สุดสงสาร หนูน้อย 2 ขวบ ปอดเรื้อรังตั้งแต่เกิด สร้างออกซิเจนเองไม่ได้

สุดสงสาร หนูน้อย 2 ขวบ ปอดเรื้อรังตั้งแต่เกิด สร้างออกซิเจนเองไม่ได้

สุดสงสาร หนูน้อย 2 ขวบ ปอดเรื้อรังตั้งแต่เกิด สร้างออกซิเจนเองไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่วอนสังคมช่วยเหลือ ลูกสาววัย 2 ขวบ ป่วยโรคปอดเรื้อรังมาตั้งเกิด ร่างกายสร้างออกซิเจนเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา กลายเป็นคุณแม่เต็มเวลา ทำงานหารายได้แทบไม่ได้

(28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านดอนหวาย ต.หนองระเวียง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา พบเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากป่วยเป็นโรคปอดเรื้อรังตั้งแต่กำเนิด จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนช่วยหายใจตลอดเวลา

น.ส.ไพลิน อายุ 25 ปี แม่ของเด็ก เปิดเผยว่า ตนมีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 8 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี และคนเล็กอายุ 2 ขวบ คือ น้องขวัญข้าว ป่วยเป็นโรคปอดเรื้อรังตั้งแต่เกิด และร่างกายไม่สามารถสร้างออกซิเจนเองได้ ต้องใช้เครื่องให้ออกซิเจนตลอดเวลา ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายสูงและต้องคอยดูแลน้องขวัญข้าวตลอดเวลา ส่วนพ่อของเด็กได้ทอดทิ้งไปตั้งแต่เพิ่งเริ่มตั้งครรภ์น้องขวัญข้าวได้ไม่กี่เดือน

โดยระหว่างที่ตนตั้งครรภ์ก็ได้ไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง และดูแลตัวเองเป็นอย่างดี แต่เมื่ออายุครรภ์ได้ 7เดือน ตนเกิดลื่นล้มในห้องน้ำ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บและยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ จนเวลาผ่านไป 2 วัน เริ่มมีอาการปวดท้องจึงไปหาหมอที่ รพ.จักราช ที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด

พอไปถึงหมอก็ให้เข้าห้องคลอดทันที ก่อนที่ตนจะคลอดลูกเองตามธรรมชาติ แต่ปรากฏว่า ลูกออกมีอาการตัวเขียวและตัวเล็กมาก มีน้ำหนักเพียง 1,200 กรัม และปอดยังไม่สมบูรณ์เหมือนเด็กทั่วไป เพราะคลอดก่อนกำหนด ทาง รพ.จักราช จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา

น้องขวัญข้าวต้องอยู่ในห้องไอซียูนานกว่า 9 เดือน หมอบอกว่าน้องเป็นโรคปอดเรื้อรัง และร่างกายไม่สามารถสร้างออกซิเจนได้ ต้องใช้เครื่องช่วยตลอดเวลา และไม่สามารถดูดนมเองได้ต้องให้นมทางสายยาง ในระหว่างที่ลูกอยู่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ต้องเดินทางไปหาลูกทุกวัน แม้ระยะทางไป-กลับจะไกลกว่า 80 กิโลเมตรก็ตาม

น้องขวัญข้าวยังต้องนอนรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ต่ออีกเป็นเวลา 11 เดือน จากนั้นแพทย์ก็ให้กลับไปฝึกดูดนมเองที่ รพ.พิมาย ต่ออีก 1 เดือน จนกระทั่งน้องสามารถดูดนมเองได้ จึงอนุญาตให้กลับมาอยู่บ้าน แต่ต้องมีถังออกซิเจนช่วยหายใจตลอดเวล

ตนก็ต้องหาเงินซื้อเอง รวมอุปกรณ์ต่างๆเป็นเงินกว่า 6 พันบาท และต้องไปเติมออกซิเจนทุกอาทิตย์ครั้งละ 150 บาท จึงถือว่าเป็นค่าใช้จ่าที่สูงเพราะเมื่อก่อนตนทำงานรับจ้างทั่วไป พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ตั้งแต่คลอดลูกตนก็ไม่ได้ทำงาน และเงินที่เก็บไว้ก็ต้องนำมาเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาลูกจนหมด

