หนุ่มซิ่งจักรยานยนต์เฉี่ยวท้ายกระบะล้ม รถพ่วงตามหลังเบรกไม่ทันชนดับคาที่

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2562 พ.ต.ท.ประจวบ เขตสันเทียะ สารวัตรเวร สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อทับหัวคนขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต ที่บริเวณถนนนิคมอุตสาหกรรมบางปู ปากซอย 2 บี ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิมูลนิธิกู้ภัยบางปู 811 และมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิ๊ก  สีดำขาว ทะเบียน 1 กอ 5713 กรุงเทพมหานคร ล้มคว่ำอยู่กลางถนน ใกล้กันได้พบร่างของนายประสิทธิ์ อายุ 54 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา นอนจมกองเลือดอยู่กลางถนนในสภาพสวมหมวกนิรภัยอยู่ที่ศีรษะ ถูกทับจนหมวกนิรภัยแตก

ห่างไปประมาณ 10 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ นิสสัน ยูดี สีขาว ทะเบียนหัวลาก 62-9405 กรุงเทพมหานคร ห่างลากทะเบียน 77-7599 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมถนน ที่บริเวณล้อหลังของหางพ่วง พบคราบเลือดและเศษมันสมองติดอยู่ที่ล้อจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ห่างไปประมาณ 20 เมตรได้พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็ก สีขาว บษ-7983 เพชรบูรณ์ จอดอยู่ที่บริเวณกันชนข้างซ้ายมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนจนสีถลอก

จากการสอบถามนายบุญรอง อายุ 42 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถมาตามถนนนิคมอุตสาหกรรมบางปู เพื่อมุ่งหน้าจะไปออกถนนสุขุมวิท ขณะขับมาใกล้ถึงที่เกิดเหตุ ได้พบเห็นรถยนต์เก๋งและรถยนต์กระบะ จอดรถรอที่เลี้ยวเข้าซอย 2 บี นิคมอุตสาหกรรมบางปูอยู่ที่บริเวณเลนขวา โดยที่รถยนต์กระบะจอดอยู่คันสุดท้าย ขณะที่ตนขับมาทางด้านเลนซ้ายเพื่อมุ่งหน้าออกถนนสุขุมวิท โดยมีรถจักรยานยนต์ขี่ประกบมาทางเลนขวาของรถตน

มาถึงที่เกิดเหตุขณะที่ตนกำลังขับรถแซงรถยนต์เก๋งและกระบะทั้งสามคันที่จอดรถเลี้ยวขวาอยู่ ผู้ตายที่ขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็วพยายามขี่รถจักรยานยนต์เบี่ยงแซงออกมาทางด้านซ้ายแต่หักไม่พ้นเกิดเฉี่ยวชนกับกันชนท้ายของรถยนต์กระบะ จนทำให้เสียหลักล้มร่างของผู้ตายกระเด็นเข้าไปใต้รถตนทางด้านหางพ่วงและถูกล้อหลังทับเข้าที่ศีรษะจนกะโหลกแตกมันสมองกระจายเกลื่อนพื้นถนนทั้งๆ ตนพยายามเบรกแล้วแต่เอาไม่อยู่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงและรถยนต์กระบะมาทำการสอบถามข้อเท็จจริงที่โรงพัก และจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ละแวกใกล้เคียงเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป