อ่วมอรทัย! "เฟซบุ๊ก" จ่ายค่าปรับทะลุ 1.5 แสนล้านบาท ไกล่เกลี่ยคดีละเมิดความเป็นส่วนตัว
ยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดีย “เฟซบุ๊ก อิงค์” ยอมจ่ายเงินค่าปรับสูงเป็นประวัติการณ์ 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 154,000 ล้านบาท เพื่อไกล่เกลี่ยคดีที่รัฐบาลสหรัฐตรวจสอบการปฏิบัติด้านการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ทั้งยังยินยอมที่จะปรับปรุงการเข้าถึงความเป็นส่วนตัวด้วย
สำนักข่าว The Bangkok Insight เผยแพร่ข่าวโดยอ้างอิงรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศว่า คณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐ (เอฟทีซี) แถลงว่า คณะกรรมาธิการมีมติ 3 ต่อ 2 เสียง ยอมรับการทำข้อตกลงไกล่เกี่ยกับเฟซบุ๊ก ที่ยังต้องรอการอนุมัติจากศาลก่อน
กรรมาธิการในฝั่งรีพับลิกันเรียกข้อตกลงไกล่เกลี่ยนี้ว่า “การโฮมรันที่สมบูรณ์แบบ” ที่มีมูลค่าสูงกว่าคำตัดสินใดๆ ที่คณะกรรมาธิการจะได้รับจากการฟ้องร้องในศาล แต่ฝั่งเดโมแครตกลับมองว่า ยังไม่มากพอ หรือต้องการให้จ่ายค่าปรับมากกว่านี้
นายโจ ไซมอน ประธานเอฟทีซี จากพรรครีพับลิกัน ย้ำว่า เอฟทีซีมีอำนาจหน้าที่จำกัด และต้องการที่จะเลี่ยงการต่อสู้กันยาวนานในศาล
ทางด้านเฟซบุ๊ก ยืนยันว่า บริษัทจะจ่ายค่าปรับจำนวน 5,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 154,000 ล้านบาท) พร้อมบอกว่า ข้อตกลงที่ทำกับเอฟทีซี จะช่วยจัดหากรอบการดำเนินงานใหม่สำหรับการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้คน ซึ่งข่าวนี้ ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ ตามเวลาในสหรัฐ ร่วงลงราว 1% มาอยู่ที่ระดับ 200.39 ดอลลาร์ต่อหุ้น
อย่างไรก็ดี นายโรหิต โชปรา กรรมาธิการฝั่งเดโมแครต แสดงความไม่พอใจกับข้อตกลงที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ข้อตกลงนี้กลายเป็นที่กำบังภัยให้กับบรรดาผู้บริหารเฟซบุ๊ก และไม่มีข้อจำกัดที่แท้จริงสำหรับรูปแบบการทำธุรกิจของเฟซบุ๊ก ทั้งยังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาหลักที่ทำให้เกิดการละเมิดขึ้นมา
ภายใต้ข้อตกลงไกล่เกลี่ยที่ทำกับเอฟทีซีนั้น คณะกรรมการบริหารเฟซบุ๊ก จะตั้งคณะกรรมการอิสระด้านความเป็นส่วนตัวขึ้นมา เพื่อควบคุมการตัดสินใจอย่างอิสระของนายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊ก ในเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใชับริการ