที่จะได้นำมาทำบุญให้ด้วยขณะนี้เรื่องยังเงียบอยู่
นางจอมศรี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ หลานชายซึ่งเป็นลูกชายคนโตของนางลำดวนกับสามีชาวอังกฤษ ได้เดินทางมาตามหานางลำดวนแม่เขาว่าจะพาไปเมืองจีนเพื่อไปร่วมงานแต่งงานของเขาด้วย เขาทราบจากพ่อว่าแม่หนีมาแต่งงานใหม่ที่ จ.อุดรธานี นานแล้ว เมื่อไม่พบแม่ หลานชาย จึงเดินทางกลับไปแต่งงานที่เมืองจีน ตนจึงร้อนใจมากไม่รู้ว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ จึงได้ไปหาหมอธรรมหรือคนทรง หลายแห่งหลายที่ ทุกแห่งบอกว่า ลูกสาวเสียชีวิตนอนแนบนิ่งเหมือนโดนถูกขังเอาไว้ ทำให้วิญญาณไม่ได้ไปผุดไปเกิด
หลังจากนั้นก็มีหน่วยงานออกมาช่วยเหลือ ผลตรวจดีเอ็นเอของตนกับสามีและลูกที่เกิดจากสามีคนไทยที่อยู่ที่อังกฤษ ตรงกับดีเอ็นเอของ “สตรีแห่งขุนเขา” ต่อมาก็ได้มีตำรวจอังกฤษมาหาตนที่บ้านพัก และชี้แจงเกี่ยวกับกฎหมายทางอังกฤษว่า ถ้าสามีของลูกสาวไม่เซ็นให้ก็ไม่สามารถขุดหรือนำศพขึ้นมาได้ จึงทำให้สิ้นหวังเพราะสามีของลูกสาวไม่ยอมเซ็นให้ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มาดำเนินการช่วยเหลือก็เงียบหายไปและไม่มีการแจ้งความคืบหน้าให้ตนทราบ ถึงความคืบหน้าแต่อย่างใด และเมื่อวานนี้เจ้าของร้านที่ขายธาตุเก็บกระดูก ได้ติดต่อมาว่าจะไปเอาธาตุวันไหน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้วางมัดจำไว้ 4,000 บาท ยังเหลืออีก 22,000 บาท ตนก็บอกไปว่าขณะนี้กระดูกยังไม่มา จึงยังไม่ไปเอาได้
>> สามี "ลำดวน" สตรีแห่งขุนเขา ปัจจุบันเป็นอาจารย์ราชภัฏ อยู่ไทย 12 ปีแล้ว
นางจอมศรี กล่าวต่อว่า ในวันนี้ ตนกับสามี จึงได้พากันจุดธูปหาบอกดวงวิญญาณลูกให้ไปช่วยดลบันดาลใจให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายอังกฤษ ที่รับผิดชอบ ให้ช่วยดำเนินการ เป็นไปได้ด้วยความราบรื่นในการนำเถ้ากระดูกของลูกสาวกลับมาประเทศไทย เพื่อจะได้ประกอบพิธีทางศาสนาให้แต่ถ้าไม่ได้เถ้ากระดูกลูกกลับมา ตนก็จะทำหุ่นขี้ผึ้งมาแทนเถ้ากระดูกของลูกสาว แล้วทำพิธีทางศาสนาหรือทำบุญแจกข้าวให้แก่คนตาย ซึ่งยังไม่สามารถกำหนดวันเวลาได้ เพราะยังไม่มีเงิน ต้องดูหลังเก็บเกี่ยวข้าวก่อนว่าสามารถเก็บเกี่ยวข้าวแล้วขายได้เท่าใด พร้อมกับปรึกษากับญาติพี่น้องด้วย