ลุงป่วยโรคเนื้อเน่ากัดขา เปิดใจบอกเริ่มต้นแค่เกา ลุกลามเป็นแผลเหวอะ

เปิดใจคุณลุงป่วยโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน ยอมรับตกใจ ทั้งที่เริ่มต้นจากอาการคันและเกา ลุกลามเป็นแผลเหวอะ เคราะห์ยังดีที่ไม่ได้ถูกตัดขาทิ้ง

ความคืบหน้าภายหลังจากที่พบชายชาวจังหวัดลำปาง ป่วยเป็นโรคเนื้อเน่า หรือ แบคทีเรียกินเนื้อคน บริเวณเท้าข้างซ้ายและเกิดอาการแผลลุกลาม หลังเข้าไปตักมูลวัวที่หลังบ้าน ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลงาวจังหวัดลำปาง เพื่อพบชายคนดังกล่าว ซึ่งยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยภายใน

จากการสอบถาม คุณลุงอ่ำ (นามสมมติ) ได้เปิดเผยว่า หลังจากตักมูลวัวที่คอกเสร็จแล้ว ช่วงแรกๆ ที่กลับบ้านมาก็เริ่มมีอาการคันที่ข้อเท้าซ้าย และเกิดมีตุ่มคันขึ้นเพียง 2 ตุ่มเท่านั้น เป็นตุ่มแดงๆ คันค้างอยู่ประมาณ 1 วัน หลังจากนั้นก็เกาไปเกามาทำให้เกิดเป็นแผลและมีหนอง

จากนั้นจึงไปรักษากับหมอ แต่อาการไม่ดีขึ้น กลายเป็นแผลยาว กว่า 20 เซนติเมตร หมอจึงทำการผ่าตัดเพื่อเปิดแผลให้ ในการผ่าตัดได้นำเอาเนื้อตาย หรือแผลที่เน่าออก แล้วเปิดแผลให้กว้างเพื่อให้หมอทำความสะอาดแผล ในกรณีของตนถือว่ายังเคราะห์ดีที่มาหาหมอและรักษาได้ทัน ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องตัดขาทิ้งหรือเสียชีวิตได้

ขณะที่ นายแพทย์วรินทร์เทพ เชื้อสำราญ นายแพทย์เชี่ยวชาญ ด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการของผู้ป่วยถือว่าดีขึ้นมากแล้ว หลังเคยได้เข้ามาพักรักษาตัวและผ่าตัดที่โรงพยาบาลลำปาง ล่าสุดก็อนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลงาว ขณะนี้ทางทีมแพทย์และทีมพยาบาลโรงพยาบาลงาวและญาติของผู้ป่วยได้ดูแลอย่างใกล้ชิด

สำหรับโรคเนื้อเน่าไม่ใช่โรคใหม่หรือโรคระเบิด ในจังหวัดลำปางในแต่ละปีพื้นที่จะพบผู้ป่วยเฉลี่ยประมาณ 100-200 คนต่อปี โดยส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกรและอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยอาการแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป บางคนอาการไม่รุนแรง บางคนก็อาการหนัก

จึงขอเตือนประชาชนในกลุ่มเสี่ยงและผู้ที่รับจ้างทำงานทั่วไป ละเกษตรกรจะต้องรักษาความสะอาด โดยเฉพาะบริเวณเท้าและบริเวณมือ หากไปสัมผัสกับน้ำสกปรก กลางทุ่งนาหรือน้ำท่วมขัง โดยหลังเลิกงานแล้วให้ทำความสะอาดให้เรียบร้อย และ หากเหยียบย่ำน้ำท่วมขังในพื้นที่ ควรจะสวมรองเท้าบูทเพื่อป้องกันการติดเชื้อเสมอ

>> ลุกลามถึงลำปาง ลุงป่วยโรคเนื้อเน่าคนแรกของจังหวัด หลังไปตักขี้วัว