นักวิจัยชี้ "คนนิยมกินเผ็ด" เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคความจำเสื่อม

นักวิจัยชี้ "คนนิยมกินเผ็ด" เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคความจำเสื่อม

นักวิจัยชี้ "คนนิยมกินเผ็ด" เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคความจำเสื่อม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

งานวิจัยชิ้นล่าสุดของนักวิชาการได้เผยด้านมืดของ "การกินเผ็ด" ชี้มีความเสี่ยงทำให้เกิดภาวะความจำเสื่อม หากบริโภคจำนวนมากเกินไป ก็เพิ่มความเสี่ยงขึ้นเรื่อยๆ

สำนักข่าวซินหัวของประเทศจีนรายงานว่า งานวิจัยฉบับใหม่เกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของการบริโภคพริกกับโรคความจำเสื่อมนั้น ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับกลุ่มคนที่ชื่นชอบทานอาหารเผ็ด เพราะกลุ่มนักวิจัยได้ค้นพบว่าการบริโภคพริกจำนวนมากอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคความจำเสื่อม

งานวิจัยดังกล่าวที่นำโดย ซูมิน ชิ (Zumin Shi) ผู้ช่วยศาสตรจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยกาตาร์ ได้วิเคราะห์ข้อมูลของผู้ใหญ่ชาวจีนจำนวน 4,582 คนที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป ในช่วงปี 1991-2006 และพบหลักฐานของการเสื่อมถอยของกระบวนการรับรู้ ในกลุ่มคนที่บริโภคพริกอย่างต่อเนื่อง ในปริมาณมากกว่า 50 กรัมต่อวัน

“งานวิจัยในอดีตของเราเคยระบุว่าการบริโภคพริกมีผลดีต่อร่างกาย เช่น ลดน้ำหนักและความดันเลือด แต่ในงานวิจัยฉบับนี้เราพบว่า พริกมีผลร้ายต่อกระบวนการรับรู้ของผู้ใหญ่อายุมาก” ซูมิน ชิกล่าวในงานแถลงข่าวงานวิจัยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (23 ก.ค.)

หมิง ลี (Ming Li) จากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นออสเตรเลีย หนึ่งในผู้เขียนวิจัยฉบับนี้ระบุว่า อันตรายของการบริโภคพริก ครอบคลุมทั้งพริกสดและพริกแห้ง แต่ไม่รวมถึงพริกไทยดำและพริกหวาน

“พริกเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ถูกใช้ปรุงอาหารอย่างกว้างขวางที่สุดในโลก โดยเฉพาะในทวีปเอเชียและยุโรป” ลีกล่าว “และบางมณฑลของจีนเช่น เสฉวนและหูหนาน หนึ่งในสามของผู้ใหญ่ในมณฑล บริโภคอาหารรสเผ็ดทุกวัน”

เราทราบกันว่าแคปไซซิน เป็นสารประกอบรสเผ็ดในพริกที่เร่งการทำงานของเมตาบอลิซึม ช่วยลดไขมันและยับยั้งความผิดปกติของหัวใจ แต่วิจัยฉบับนี้เป็นวิจัยฉบับแรกที่สืบหาความเชื่อมโยงของการบริโภคพริกและกระบวนการการรับรู้ของร่างกาย

นักวิจัยอธิบายเพิ่มเติมว่า น้ำหนักตัวเกี่ยวข้องกับผลกระทบของการบริโภคพริก ผู้ที่มีน้ำหนักตามเกณฑ์อาจได้รับผลกระทบด้านความทรงจำมากกว่ากลุ่มคนที่มีน้ำหนักเกิน

อนึ่ง องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก โดยโรคอัลไซเมอร์เป็นโรคที่แพร่หลายมากที่สุดถึงร้อยละ 60-70 และขณะนี้ ยังไม่มีวิธีการรักษาและยับยั้งการลุกลามของโรคเหล่านี้ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook