คำต่อคำตัดพี่ตัดน้อง! เสรีพิศุทธ์ ฉะประยุทธ์ "หน้าด้าน" จนฟิวส์ขาด ไม่นับอาวุโสอีก

การอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาที่พบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีครั้งแรกในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (25 ก.ค.) เรียกได้ว่าถึงพริกถึงขิงมากๆ เมื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทยได้คิวพูด เพราะถูกประท้วงอย่างหนักจากบรรดา ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล และจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทั้งหมด

แต่การประท้วงเหล่านี้ ยังไม่ดุเด็ดเผ็ดมันเท่าจังหวะที่ พล.ต.เสรีพิศุทธ์ ปะทะคารมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จนทำให้ฝ่ายหลังถึงกับอารมณ์เสีย และเดินออกจากห้องประชุมรัฐสภาไป จังหวะที่เดินออกไปนี้เอง ก็ได้ยินเสียงดัง คล้ายกับคนขว้างแฟ้มลงพื่นอีกด้วย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ หัวร้อนจนต้องตัดพี่ตัดน้องกับหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ต้องย้อนไปตั้งแต่ก่อนการประท้วง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เริ่มอภิปรายจากการกล่าวถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องนาฬิกาหรูว่าคืนเพื่อนไปหรือยัง จากนั้นตนอ้างว่า พี่น้องประชาชนที่ตนไปพบในพื้นที่ต่างๆ บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่สง่างาม ครั้งแรกปล้นอำนาจมา สมัยที่สองก็โกงมา แต่ตนไม่เชื่อ เพราะสถาบันเตรียมทหาร ที่ตนและ พล.อ.ประยุทธ์ เรียนมาด้วยกัน ไม่ได้สอนให้ใครโกง แต่วานนี้ (25 ก.ค.) นายวันมะหูมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พูดว่า พล.อ.ประยุทธ์เตรียมยึดอำนาจมา 3 ปีแล้วก่อนวันยึดอำนาจ

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พูดต่อไปว่า สมาชิก กปปส. ที่อยู่พรรคพลังประชารัฐในขณะนี้ บางคนได้เป็นถึงนายกรัฐมนตรี ทำให้ชาวบ้านสงสัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะเป็นหัวหน้า กปปส. ตัวจริง จากนั้น ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ว. เริ่มประท้วง แต่ก็มี ส.ส. พรรคเพื่อไทย และพรรคอนาคตใหม่ ประท้วงกลับเช่นกัน

เมื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีโอกาสพูดต่อ ก็ได้พูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไปว่า ถ้าชาวบ้านพูดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าเป็นตนคงไม่ "หน้าด้าน" เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

"ท่านประธานครับ ความจริงผมมีประเด็นนี้เรื่องคุณสมบัติความสามารถนายกรัฐมนตรีและคณะพูดอีกมากเลย แต่เพื่อความสงบของสภา ประเด็นนี้ผมจะจบแค่เนี่ย เพราะฉะนั้นผมก็สรุปว่า อ๋อ... คือ เรื่องที่ชาวบ้านเล่ามาทั้งนั้น ผมก็สรุป อ๋อ มันเป็นเช่นนี้เองนะครับ นะ ถ้าเป็นผมเนี่ย ผมไม่หน้าด้านเป็นต่อหรอก ไม่เป็นดีกว่า"

จากนั้น ก็มีเสียงฮือฮามาจาก ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ลุกขึ้นพูด

"ผมขออนุญาตพูดครับ ท่านประธานครับ ผมก็ทนฟังมานานแล้วนะครับ ผมกับท่าน ผมกับท่านนะครับ ผมกับท่านนี่นะฮะ..." พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

"อย่าชี้ อย่าชี้ อย่าชี้ ผม..." พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตือน

"ผมไม่ได้ชี้นะครับ" พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธ"ผมไม่ได้ชี้ครับ"

"อย่าชี้ผม ผมกวาดมืออย่างงี้"

"นู่น! พูดกับประธานนู่น"

พล.อ.ประยุทธ์ มองไปที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และหยุดคิด ก่อนพูดต่อไปว่า

"ผมรู้จักกับท่านมานานแล้วนะครับ"

จากนั้นมีสมาชิกรัฐสภาพูดแทรกว่า ขอเสนอพักการประชุม 10 นาที

พล.อ.ประยุทธ์ พูดตัดบทขึ้นมาว่า "แต่งงานก็วันเดียวกัน สมรสพระราชทานมาด้วยกัน เป็นรุ่นพี่ผม"

"อา..." พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขานรับ

"แต่วันนี้ถือว่าไม่เป็นรุ่นพี่ผม"

"โอเค"

"นะครับ เพราะท่านไม่เคยให้เกียรติผมเลย ท่านบอกว่าจะชักปืนยิงผมตั้งแต่วันโน้น ถ้าท่านชักปืนยิงวันนั้น ท่านก็ติดคุก"

"อ้า"

"เหรียญรามาฯ ท่านได้ ผมก็ได้... นะครับ แต่ผมไม่เคยคุย แต่ผมไม่เคยแอบอ้าง ผลงานต่างๆ ผมมีมากมาย พูดจาหยาบคาย อวดอ้างอำนาจ ท่านไปทบทวนของท่านเอง ขอบคุณครับ สวัสดีครับ" 

เมื่อสิ้นเสียง พล.อ.ประยุทธ์ ก็พับไมโครโฟน และหันขวาเดินออกไป พร้อมกับเสียงวัตถุบางอย่างกระทบกับพื้นอย่างรุนแรง ทันใดนั้น สมาชิกรัฐสภาบางส่วนก็โห่ร้องและปรบมือ ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ต้องพยายามสั่งให้ทุกคนนั่งลง และสั่งพักการประชุม 10 นาที

>> ประยุทธ์ จันทร์โอชา สวมนาฬิการาคาเบาๆ เข้ารัฐสภาปะทะฝ่ายค้านครั้งแรก