ลูกเมีย "เสี่ยสิงห์แก้ว" ถูกอุ้มเรียกค่าไถ่เครียดหนัก ยันไม่มีเงินมากถึง 5 ล้าน
ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุคนร้ายอุ้มลักพาตัว นายสิงห์แก้ว อายุ 54 ปี ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน อ.เชียงแสน หลังเดินทางข้ามแม่น้ำโขงไปติดต่อธุรกิจที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เมื่อ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และมีกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายได้ใช้วีแชทของนายสิงห์แก้ว ส่งข้อความและคลิปวิดีโอตัวนายเสาร์แก้วถูกยิงที่ขาด้านขวาและปืนจ่อศีรษะส่งมายังโทรศัพท์ของญาติในพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อให้โอนเงินไปไถ่ตัวจำนวน 5 ล้านบาทนั้น
>> ชายแดนตึงเครียด เสี่ยชาวไทยถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ 5 ล้าน หลังข้ามไปฝั่งลาว
ล่าสุด นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน จึงประสาน พ.ต.อ.ณัชธฤต ปิ่นปัก ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน พร้อม นายสันติ อินทนิล ปลัดอำเภอ หน.กลุ่มงานความมั่นคงฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน ร.อ.โกมินทร์ บุญภา ผบ.ร้อย ทพ.3103 ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง นำญาติของนายสิงห์แก้วประกอบด้วย นางศรีวรรณ ภรรยา อายุ 45 ปี น.ส.รสริน อายุ 27 ปี บุตรสาว และนายประภาส อายุ 22 ปี บุตรชาย มาสอบถามข้อมูล จากนั้นได้มีการประสานงานพร้อมกับเดินทางไปยังทางเมืองต้นผึ้งเพื่อขอให้ติดตามหาตัวนายสิงห์แก้วด้วยซึ่งได้รับความร่วมมือจากทางการ สปป.ลาว เป็นอย่างดี โดยมี นายไชยเสถียร เหรียญศักดิ์ รองเจ้าเมืองต้นผึ้ง นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและแลกเปลี่ยนข้อมูล
นายไชยเสถียร ชี้แจงว่า ภายหลังจากที่นายสิงห์แก้ว ออกจากท่าเรือที่ฝั่งคิงส์โรมัน โดยมีนายสะหวาด ชาวลาวเป็นคนขับรถให้ และมีนายจุ๋ม ซึ่งเป็นหุ้นส่วนชาวจีนนั่งไปด้วยเพื่อไปดูโรงงานที่กำลังก่อสร้าง พอรถขับมาถึงเขตบ้านต้นผึ้งก็มีชายฉกรรจ์ซึ่งดักอยู่ข้างทาง ได้ออกมาขวางรถแล้วใช้ปืนบังคับจี้เอาตัวนายสิงห์แก้วไป ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังออกติดตามกลุ่มคนที่ลักตัวนายสิงห์แก้วไป พอจะทราบแหล่งที่คนร้ายนำตัวนายสิงห์แก้วไปกักขังบ้างแล้ว และกำลังวางแผนเพื่อหาทางช่วยเหลืออยู่
จากกข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าภายหลังนายสิงห์แก้วได้ทำธุรกิจที่เมืองต้นผึ้งเสร็จแล้ว ได้รับการติดต่อจากชาย 2 คนชื่อว่านายเหว่ยและนายจุ๋มให้ไปพบเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว คนหนึ่งที่เมืองห้วยทรายซึ่งเป็นเมืองเอกของแขวงบ่อแก้วตั้งอยู่ตรงกันข้าม อ.เชียงของ จ.เชียงราย ห่างจากเมืองต้นผึ้งประมาณ 58 กิโลเมตร ทำให้นายสิงห์แก้วเดินทางไปแต่ขณะขับรถผ่านหมู่บ้านดอนสวรรค์ เมืองต้นผึ้ง ได้ถูกกลุ่มคนลักพาตัวไปหายไปกระทั่งมีการส่งข้อความและคลิปไปเรียกค่าไถ่กับญาติดังกล่าว ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่ามีจำนวนทั้งหมด 5 คน ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเอาไว้แล้วจำนวน 2 คนโดยหนึ่งในนั้นคือคนขับรถให้กับนายสิงห์แก้วโดยอยู่ระหว่างสอบปากคำว่าเกี่ยวข้องกับการอุ้มเรียกค่าไถ่ดังกล่าวหรือไม่อยู่ ทั้งนี้หลังจากนั้นคณะจากฝ่ายไทยได้เดินทางกลับเพื่อมารอฟังข่าวจากเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ต่อไป
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลจากพยานต่างๆ สันนิษฐานว่าสาเหตุของการอุ้มลักพาตัวอาจจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจจำนวน 3 ธุรกิจ ได้แก่การซื้อขายน้ำตาลที่ต้องมีการจัดหาไปให้กับผู้ซื้อแต่ที่ผ่านมาเกิดปัญหาทางธุรกิจวงเงินกว่า 13 ล้านบาท จนมีการฟ้องร้องกันอยู่ และธุรกิจการซื้อขายต้นไม้ใหญ่ ไม้ดอกไม้ประดับมูลค่าประมาณ 300,000 บาท รวมถึงธุรกิจสร้างโรงฆ่าสัตว์ใน สปป.ลาว ที่มีการลงนามร่วมก่อสร้างกันเมื่อเดือน มี.ค.2562 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามนางศรีวรรณ ภรรยาและนายประภาส บุตรขายของนายสิงห์แก้ว กล่าวว่าวันนี้เดินทางไป สปป.ลาว เพื่อขอให้ทางการลาวช่วยติดตามหาตัวของสิงห์คำ เพราะห่วงอันตราย เนื่องจากทางครอบครัวไม่ได้มีเงินอะไรที่จะให้ค่าไถ่ที่สูง 5 ล้านบาท ซึ่งปกตินายสิงห์คำจะเดินทางไปทำธุรกิจในฝั่ง สปป.ลาว อยู่บ่อยครั้งเพราะต้องทำธุรกิจในการส่งออกสุกรและโคกระบือกับนักธุรกิจประเทศเพื่อนบ้าน ไม่เคยมีปัญหา จนกระทั่งครั้งนี้มาถูกจับและถูกถ่ายคลิปส่งมาเรียกเงิน ครอบครัวทราบข่าวพากันกันแปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร เคยมีปัญหาด้านธุรกิจบ้างแต่ก็เรื่องเล็กและมูลค่าไม่ถึง 5 ล้านบาท
ส่วนกรณีที่ปัญหาเรื่องการค้าน้ำตาลที่มีมูลค่ากว่า 13 ล้านบาทนั้นเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากทางนายสิงห์คำไม่ได้ทำธุรกิจนี้มานานนับ 10 ปีแล้ว และการเดินทางไป สปป.ลาวครั้งนี้ก็ไปติดต่อธุรกิจเรื่องโรงฆ่าสัตว์ ที่เป็นธุรกิจใหม่ที่กำลังจะลงทุน เพราะการค้าขายโคกระบือหรือสุกรในปัจจุบันไม่ค่อยดีนักเพราะการนำเข้าในจีนค่อนข้างยาก ออร์เดอร์เลยมีน้อยบางเดือนแทบไม่มี ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของการจับตัวนั้นไม่ทราบ มีเพียงคนร้ายใช้วีแชทของนายสิงห์แก้วมาเรียกเอาเงินเท่านั้น ไม่ได้บอกเหตุผลด้านอื่นเลย มีการติดต่อเมื่อเย็นวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมาเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย ทางญาติก็ยังไม่ได้โอนเงินแต่อย่างใดเพราะไม่มีเงินมากขนาดนั้น ซึ่งก็อยากให้ทางการลาวช่วยนายสิงห์แก้วให้ได้ และขอให้ทางคนร้ายปล่อยนายสิงห์แก้วมาและหาทางออกร่วมกันต่อไป