นักท่องเที่ยวแห่เยือน "เมืองบาดาล" เขื่อนป่าสักฯ หลังน้ำลดเหลือ 3%
นักท่องเที่ยวนับพันคน อาศัยวันหยุดยาว 3 วัน แห่เดินลุยน้ำแห่เที่ยวชม "เมืองบาดาล" จมอยู่กลางเขื่อนป่าสักฯ หลังจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงเหลือเพียง 3% เท่านั้น
(29 ก.ค.) บรรยากาศที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังระดับน้ำในเขื่อนลดลง ล่าสุดเหลืออยู่เพียง 3% ทำให้ภายในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้มีสันดอนและโขดหิน เนินดิน โผล่ขึ้นมาพ้นน้ำเป็นจำนวนมาก
และเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนม พรรษาของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่ทราบข่าวต่างพากันเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก มากแบบผิดปกติ เพราะปกติแล้วในช่วงน้ำแล้งของทุกปี จะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวเขื่อนมากนัก
แต่เนื่องจากปีนี้น้ำลดต่ำลงมาก ทำให้ซากสิ่งปลูกสร้างของวัดหนองบัวใหญ่ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ พร้อมด้วยชุมชนบ้านหนองบัว ที่มีมานาน ก่อนการก่อสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งได้จมอยู่ใต้น้ำมานานกว่า 20 ปี ขณะนี้ได้โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำให้เห็นได้อย่างชัดเจน และสามารถเดินลุยน้ำเข้าไปเที่ยวชม และสัมผัสกับโบราณสถานเก่าแก่แห่งนี้ได้อย่างใกล้ชิด
ปัจจุบัน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้ปรับพื้นที่บริเวณทางลง ให้นักท่องเที่ยวสามารถนำรถยนต์ส่วนตัว ลงไปตามถนนเก่าของเมืองบาดาล ซึ่งเป็นแนวถนนลูกรังเดิม บริเวณทางเข้าวัด และชุมชนบ้านหนองบัว จากนั้นนักท่องเที่ยวต้องเดินลุยน้ำต่อ อีกประมาณ 50 เมตร ไปยังซุ้มประตูวัดหนองบัว
โดยจุดนี้นักท่องเที่ยวพากันขนานนามว่าเป็น “ทะเลแหวก” และถือเป็นแลนมาร์คแห่งใหม่บนเขื่อนของพ่อ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามรถเดินเที่ยวชม วัดใต้น้ำ ซึ่งมีพื้นที่พ้นน้ำประมาณ 7 ไร่เศษ และยังเดินต่อไปยังชุมชนบ้านหนองบัว ซึ่งอยู่ติดกับวัดหนองบัว หรือ เมืองบาดาล ซึ่งหลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน
โดยล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่เขื่อน ได้ร่วมกับชาวบ้านในชุมชนหนองบัวได้ทำการบูรณะจัดตั้งองค์พระประธานขนาดใหญ่ ปรางสมาธิ ซึ่งได้รับความเสียหายล้มหน้าคว่ำอยู่ใต้น้ำให้ตั้งตรงแล้ว และอยู่ระหว่างการจัดทำเศียรพระ ที่แตกหักจากการถูกคลื่นลมและกระแสน้ำกัดเซาะขึ้นมาใหม่ โดยคาดว่าจะสามารถมาต่อองค์พระให้สมบูรณ์ได้ในสัปดาห์หน้า