เจอแล้ว "เสี่ยสิงห์แก้ว" นักธุรกิจถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ 5 ล้าน ล่าสุดรักษาตัวอยู่ฝั่งลาว
รายงานข่าวจากชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แจ้งว่าจากกรณี นายสิงห์แก้ว อายุ 54 ปี ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน ถูกคนร้ายลักพาตัวเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมาหลังจากถูกคนโทรศัพท์ติดต่อให้ข้ามฟากไปติดต่อธุรกิจที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน แล้วต่อมาถูกถ่ายคลิปจี้ปืนที่ศีรษะและเรียกค่าไถ่กับญาติเป็นเงิน 5 ล้านบาทนั้น
>> ชายแดนตึงเครียด เสี่ยชาวไทยถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ 5 ล้าน หลังข้ามไปฝั่งลาว
ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สปป.ลาว ได้ติดตามหาตัวนายสิงห์แก้วจนพบตัวแล้ว แต่รายงานยังไม่ระบุสถานที่พบตัวชัดเจน ระหว่างเจอตัวที่หลังโครงการคิงส์โรมัน เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำที่เป็นแหล่งลงทุนของนักธุรกิจจีนในเมืองต้นผึ้ง ตรงข้ามจุดผ่านแดนสามเหลี่ยมทองคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจุดที่นายสิงห์แก้วข้ามแดนไป ซึ่งขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ห่างจากเมืองต้นผึ้งที่ถูกลักพาตัวไปประมาณ 58 กิโลเมตร
โดยมีรายงานว่าในเวลา 18.00 น.วันเดียวกันนี้ ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.ตม.มีกำหนดจะเดินทางไปยัง จ.เชียงราย โดยคาดว่าจะไปรับตัวนายสิงห์แก้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าหากมีการส่งตัวกลับมายังประเทศไทยจะใช้ช่องทางใด เพราะปัจจุบันมีจุดผ่านแดนถาวรที่เชื่อมระหว่างไทย-สปป.ลาว ด้าน จ.เชียงราย จำนวน 3 แห่ง คือจุดสามแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จุดผ่านแดนถาวร อ.เชียงแสน ตั้งอยู่หน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน และจุดผ่านแดนถาวร อ.เชียงของ ตรงสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ยังคงดูแลนายสิงห์แก้วอย่างใกล้ชิด และอาจต้องมีการสอบสวนอย่างละเอีอดก่อนถึงจะส่งตัวให้ฝ่ายไทย ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันเวลาหรือสถานที่ที่ชัดเจนเช่นกัน
นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย กล่าวว่าที่ผ่านมาทางฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้มีการประสานงานกับทางการ สปป.ลาว โดยเฉพาะที่เมืองต้นผึ้งอย่างต่อเนื่องซึ่งด้วยความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทำให้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี กระทั่งล่าสุดได้ทราบข้อมูลต่างๆ ค่อนข้างมากทำให้เชื่อว่าภายในเย็นวันที่ 30 ก.ค.นี้ จะได้รับข่าวดีอย่างแน่นอนแต่ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อนและรอฟังข่าวกันอีกระยะ โดยการส่งตัวคนไทยที่ประสบเหตุกลับมายังประเทศไทย หากจะดำเนินการก็ต้องส่งกลับมายังจุดที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างแน่นอน ส่วนประเด็นการอุ้มตัวนั้นเป็นเรื่องการทำธุรกิจการค้าชายแดนแต่จะเป็นอย่างไรนั้นต้องรอให้ได้ตัวนายสิงห์แก้วกลับมาเสียก่อน ตอนนี้ยืนยันได้ว่านายสิงห์แก้วนั้นยังคงปลอดภัยดี
ด้านนายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่าปกติการทำการค้าชายแดนจะเป็นความร่วมมือระหว่างหอการค้าของแต่ละประเทศที่แลกเปลี่ยนข้อมูลและมีความสัมพันธุ์ทางการค้าระหว่างกันที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาถึงขั้นที่จะอุ้มหรือลักพาตัวเรียกค่าไถ่ อาจจะมีติดค้างหรือจ่ายค่างวดช้าบ้างแต่ก็สามารถเคลียร์กันได้ ส่วนกรณีของนายสิงห์แก้ว นั้นไม่ได้เป็นสมาชิกของทางหอการค้า ซึ่งเป็นการทำธุรกิจกันเองระหว่างผู้ประกอบการซึ่งทางหอการค้าก็ไม่ทราบเรื่องราว หรือเข้าไปมีส่วนร่วม ซึ่งปกติความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่าง 4 ประเทศลุ่มน้ำโขงคือไทย ลาว จีน และเมียนมา ทำการค้ามานานไม่เคยขัดแย้งใดๆ จึงอยากฝากนักธุรกิจที่จะทำการค้าหรือการลงทุนตามชายแดนก็ควรสอบถามข้อมูลหรือประสานผ่านทางหอการค้าก็จะเป็นการดีเพราะเป็นคู่ค้าระหว่างกันอยู่กับหอการค้าของแต่ละประเทศเพื่อลดการเกิดปัญหาที่จะตามมา
>> ลูกเมีย "เสี่ยสิงห์แก้ว" ถูกอุ้มเรียกค่าไถ่เครียดหนัก ยันไม่มีเงินมากถึง 5 ล้าน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าหลังเกิดเหตุนายสิงห์แก้วถูกลักพาตัวและเรียกค่าไถ่แล้วทางการไทยประสานไปยังตำรวจเมืองต้นผึ้ง ปรากฎว่าทางการ สปป.ลาว ได้ควบคุมตัวคนขับชื่อว่านายสะหวาดเป็นคนสัญชาติ สปป.ลาว และชาวจีนได้อีก 1 คนรวมทั้งหมด 2 คน จากนั้นได้สอบปากคำขยายเพื่อสืบหาแหล่งที่คนร้ายได้นำตัวนายสิงห์แก้วไปคุมขังแล้วใช้ถ่ายคลิปเพื่อส่งมาเรียกค่าไถ่กับญาติดังกล่าวจนพบ จากนั้นได้เข้าช่วยเหลือแล้วนำตัวไปยังโรงพยาบาลห้วยทรายเพื่อรักษาตัวจากการถูกทำร้ายดังกล่าวซึ่งยังไม่มีรายงานว่าเป็นอย่างไร กระนั้นหากว่านายสิงห์แก้วปลอดภัยดีทางเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ก็จะมีการสอบปากคำก่อนจะส่งตัวกลับประเทศไทยต่อไป ทั้งนี้ก่อนหน้านี้วันเดียวกันทางเจ้าหน้าที่เมืองต้นผึ้งก็ขอให้ญาติของนายสิงห์แก้วเดินทางข้ามฟากไปดูตัวทั้ง 2 คนแล้วทำให้เจ้าหน้าที่ไทยได้อำนวยความสะดวกในการพานั่งเรือข้ามไปยังเมืองต้นผึ้งแล้ว