อภิสิทธิ์ โวยม็อบเสื้อแดง ทำเศรษฐกิจไตรมาส2ตกวูบ
นายก เผยรัฐบาลจะสร้างยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ ทำโครงการให้กระจายไปทั่วประเทศ ยกไทยแลนด์อิลิทการ์ด ล้มไม่เป็นท่า โต้รัฐบาลไม่มีหน้าที่ทำตัวเป็นเอกชน
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "การแก้วิกฤติและการปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจไทยเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว" ให้กับนักศึกษาหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง จัดโดยสถาบันวิทยาการตลาดทุนกล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรก หดตัวร้อยละ 7.1 ซึ่งเราต้องรอดูว่า ในไตรมาสสองจะเป็นอย่างไร แต่ตนไม่อยากพูดมากเกินไป แต่ไตรมาสที่สองโชคไม่ดี ที่เกิดเหตุการณ์ทางการเมือง ซึ่งไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวจะถูกต่อว่า ว่าเป็นเรื่องทางการเมือง แต่ตอนนั้นตนประกาศวันหยุดรวดเดียวเป็นสิบวัน ที่สำคัญ คนประกาศไม่ได้หยุดด้วย สำหรับการกระตุ้นรอบสองนี้ เราจะทำโครงการที่กระจายไปทั่วประเทศ ซึ่งต้องเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ต้องถามว่า มีอะไรบ้างที่เป็นโครงสร้างที่จำเป็น ดังนั้นร้อยละ 20 ของโครงการไทยเข้มแข็ง จะไปที่แหล่งน้ำ และไม่ได้คิดหวือหวาว่าจะต้องเอาน้ำลอดใต้แม่น้ำโขง เพียงแค่เอาศักยภาพพื้นที่ระดับกลางให้กระจายไปทั่วประเทศ ส่วนอีกร้อยละ 40 ลงไปในเรื่องถนน ที่เชื่อโยงชนบท ขนส่งระบบราง ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่คิดว่า จะช่วยกระตุ้นชนบทให้มีสภาพดีขึ้น เพื่อการเข้าถึงตลาด นอกจากนี้สินค้าเกษตร เราส่งออกยางพารา ซึ่งร้อยละ 80 ที่ส่งออกเป็นยางดิบ ส่วนอีกร้อยละ 10 เป็นแปรรูป แต่เงินได้เท่ากัน ดังนั้นถ้าเราเน้นแปรรูปยางมากขึ้น เงินจะเข้าประเทศเป็นเท่าตัว
"บทบาทรัฐและเอกชนที่ผ่านมา อาจมีแนวคิดต่าง ผมโดนต่อว่า 2-3 วัน ในสภา ว่ารัฐบาลนี้ไม่คิด ก็มาคิดว่าจริงๆแล้วคนที่หาเงินเข้าประเทศจริงๆเกือบทั้งหมด คือ เอกชน ยอมรับว่าผมไม่ค่อยได้คิดโครงการให้รัฐไปทำเอง และเวลารัฐไปทำเอง ก็มักล้มเหลว เรื่องไทยแลนด์อิลิทการ์ด ตั้งเป้าให้ได้ 1 ล้านล้านบาท ผ่านไปได้เพียง 6 ปี ได้สมาชิก แค่ 2 พันคน สุดท้ายล้มหมด เพราะรัฐบาลไม่มีหน้าทำไปทำตัวเป็นเอกชน แต่มีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนกำกับดูแล แต่ปัญหาคือ หน่วยงานรัฐที่ขัดแย้งกัน คู่กรณีที่มากสุด คือ กระทรวงการคลัง บางครั้งยังกั๊กไว้ ในเรื่องภาษีจนมีปัญหากับเอกจน เวลาตนสอบถาม ก็จะอธิบายแต่เรื่องที่มาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ผมต้องการที่ไปบ้าง" นายกฯกล่าว