สาวใหญ่หลอกปล้นยาย 80 โดนจับยังไม่ข้ามวัน ถอดเสื้อชั้นในหวังตายหนีผิด

สาวใหญ่หลอกปล้นยาย 80 โดนจับยังไม่ข้ามวัน ถอดเสื้อชั้นในหวังตายหนีผิด

สาวใหญ่หลอกปล้นยาย 80 โดนจับยังไม่ข้ามวัน ถอดเสื้อชั้นในหวังตายหนีผิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวใหญ่เพิ่งถูกจับคดีหลอกขโมยเงินยายวัย 80 อยู่ในห้องขังไม่ทันข้าววัด เครียดจัดถอดใช้เสื้อชั้นในผูกคอตัวเอง พยายามหนีความผิด ตำรวจเห็นช่วยทัน-หามส่งหมอ

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองปราบปราม ร่วมกับกองกำกับการสืบสวนภูธร จ.อุทัยธานี และตำรวจชุดสืบ สภ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ นำหมายศาล ไปติดตามจับกุมตัว น.ส.ธวัลกร อายุ 43 ปี ได้ที่บ้านพักใน ต.สะแกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี หลังก่อเหตุหลอกตีสนิท นางนวลศรี อายุ 80 ปี คุณยายในหมู่บ้านหนองหญ้ารังกา อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะฉวยโอกาสเข้าไปขโมยเงินสด 10,000 บาท และสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท รวมเป็นเงินกว่า 30,000 บาท จึงถูกนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.นาโพธิ์

แต่ล่าสุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา (28 ก.ค.) ขณะที่ น.ส.ธวัลกร ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวไว้ในห้องขัง สภ.นาโพธิ์ เพื่อเตรียมนำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ต้องหาได้ถอดเสื้อชั้นในและผูกคอตัวเองกับลูกกรงห้องขัง เพื่อหวังจะตายหนีความผิด แต่เคราะห์ดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเข้าเวรอยู่มองเห็น จึงได้เข้าไปช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน และนำตัวส่งโรงพยาบาลนาโพธิ์ ล่าสุดส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบุรีรัมย์แล้ว

โดยขณะนี้ผู้ต้องหาอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรม โรงพยาบาลบุรีรัมย์ โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้คิดสั้นหรือหลบหนีอีก ซึ่งคาดว่าผู้ต้องหาอาจจะเกิดความเครียด เพราะนอกจากจะก่อเหตุขโมยเงินและสร้อยทองแม่ยายวัย 80 ปีในพื้นที่ อ.นาโพธิ์ แล้ว ยังพบว่ามีผู้เสียหายที่ถูกก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ทยอยเดินทางมาชี้ตัวอย่างต่อเนื่อง

จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีผู้เสียหายถูกหลอกและขโมยเอาเงินไปในลักษณะคล้ายกัน 3 จังหวัด ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.ขอนแก่น

นายพรมมา อายุ 80 ปี หนึ่งในผู้เสียหายที่เดินทางมาจาก จ.ร้อยเอ็ด เพื่อชี้ตัวผู้ต้องหา เปิดเผยว่า เมื่อปี 2559 ได้มีหญิงสาวหน้าตาคล้ายกับผู้ต้องหา ได้มาหลอกว่ารู้จักกับลูกสาวที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ อ้างว่าลูกสาวให้มาเอาเงินจากตา เพื่อไปซื้อน้ำผึ้งที่สั่งไว้จำนวน 70 ขวด เป็นเงิน 17,500 บาท และขอค่ารถอีก 500 บาท รวมเป็น 18,000 บาท ทำให้ตาหลงเชื่อจึงให้เงินไป 18,000 บาท

กระทั่งมาทราบภายหลังว่าถูกหญิงคนดังกล่าวหลอกจึงได้เข้าแจ้งความไว้ และพอทราบว่ามีการก่อเหตุในลักษณะคล้ายกันที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว จึงได้เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา แต่ยังไม่ทันได้ชี้ตัว ก็ทราบว่าผู้ต้องหาพยามยามฆ่าตัวตายหนีความผิด เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ดูจากรูป ตนเห็นหน้าตาว่าคล้ายกันกับหญิงที่เคยหลอก แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่ เพราะเหตุเกิดตั้งแต่ปี 2559 ปัจจุบันก็ผ่านมาเกือบจะ 4 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม หากผู้ต้องหาอาการดีขึ้น เจ้าหน้าที่ก็จะขออายัดตัวเพื่อไปดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นก็ได้แจ้งหาข้อ ลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุม

>> จับแล้ว! สาวแสบบ่นหิว หลอกยายทำกับข้าว แล้วย่องฉกทรัพย์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook