ย้ายแล้ว ศาลเจ้าพ่อเขาโค้ง-เจ้าพ่อแขก แดนประหารยิงเป้า ยกหลบพ้นแนวก่อสร้างถนน
หลังเจ้าหน้าที่สำนักงานก่อสร้างทางที่ 2 กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม กำลังก่อสร้างปรับปรุง ขยายช่องจราจร เป็น 6 – 11 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 3 อ.สัตหีบ – อ.บ้านฉาง ระยะทางประมาณ 10 กม. ซึ่งบริเวณดังกล่าว จะต้องตัดผ่าน ศาลเจ้าพ่อเขาโค้ง หรือศาลเจ้าพ่อเขาแขก หรือ แดนประหาร ในอดีตเมื่อ 48 ปีก่อน ที่เคยใช้เป็นแดนประหารยิงเป้า นายสมศักดิ์ หรือแขก ขวัญแก้ว อายุ 28 ปี ฆาตกรฆ่าชิงทรัพย์นายทหารอากาศชาวอเมริกัน
>> ศาลเจ้าพ่อแขก เปิดตำนานอาถรรพ์แดนประหาร กรมทางหลวงต้องทำพิธีก่อนรื้อ
โดยชาวบ้านบริเวณดังกล่าวและผู้ที่รู้ ต่างเชื่อถึงดวงวิญญาณที่ออกมาปรากฏตัวให้ผู้คนได้พบเห็น ชาวบ้านในสมัยก่อนจึงได้สร้างศาลเชิญดวงวิญญาณไว้ โดยบริเวณดังกล่าวเจ้าหน้าที่ก่อสร้างถนน ได้นำรถไถ และรถแม็คโคร เข้าปรับขยายพื้นผิวถนน แต่ได้เว้นบริเวณศาลไว้ เพื่อรอทำพิธีย้ายศาลเข้าไปข้างในให้ถูกต้อง ซึ่งผู้ขับขี่รถสัญจรผ่านไปมา และมีความเชื่อ ต่างก็ยังคงบีบแตรแสดงความเคารพอยู่ตลอด
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณ เขาแขกสัตหีบ ริมถนนสุขุมวิท ขาเข้าสัตหีบ กม.ที่ 183 หมู่ที่ 6 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบว่าศาลเจ้าพ่อเขาโค้ง หรือศาลเจ้าพ่อเขาแขก หรือ แดนประหาร ในอดีตเมื่อ 48 ปีก่อนนั้นได้ถูกย้ายขึ้นไปบนเชิงเขา พ้นแนวก่อสร้างแล้ว ตามความเชื่อของชาวบ้านให้คงมีศาลไว้เหมือนเดิมบริเวณดังกล่าว ในเรื่องวิญญาณ นายสมศักดิ์ หรือแขก ขวัญแก้ว อายุ 28 ปี หรือ เจ้าพ่อเขาโค้ง ที่ได้ก่อคดีใช้อาวุธปืนฆ่าชิงทรัพย์นายทหารอากาศชาวอเมริกัน ประจำสนามบินอู่ตะเภา กระทั่งถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า บริเวณเชิงเขาตะแบก ด้วยเพชฌฆาตสารวัตรทหารเรือ 5 นาย ระดมยิงกระสุนเข้าร่างรวม 25 นัด สิ้นใจทันทีในเวลา 14.18 น. นับเป็นการประหารยิงเป้าครั้งหนึ่งของไทย ที่กระทำท่ามกลางสายตาประชาชนจำนวนมาก หลังจากนั้นชาวบ้านได้ร่วมกันสร้างศาลเชิญดวงวิญญาณไว้ ดังกล่าว
สอบถามผู้รับเหมาก่อสร้างบริเวณนั้น ทราบว่าศาลดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่โครงการก่อสร้างได้ทำพิธีจุดธูปบอกกว่าวในการขอย้ายศาล และอัญเชิญขึ้นไปข้างบนห่างจากจุดเดิมประมาณ 50 เมตร โดยไม่ทำการรื้อทึ้งและไปยุ่งเกี่ยวกับตัวศาลเลยแค่ทำการยกขยับเข้าไปข้างในให้พ้นเส้นทางการขยายถนน ที่กำลังก่อสร้าง โดยได้ทำการย้ายมาได้ซักพักแล้ว ซึ่งทางโครงการไม่อยากทำให้ชาวบ้านและในชุมชนในระแวกดังกล่าวไม่สบายใจ เกี่ยวกับการขยายถนนผ่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านนับถือ จึงได้ทำการขยับศาลขึ้นไปบนเชิงเขาแทนและอยู่ในบริเวณใกล้เคียงจุดเดิมมากที่สุด