สิ้นแล้ว "หลวงปู่แสน ปสันโน" อริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน ละสังขารอย่างสงบด้วยอายุ 112 ปี

สิ้นแล้ว "หลวงปู่แสน ปสันโน" อริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน ละสังขารอย่างสงบด้วยอายุ 112 ปี

สิ้นแล้ว "หลวงปู่แสน ปสันโน" อริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน ละสังขารอย่างสงบด้วยอายุ 112 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่วัดบ้านหนองจิก หมู่ 2 ต.ภูฝ้าย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายเสาร์ คุ้มครอง ลูกชายและเป็นลูกศิษย์เอกของหลวงปู่แสน ปสันโน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.ศรีสะเกษ และภาคอีสาน เปิดเผยว่า หลวงปู่แสน ปสันโน เทพเจ้าแห่งเขาภูฝ้าย พระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน ท่านได้ละสังขารอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 22.24 น.ของคืนวันที่ 25 ก.ค. 62  ที่กุฏิภายในวัดบ้านหนองจิก โดยมีลูกหลาน ญาติพี่น้องลูกศิษย์ ที่มาคอยเฝ้าดูแลอาการของหลวงปู่ด้วยความห่วงใยจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้ หลวงปู่แสนมีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะที่ 2 และป่วยด้วยโรคหัวใจ กระเพาะลำไส้ ปอดติดเชื้อ ตนพร้อมด้วยญาติพี่น้องและคณะศิษย์ได้นำหลวงปู่ไปเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.กันทรลักษ์ และ รพ.ศรีสะเกษมาอย่างต่อเนื่องหลายเดือนแล้ว

ล่าสุด พักรักษาตัวอยู่ที่ตึกสงฆ์อาพาธ รพ.ศรีสะเกษ ซึ่งแพทย์พยาบาลได้ให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ โดยแพทย์ต้องทำการดูดเสลดที่เหนียวออกมา แต่ดูดได้น้อยมาก และไม่สามารถดูดเสลดออกมาได้ เนื่องจากว่าหลวงปู่อายุมากแล้วและร่างกายอ่อนเพลียอย่างหนัก และเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 25 ก.ค. 62 หลวงปู่มีอาการทรุดหนักมาก หลวงปู่ได้แจ้งให้ตนและญาติพี่น้องทราบว่า จะกลับไปละสังขารที่วัดบ้านหนองจิก และให้ตนนำหลวงปู่กลับมาที่วัดบ้านหนองจิก

นายเสาร์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากนำตัวหลวงปู่กลับมาถึงกุฏิวัดบ้านหนองจิกเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 25 ก.ค. 62 หลวงปู่ยังไม่ละสังขาร แต่ว่าได้รอลูกศิษย์ ลูกหลาน ญาติพี่น้อง ที่กำลังเดินทางมาหาหลวงปู่

ซึ่งเมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว หลวงปู่ได้ละสังขารอย่างสงบเมื่อเวลา 22.24 น.ของคืนวันที่ 25 ก.ค. 62  ซึ่งลูกศิษย์และลูกหลานญาติพี่น้องต่างพากันร่ำไห้ด้วยความอาลัยหลวงปู่  ซึ่งเป็นพระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาให้กับลูกศิษย์ลูกหาและพุทธศาสนิกชนทั่วไปมาโดยตลอด

สำหรับกำหนดการพิธีการทำบุญสรีระสังขารของหลวงปู่นั้น ขณะนี้ได้แจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอพระราชทานน้ำหลวงสรงน้ำสรีระสังขารของหลวงปู่ เป็นการเบื้องต้นไว้ก่อนแล้ว โดยยังไม่ได้กำหนดว่าจะจัดพิธีสรงน้ำวันใด เมื่อได้รับพระราชทานน้ำหลวงมาแล้วจึงจะกำหนดวันเวลารวมทั้งกำหนดการประกอบพิธีต่างๆ ด้วย ซึ่งจะต้องรอนำไปกราบหารือกับพระราชกิตติรังษี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเตรียมจัดพิธีทางศาสนาต่อไป  

ประวัติ หลวงปู่แสน ปสันโน เทพเจ้าแห่งเขาภูฝ้าย พระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน

หลวงปู่แสน มีชื่อเดิมคือ แสน นามสกุล คุ้มครอง เกิดเมื่อขึ้น 10 ค่ำเดือน 10 ปีมะแม ตรงกับวันศุกร์ ที่ 11 กันยายน 2451 เป็นบุตรของพ่อเอี้ยง คุ้มครอง และ แม่ผัน คุ้มครอง มีพี่น้องร่วมมารดา รวม 6 คน หลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 2  ปัจจุบันเหลือหลวงปู่ผู้เดียว พื้นเพเป็นคนบ้างโพง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์  จ.ขุขันธ์  ปัจจุบันคือ ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ

เมื่อครั้งยังเด็กหลวงปู่เป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดบ้านโพงและพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโพงในสมัยนั้นเลี้ยงดู และได้บวชเณรให้หลวงปู่แสนที่วัดบ้านโพง ระหว่างบวชเณรได้ไปศึกษาเรียนหนังสือกับหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอใต้ จนจบ ป.4 และได้เรียนตำราพระเวชจากหลวงพ่อมุมทั้งภาษาขอม ภาษาธรรมบาลี

จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2471 อายุ 21 ปีได้เข้าบรรพชาอุปสมบท ที่วัดบ้านโพง ได้นิมนต์ หลวงพ่อมุม อินทปญโญ วัดปราสาทเยอ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เป็นพระกรรมมาวาจาจารย์ ส่วนพระอุปัชฌาย์คือหลวงพ่อบุญมา ซึ่งอาจารย์ของหลวงพ่อมุม วัดประสาทเยอเหนือ และระหว่างเป็นพระก็ยังคงเรียนรู้วิชากับพระอาจารย์มุม อย่างต่อเนื่อง

หลวงปู่ได้รับการถ่ายทอดความรู้วิชาอาคมต่าง ๆ จากพระอาจารย์จนมีความเชี่ยวชาญทางด้านวิปัสสนากรรมฐานฝึกจิตให้กล้าแข็งมีสมาธิอันแน่วแน่ เพื่อเป็นพลังสื่อนำมาประกอบการใช้คาถาอาคม หลวงพ่อได้เอาใจใส่ฝึกฝนกับพระอาจารย์เจนจัดเชี่ยวชาญ

จนกระทั่งอายุ 24 ปี ได้ลาสิกขาบทออกมาเพื่อมาช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน แต่หลังจากสึกเป็นฆราวาสแล้ว ท่านได้บวชเป็นหมอธรรม บวชกับคุณพ่อธัมญา บ้านหนองหญ้าปล้อง เป็นระยะเวลาหลายปีเพื่อรักษาคน ปฏิบัติธรรม ช่วยเหลือคนเจ็บไข้ได้ป่วย

ขณะที่เป็นฆราวาส ระหว่างว่างเว้นจากการทำเกษตรกรรม หลวงปู่ได้ชักชวนเพื่อนๆ หมอธรรมเดินทางไปเขมรเพื่อเรียนเพิ่มเติมที่จังหวัดพระตะบอง จ.เสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคารมเป็นนายกรัฐมนตรี  ได้เข้าพบพระผู้ใหญ่และอาจารย์จากทางเขมรแล้วได้ร่ำเรียนวิชาอาคมมาไม่น้อย หลวงปู่ท่านกลับเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับช่วยเหลือผู้คน รักษาคน

ต่อมาพอหมดภาระทางบ้านหลวงปู่ได้กลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง ตอนอายุ 90 ปี บวชที่วัดกุดเสลา ซึ่งมีเจ้าคณะตำบลเป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านบวชเป็นพระที่อยู่อย่างสมถะ ไม่มักมาก ไม่ยึดติด เป็นพระนักสร้าง ชาวบ้านกุดเสลาจึงรักและศรัทธาท่านมาก เนื่องจากหลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีเมตตา

แม้อายุจะย่างเข้า 93 ปี ท่านก็ได้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านโพงโดยรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดในช่วงนั้น วัดนั้นก็จะเต็มไปด้วยลูกวัด ในขณะที่จำพรรษาอยู่วัดบ้านโพงก็ได้ทำนุบำรุงวัดเฉกเช่นวัดอื่น จนอายุ 97 ปี ลูกหลานเป็นห่วงสุขภาพหลวงปู่ จึงได้พาชาวบ้านไปนิมนต์หลวงปู่จากวัดบ้านโพงกลับมาจำพรรษาที่วัดหนองจิกจนถึงทุกวันนี้ และท่านก็กลับมาพัฒนาวัดบ้านหนองจิก ดั่งเช่นทุกวัด

วัตถุมงคลของหลวงปู่แสน ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเชื่อกันว่าวัตถุมงคลของท่านทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย ผู้นำไปใช้มีโชคลาภมากมาย จึงทำให้ท่านมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ สิ้นแล้ว "หลวงปู่แสน ปสันโน" อริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน ละสังขารอย่างสงบด้วยอายุ 112 ปี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook