โผล่อีกเคส หนุ่มร้องตำรวจถูก "เสน่ห์หญิง" หลอกโอนเงินกว่า 7 ล้าน

โผล่อีกเคส หนุ่มร้องตำรวจถูก "เสน่ห์หญิง" หลอกโอนเงินกว่า 7 ล้าน

โผล่อีกเคส หนุ่มร้องตำรวจถูก "เสน่ห์หญิง" หลอกโอนเงินกว่า 7 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มออกแบบจัดสวนเข้าร้องกองปราบ ถูกสาวหลอกให้โอนเงินกว่า 7 ล้านบาท ในรอบ 4 ปี โดยใช้รูปนางเอกเอ็มวีค่ายดัง มาตั้งโปรไฟล์

เมื่อวานนี้ (26 ก.ค.) นายตั้ม (นามสมมติ) ผู้เสียหายอายุ 35 ปี ได้นำหลักฐานการโอนเงิน และการสนทนาผ่านโปรแกรมไลน์ เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม หลังถูกหญิงสาวคนหนึ่งหลอกให้โอนเงินไปให้กว่า 7 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน

ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อปี 2558 ตนเองรู้จักกับผู้หญิงคนดังกล่าวทางเฟซบุ๊ก จึงได้ตกลงพูดคุยกันเรื่อยมา จากนั้นไม่นานหญิงคนดังกล่าวก็ได้ขอให้โอนเงินช่วยเหลือในหลายๆ เรื่อง โดยอ้างว่าจะใช้เงินรักษาโรคมะเร็ง ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าดาวน์บ้านไว้เป็นเรือนหอ หลังจากแต่งงาน และให้ญาติยืมรวมแล้วกว่า 7 ล้านบาท

สำหรับการโอนเงินให้แต่ละครั้งจะมีตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 100,000 บาท โดยโอนไปให้ 3 บัญชี มี 1 บัญชีที่หญิงคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นของเพื่อนที่มีอาชีพครู และที่ผ่านมาไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน คุยกันผ่านโปรแกรมไลน์เท่านั้น เมื่อพยายามขอพบก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด

ผู้เสียหายยังบอกว่า ระหว่างที่คุยกันมีบางครั้งที่ต้องการใช้เงินมาหมุนในธุรกิจของตัวเอง ก็ได้ขอยืมเงินมาบ้างประมาณ 1 ล้านบาท หญิงคนดังกล่าวก็ให้ยืมแต่คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 แต่ก็คิดว่าเงินจำนวนนี้เป็นเงินของตัวเองที่เคยให้ยืมไป จนกระทั่งเริ่มรู้ตัวและไม่ให้เงินอีก ผู้หญิงคนดังกล่าวก็เริ่มข่มขู่ว่าได้จ้างคนเตรียมมาฆ่าตัวเองและครอบครัว

รวมทั้งอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองและผู้มีอิทธิพล จากนั้นก็ไปข่มขู่แม่ของตนอีก ให้โอนเงินอีก 2 แสนบาท หากจะไม่ให้ฆ่า เพราะได้ตกลงจ้างมือปืนไปแล้ว ซึ่งเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ ยังก็ยังคงข่มขู่ทางแชทอยู่

ทั้งนี้ ผู้เสียหายคาดว่ากลุ่มนี้ทำกันเป็นขบวนการ เพราะมีตัวละครมาร่วมก่อเหตุอย่างน้อย 4 คน เข้ามาติดต่อและระหว่างพูดคุยก็มีเพื่อนของฝ่ายหญิงมาพูดคุยให้เชื่อใจด้วย

ทางด้าน นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ เปิดเผยว่า ได้มาแจ้งความที่กองปราบปรามมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ครั้งแล้ว เนื่องจากรอเอกสารของธนาคารมาประกอบ ซึ่งหลังจากติดต่อกับพนักงานสอบสวนแล้ว ได้แนะนำให้ไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพราะคดีมีความเกี่ยวข้องทางเทคโนโลยี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook