สยดสยอง กระบะลากศพติดใต้ท้องรถเข้าตลาด ร่างถลอกยับเยิน-ตับไตไส้พุงไม่เหลือ

(31 ก.ค.62) เวลา04.00 น. ร.ต.ท.แทน นุ่มเจริญ รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้ง มีรถยนต์กระบะได้ลากศพ เข้าไปในตลาดเมืองทอง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จากนั้นพร้อมด้วย ร.ต.อ.พงศ์พล ผิวผ่อน รองสวป. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ191 แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และมูลนิธิอุดรส่งเสริมธรรม

ในที่เกิดเหตุอยู่บริเวณโซน จำหน่ายผลไม้เร่ ตุ๊กบวกโก้ เมืองทอง จำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาล พบศพชายไม่มีเสื้อ แต่ท่อนล่างมีเศษผ้าลักษณะเหมือนกางเกงพันติดอยู่ที่ขาด้านซ้าย ใกล้กับตะกร้าลังเปล่าสีน้ำฟ้า ที่วางเรียงกันอยู่ โดยบรรดาพ่อค้าและแม่ค้า ที่จำหน่ายผักผลไม้ และคนงาน ที่อยู่ในตลาดพากันตกใจแล้วพากันมามุงกันจำนวนมาก

ร.ต.ท.แทน นุ่มเจริญ ได้เข้าไปสอบถามเจ้าของร้าน บอกว่า ได้มีรถยนต์กระบะ สีบรอนซ์เงิน ใส่คอกเตี้ย ที่ท้ายกระบะ หมายเลขทะเบียน 8001 อุดรธานี ขับเข้ามาจอดอยู่บริเวณหน้าร้าน โดยมี น.ส.ลลิตวดี อายุ 19 ปี ซึ่งทำงานอยู่ที่ร้าน ได้มาบอกว่าเห็นลักษณะเหมือนขาคน ที่อยู่ใต้ท้องรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ขับลากเข้ามา ก่อนมาจอดหน้าร้านอยู่ประมาณ 20 นาที แล้วก็ขับออกไป

จากนั้นได้ทำการเปิดกล้องวงจรปิดดู เห็นชายหญิงอายุ 35-40 ปี ลงมาจากรถยนต์กระบะ แล้วก้มส่องดูใต้ท้องรถของตนเอง แล้วทำการลากศพออกมาจากใต้ท้องรถ ในช่วงตอนนั้นคนในตลาดกำลังเอาผลไม้และผัก ลงจากรถที่ขนมาส่งให้กับร้านค้าในตลาด แล้ว น.ส.ลลิตวดี เห็นรถยนต์กระบะ ขับเข้ามาผิดสังเกต จึงได้มาบอกแล้วพากันเข้าไปดูใกล้พบว่า เป็นศพผู้ชายตามร่างกายมีรอยถลอก มีแผลถูกรถลากมา

ร.ต.ท.แทน นุ่มเจริญ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบดูจากภาพกล้องวงจรปิด รถยนต์กระบะ ขับเข้ามาในตลาด ซึ่งในตอนแรกอาจจะไม่รู้ว่าใต้ท้องรถมีอะไรติดอยู่หรือลากอะไรมา จึงได้ขับเข้าไปจอดบริเวณหน้าร้านจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล แล้วลงมาส่องใต้ท้องรถ พอรู้ว่ามีศพเป็นผู้ชาย จึงได้ลากออกมา แล้วกลัวความผิด จึงได้ขับรถยนต์กระบะออกจากตลาดไป โดยรถยนต์กระบะคันนี้น่าจะเคยเข้ามาส่งผักและผลไม้ให้กับร้านค้าในตลาดแห่งนี้ ซึ่งจะได้ตรวจสอบทะเบียนรถ ยี่ห้อ รุ่นและสีของรถ ว่าใครเป็นผู้ครอบครองรถคันนี้ จะได้เรียกตัวมาทำการสอบปากคำถึงสาเหตุว่าไปชนผู้ตาย หรือมีรถคันอื่นไปชนก่อน แล้วรถของตนเองไปเกี่ยวแล้วศพมาจากที่ไหน

แพทย์เวร ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ สภาพศพมีแผลฉกรรจ์หลายแห่ง อวัยวะข้างในร่างกายไม่มีเหลืออะไรเลย มีเพียงหนังและกระดูก แขน ขา และศีรษะ เกือบจะหลุดออกไปจากร่างกาย โดยให้มูลนิธิฯ นำศพไปไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรฯ เพื่อทำการชันสูตรอีกครั้ง เพื่อจะให้ญาติของผู้ตายมาติดต่อว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน เพื่อดำเนินการต่อไป