ญี่ปุ่นลงโทษประหาร "แขวนคอ" ครั้งแรกในปี 2019 กับ 2 นักโทษคดีอุกอาจ

ทางญี่ปุ่นสั่งโทษประหารชีวิต 2 นักโทษคดีอุกฉกรรจ์ ด้วยวิธีการแขวนคอเป็นครั้งแรกของปี 2019 หลังพิจารณาคดีอย่างไตร่ตรอง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์เช่นเคย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการญี่ปุ่นได้ทำการตัดสินโทษประหารชีวิตนักโทษคดีฆาตกรรม 2 รายในวันนี้ (2 ส.ค.) กลายเป็นนักโทษประหารด้วยวิธีการแขวนคอ 2 คนแรกของปี 2019 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่มองว่าเป็นการลงโทษที่โหดเหี้ยมทารุณ

ทากะชิ ยามาชิตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของญี่ปุ่น ได้ออกมาเปิดเผยถึงการลงโทษประหารชีวิตด้วยวิธีการแขวนคอครั้งแรกในรอบปี 2019 หลังจากที่ผ่านการพิจารณาคดีและอ้างอิงจากประมวลกฎหมายอย่างถี่ถ้วนแล้ว เห็นสมควรว่านักโทษทั้ง 2 รายที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ในครั้งนี้เหมาะกับการได้รับโทษดังกล่าว

สำหรับนักโทษทั้ง 2 ราย คือ นายโชจิ วัย 64 ปี เป็นผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์เหยื่อสาว 2 รายในกรุงโตเกียว เมื่อปี 2001 ขณะที่ นายซูซุกิ อายุ 50 ปี มีความผิดฐานฆาตกรรมเหยื่อสาว 3 ราย ระหว่างเดินเท้าบนถนน พร้อมกับชิงทรัพย์ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2004 ทางภาคใต้ของญี่ปุ่น

ทั้งนี้ เมื่อปี 2018 ทางการญี่ปุ่นได้ตัดสินโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอไปทั้งสิ้น 15 ราย ถือว่าเป็นการสั่งดำเนินการลงโทษที่ทำสถิติสูงเทียบเท่ากับปี 2008 เป็นตัวเลขที่สุดนับตั้งแต่อนุมัติให้ใช้บทลงโทษด้วยวิธีแขวนคอมาตั้งแต่ปี 1995 ที่มีจุดเริ่มต้นจากเหตุการณ์โจมตีรถไฟใต้ดินกรุงโตเกียวด้วยซาริน และมีผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวสำเร็จโทษด้วยการแขวนคอไป 13 ราย

อย่างไรก็ตาม บทลงโทษการประหารชีวิตด้วยวิธีการแขวนคอยังคงถูกกลุ่มคนทั่วไปและกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นว่าเป็นวิธีสำเร็จโทษที่ป่าเถื่อนและทารุณเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อถูกนำมาใช้ในประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นนี้