เปิดใจหนุ่มวัย 17 สูญเสียคู่หมั้นสาว 14 เหยื่อครูเกษียณหึงโหด ทั้งที่กำลังจะแต่งงานกัน

เปิดใจหนุ่มวัย 17 สูญเสียคู่หมั้นสาว 14 เหยื่อครูเกษียณหึงโหด ทั้งที่กำลังจะแต่งงานกัน

เปิดใจหนุ่มวัย 17 สูญเสียคู่หมั้นสาว 14 เหยื่อครูเกษียณหึงโหด ทั้งที่กำลังจะแต่งงานกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(25 ก.ค. 62) กรณี นายประสิทธิ์ อายุ 60 ปี อดีตข้าราชการครูชาวอำเภอมัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิง น้องเฟรช อายุ 14 ปี นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น เสียชีวิต ก่อนจะใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองตายตามภายในห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยผู้ดูแลห้องพักเข้าไปพบศพของทั้งคู่นอนเสียชีวิตบนเตียงนอนในเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 23 ก.ค.62 ที่ผ่านมา โดยสาเหตุของการสังหารครั้งนี้คาดว่ามาจากการที่ฝ่ายชายไม่พอใจที่ฝ่ายหญิงคบหากับชายอื่นและตีตัวออกห่าง จึงพามาเคลียร์แต่ตกลงกันไม่ได้จึงเกิดเหตุสลดขึ้น

 >> ปิดฉากรักต่างวัย ครูเกษียณหึงโหด ยิงแฟนเด็ก 14 ก่อนดับชีพตายตาม

น้องมอส อายุ 17 ปี คู่หมั้นของน้องเฟรช เปิดเผยว่า ตนเองและน้องเฟรชคบหากันมาได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว และได้ให้ทางครอบครัวมาหมั้นหมายน้องเฟรชไว้แล้ว ซึ่งตั้งใจไว้ว่าหลังจากออกพรรษา จะให้พ่อแม่มาจัดงานแต่งตามประเพณี เพราะตลอดช่วงที่คบกันตนเองก็ไปมาหาสู่ครอบครัวของน้องเฟรช ซึ่งอาศัยอยู่กับตาและยายเป็นประจำ โดยตลอดระยะเวลาที่คบกันตนเองก็พอทราบว่าน้องเฟรชได้พูดคุยกับชายสูงวัยที่เป็นคนฆ่าน้องเฟรช ซึ่งตนก็เคยบอกว่าให้เลิกติดต่อ แต่น้องเฟรชก็บอกตนเองว่าไม่ให้ยุ่ง

กระทั่งในช่วงเช้าของวันที่ 23 ก.ค. 62 ตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์ไปส่งน้องเฟรชไปโรงเรียน แต่ภายหลังจากถึงเวลาที่โรงเรียนเลิกตนเองได้โทรศัพท์ติดต่อหาน้องเฟรช แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงสอบถามเพื่อนของน้องเฟรชและทราบว่ามีคนมารับตัวไปแต่ไม่ทราบว่าไปที่ใด ตนเองจึงขับรถออกตามหาตามสถานที่ต่างๆ ที่คาดว่าน้องเฟรชจะไปแต่ก็ไม่พบ จนมาทราบภายหลังว่าน้องเฟรช คู่หมั้นของตนถูกยิงเสียชีวิต

ด้านนางสมพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ยายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าหลานสาวได้คบหากับชายสูงวัยที่ก่อเหตุฆ่าหลานสาวของตนเอง และหลานสาวก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เพราะทุกวันเวลาที่หลานกลับจากเรียนหนังสือก็จะกลับมาช่วยงานบ้านยายเป็นปกติ เพราะยายอายุมากแล้วและทางบ้านก็มีอาชีพตัดฟืนขาย หลานสาวจึงเปรียบเสมือนแขนขาที่คอยช่วยเหลือยาย ซึ่งในวันที่หลานหายตัวไปคนในครอบครัวเป็นทุกข์ใจอย่างมาก แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น ตอนนี้ตนเองก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรในวันที่หลานไม่อยู่ด้วยแล้ว คิดแค่ว่าจะประกอบพิธีส่งดวงวิญญาณของหลานให้เสร็จสิ้นก่อน ส่วนเรื่องคดีความตนก็อยากให้ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุด และขอเรียกร้องค่าเสียหายจากญาติผู้ที่ก่อเหตุฆ่าหลานของตนเอง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่โหดร้ายและสะเทือนใจของคนในครอบครัวอย่างมาก

.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook