โจรหนุ่มลักตู้เซฟแก้แค้น ได้นาฬิกาหรูกว่า 2.5 แสน โดนจับเพราะโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก
เมื่อเวลา 11.00 น. (26 ก.ค.62) พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.ถลาง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ถลาง ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัว นายอรรถไชย อายุ 31 ปี ชาว ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ พร้อมของกลาง ที่ยึดคืนได้ประกอบด้วย นาฬิกา 3 เรือน และตู้นิรภัย (ตู้เซฟ) 1 ตู้
พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์ภายใน บริษัทเดอะไซเดอร์ เฮ้าส์ จำกัดเลขที่ 89 / 2 ม.4 ตำบลศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงเดินทางไปตรวจสอบ
เบื้องต้น พบว่าคนร้ายได้ทุบกระจกที่บริเวณหน้าร้านเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินที่อยู่ภายในบริษัท และทรัพย์สินที่ได้สูญหายไปคือตู้เซฟ 1 ใบ ซึ่งภายในมีทรัพย์สินอยู่จำนวนหลายรายการ มีนาฬิกายี่ห้อ สีเงิน 1 เรือน ราคาประมาณ 20,000 บาท, นาฬิกา สีทอง 1 เรือน ราคาประมาณ 22,000 บาท , นาฬิกา สีเทาดำ 1 เรือน ราคาประมาณ 24,000 บาท , นาฬิกายี่ห้อคอลคอร์ท สีเงิน 1 เรือนราคาประมาณ 40,000 บาท ,นาฬิกายี่ห้อแอลไพน์ สายหนังยางสีดำ 1 เรือน ราคาประมาณ 150,000 บาท และเอกสารสำคัญอีกจำนวนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ถลางจึงได้ทำการสืบสวนและติดตามคนร้าย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2562 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “มาก่อนกูไม่รู้ มาหลังกู ชู้ทั้งนั้น” ได้โพสต์ลงในกลุ่มชื่อ “อยากซื้ออยากขาย กันเอง ภูเก็ตกระบี่” โดยมีการโพสต์ขายนาฬิกาซึ่งมีตำหนิตรงกันกับที่ถูกลักทรัพย์ไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนหาข่าวมาอย่างต่อเนื่องจนทราบตัวของผู้กระทำผิด ทราบชื่อคือ นายอรรถไชย อายุ 31 ปี ชาว ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ต
กระทั่งเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.สภ.ถลาง นำโดย พ.ต.ท.ณฐาภพ พงศาปาน รองผกก.สส.ถลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต ได้ทำการจับกุมตัวนายอรรถไชย ได้ขณะไปรายงานตัวต่อศาลจังหวัดภูเก็ต ในคดี “นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์(บัตรเครดิต)ของบุคคลอื่นไปใช้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย”
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น นายอรรถไชย ให้การรับสารภาพว่าได้กระทำจริง พร้อมให้การต่ออีกว่าว่าที่ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากคับแค้นใจที่ ก่อนหน้านี้ แฟนสาวของตนได้เข้าสมัครงานที่บริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการนำเข้าและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างประเทศ และได้ให้แฟนเข้าทำงานในตำแหน่งที่ไม่ถนัด สุดท้ายจึงต้องลาออกจากงานในวันที่ 8 ก.ค.62 ที่ผ่านมา ตนเองจึงตัดสินใจกระทำการลักทรัพย์ดังกล่าวขึ้นในวันที่ 9 ก.ค.62 หลังก่อเหตุ ตนเองได้เอาทรัพย์สินที่ได้ทั้งหมดซึ่งเป็นนาฬิกา 5 เรือนไปโพสต์ขายลงในกลุ่ม ในราคาเรือนละ 3,500 บาท ซึ่งมีผู้สนใจซื้อทั้งหมด ส่วนตู้เซฟได้นำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต แต่ทางร้านไม่รับซื้อจึงนำตู้เซฟดังกล่าวไปทิ้งไว้ในบริเวณใกล้เคียง
ทั้งนี้ในส่วนของนาฬิกาทั้ง 5 เรือนนั้น นายอรรถไชย ผู้ก่อเหตุ ได้ให้ความร่วมมือติดตาม กลับมาได้จำนวน 3 เรือน พร้อมพาไปชี้จุดที่ทิ้งตู้เซฟไว้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บเป็นของกลางประกอบคดีส่งพนักงานสอบสวน ยังเหลือนาฬิกาอีก 2 เรือนซึ่งติดต่อผู้ที่ซื้อไปได้แล้ว โดยจะนำมาส่งคืนให้ภายหลัง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทำความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์ นั้นไปเพื่อการหลบหนีหรือผลจากการจับกุม หรือรับของโจร” กับนายอรรถไชย ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป