สะเทือนใจ! พ่อเฒ่าอยู่บ้านลำพัง วูบตกบ่อน้ำตายมาแล้ว 7 วันไม่มีใครรู้
![สะเทือนใจ! พ่อเฒ่าอยู่บ้านลำพัง วูบตกบ่อน้ำตายมาแล้ว 7 วันไม่มีใครรู้](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1569/7848283/news02.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
สุดสะเทือนใจ พ่อเฒ่าวัย 77 ปี อยู่บ้านเพียงลำพัง ลูกสาวแวะมาเยี่ยมครั้งสัปดาห์ แต่คราวนี้ไม่เห็นอยู่ในบ้าน มาแต่เป็นศพอยู่บ่อน้ำหลังบ้าน คาดเสียชีวิตมาหลายวันแต่ไม่มีใครรู้
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27 ก.ค.) ร.ต.อ.สุเมธ สุขศรัทธา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งพบศพคนจมน้ำเสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่งใน ต.บ้านโพธิ์ จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุบริเวณบ่อน้ำด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นสวนมะม่วงและสวนมะพร้าว พบร่างผู้เสียชีวิตสภาพเน่าเปื่อย นอนคว่ำหน้าลอยอยู่ริมบ่อ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำขึ้นมาตรวจพิสูจน์ทราบชื่อ นายจำเนียร อายุ 77 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพแทบจำไม่ได้ว่าเป็นใคร เนื่องจากศพมีสภาพเน่าเปื่อย แขนหลุดหายไป 1 ข้าง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุห่างจุดพบศพประมาณ 20 เมตร พบกระดูกแขนของผู้เสียชีวิตอยู่ข้างป่ากกริมบ่อน้ำ แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 วัน
จากการสอบถาม นางวาสนา อายุ 53 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า พ่ออาศัยอยู่บ้านสวนเพียงลำพัง อีกทั้งยังป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง และมักมีอาการวูบบ่อย ก่อนหน้านี้เคยขี่รถจักรยานยนต์ไปล้มมาแล้ว ตนเคยสั่งห้ามไม่ให้ขี่รถจักรยานยนต์ และไม่ให้อยู่ใกล้บ่อน้ำ ขณะที่ตนอยู่กับครอบครัวที่ต่างหมู่บ้าน จะแวะมาเยี่ยมพ่อสัปดาห์ละครั้ง
โดยครั้งล่าสุดตนมาหาพ่อเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ก.ค.) และวันนี้ก็มาเยี่ยมอีก แต่ไม่เห็นพ่ออยู่ในบ้านจึงออกเดินหาทั่วบ้านสุดท้ายมาพบศพพ่อเสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำดังกล่าว
เบื้องต้นสันนิษฐานว่าหลังจากลูกสาวกลับบ้านไป ทำให้ผู้เสียชีวิตอยู่บ้านเพียงลำพัง น่าจะเกิดความเหงาจึงเดินมาถอนหญ้าที่ริมบ่อน้ำแล้ว แต่ปรากฏว่าเกิดอาการวูบและพลัดตกลงไปในบ่อน้ำ โดยที่ไม่มีใครพบเห็นและช่วยตัวเองไม่ได้ ทำให้เสียชีวิตอยู่แบบนั้นนานเป็นสัปดาห์ กระทั่งร่างกายเน่าเปื่อยและเชื่อว่าตัวเงินตัวทองน่าจะมาแทะกินซากศพ ทำให้ดึงแขนหลุดออกไป และทิ้งกระดูกไว้ที่ริมบ่อน้ำดังกล่าว
หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ชันสูตรร่วมกับแพทย์แล้วญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตจึงมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณีต่อไป