ทุกวันนี้ตนไปไม่ได้ทำงาน เงินก็ไม่พอใช้จ่าย ยังดีที่ยังมีบ้านให้อยู่ เป็นบ้านที่พ่อแม่สร้างไว้ให้ ก่อนจะแยกทางกันตั้งแต่ตนอายุ 14 ปี ปัจจุบันแม่ไปทำงานที่กรุงเทพฯ จะส่งเงินมาช่วยค่าเล่าเรียนหลานคนโตในแต่ละเดือนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ

ส่วนตนถือว่ายังโชคดีที่ได้มาเจอกับสามีคนปัจจุบัน เขาช่วยดูแลลูกและทำงานหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว โดยทำงานก่อสร้างได้ค่าแรงวันละ 300-400 บาทเท่านั้น ก็ยังไม่พอกับรายจ่ายที่ต้องใช้ทุกวัน ตนจึงต้องไปกู้เงินจากกองทุนต่างๆ ของหมู่บ้านมาเป็นค่าใช้จ่าย เพราะน้องขวัญข้าวไม่สามารถกินนมเหมือนเด็กคนอื่นๆ ได้ ต้องกินนมแพน-เอ็นเทอราล เป็นอาหารทางการแพทย์ที่ราคาค่อนข้างสูง กระป๋องเดียวน้องจะกินได้ประมาณ 3 วัน แต่มาระยะหลังตนไม่มีเงิน จึงทดลองซื้อนมผงคาร์เนชั่นมาให้ลูกกิน ปรากฏว่าพอจะกินได้ สามารถเบาเรื่องรายจ่ายขึ้นมาได้นิดหน่อย

ปัจจุบัน น้องขวัญข้าว อายุ 2 ขวบแล้ว แต่มีน้ำหนักเพียง 7 กิโลกรัมเท่านั้น และมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน ขาเล็กไม่มีแรง ไม่สามารถเดินได้ พูดไม่ได้ แต่กินอาหารได้ปกติ แต่ละวันจะต้องกินยามากกว่า 10 ขวด เป็นยาขยายหลอดลม และยารักษาปอด

ส่วนที่จมูกต้องมีสายออกซิเจนเพื่อช่วยหายใจตลอดเวลา และถังออกซิเจนมีแค่ถังเดียว ตอนกลางคืนต้องกลิ้งถังเข้าไปในบ้าน พอตอนเช้าก็กลิ้งออกมาอยู่ข้างนอก ทำเช่นนี้เป็นประจำทุกวัน และทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยน น้องขวัญข้าวจะมีอาการหายใจไม่ออก ตัวเขียว จนต้องเข้า รพ.ครั้งละหลายวัน โดยตนจะพาลูกขี่รถไป รพ.พิมาย ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร
แต่ถ้าไป รพ.จักราช ซึ่งใกล้กว่าจะใช้ระยะทาง 20 กิโลเมตร แต่จะไม่มีหมอเชี่ยวชาญเรื่องเด็ก จึงจำเป็นต้องไป รพ.พิมาย ซึ่งการเดินทางแต่ละครั้ง ต้องขนตะกร้าอุปกรณ์มัดใส่ท้ายรถสองล้อ แล้วเอาลูกใส่กระเป๋าอุ้มอยู่ด้านหน้า เพราะถ้าเหมารถ ต้องเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 500-600 บาท ตนจึงจำเป็นต้องพาลูกเดินทางไปแบบนี้

ทั้งนี้ น้องขวัญข้าวได้รับเงินอุดหนุนเด็ก จาก อบต.หนองระเวียง เดือนละ 600 บาท จึงอยากวอนผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือเรื่องถังออกซิเจนที่ได้มาตรฐานกว่าที่ใช้อยู่ เพื่อให้น้องได้มีชีวิตอยู่ให้นานที่สุด และหวังว่าน้องจะหายเป็นปกติเหมือนเด็กคนอื่นในอนาคต

ส่วนนมผง, ผ้าอ้อมสำเร็จรูปไซด์ M และของใช้สำหรับเด็กอ่อนอื่นๆ แล้วแต่ผู้ใจบุญจะสามารถช่วยเหลือได้ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยตรงกับแม่ของน้องขวัญข้าว ที่เบอร์โทรศัพท์ 061-0463291 หรือสามารถโอนเงินช่วยเหลือไปที่หมายเลขบัญชี 020097026312 ธนาคารออมสิน สาขาพิมาย ชื่อบัญชี น.ส.ไพลิน ปิ่นสุวรรณ แม่ของน้องขวัญข้าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook