ผัวเมียขับกระบะลากศพข้ามจังหวัด ดอดให้ปากคำตำรวจ ยืนยันไม่มีเจตนาหนี

ผัวเมียขับกระบะลากศพข้ามจังหวัด ดอดให้ปากคำตำรวจ ยืนยันไม่มีเจตนาหนี

ผัวเมียขับกระบะลากศพข้ามจังหวัด ดอดให้ปากคำตำรวจ ยืนยันไม่มีเจตนาหนี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สามีภรรยาขับรถกระบะลากศพคุณตาวัย 85 จากหนองบัวลำภู ไปกลางตลาดเมืองอุดรธานี ได้เข้าให้ปากคำตำรวจแล้ว ยอมรับตกใจ แต่ต้องเร่ขายผลไม้ให้หมดก่อน ยืนยันไม่มีเจตนาหลบหนี

จากกรณีเหตุรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แคป สีบรอนซ์เงิน ติดตั้งคอกบนกระบะ ได้ขับรถชนและลากศพ นายทอง อายุ 85 ปี ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ และกล้ามเนื้ออ่อนแรง เข้าไปภายในตลาดเมืองทองเจริญศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี ก่อนจะขับรถออกไป และกองศพทิ้งไว้ภายในตลาด

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนสอบสวนและได้ภาพกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านของผู้เสียชีวิต พบว่ากำลังคลานหรือถัดตัวไปยังกลางถนนตรงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลา 02.30 น. ของวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมีผู้หญิงคนขับรถกระบะคู่กรณีอีกคัน ได้แสดงความรับผิดชอบว่าเป็นคนขับชนผู้เสียชีวิต เนื่องจากพบป้ายทะเบียนหลุดอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

>> สยดสยอง กระบะลากศพติดใต้ท้องรถเข้าตลาด ร่างถลอกยับเยิน-ตับไตไส้พุงไม่เหลือ

ความคืบหน้าล่าสุด ในวันนี้ (3 ส.ค.) ที่ สภ.เมืองอุดรธานี นายปรีชา อายุ 46 ปี และ นางบุตรทา อายุ 48 ปี สามีภรรยาได้นำรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ที่ก่อเหตุลากศพผู้ตายเข้ามาในตลาด เข้าพบและให้ปากคำต่อ ร.ต.ท.แทน นุ่มเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและสำนวน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายปรีชาแต่อย่างใด

นายปรีชา กับ นางบุตรทา เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนได้ขับรถกันไปรับซื้อแก้วมังกร 1 ตัน ในราคา 5 พันบาท มาจากชาวสวนที่ อ.ภูเรือ เพื่อมาเปิดกระบะรถขายภายในตลาดเมืองทองฯ ขณะขับลงมาจากเทือกเขาภูพานน้อย มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี โดยขับมาด้วยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

news16-1

แต่เนื่องจากมีฝนตกและบรรทุกผลไม้มาหนัก เมื่อผ่านบริเวณหน้าบ้านของผู้เสียชีวิต รู้สึกเหมือนกับล้อรถเหยียบโดนอะไรบางอย่าง ตอนแรกคิดว่าเหยียบซากสุนัขที่ตายอยู่กลางถนน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็ขับรถต่อมาจนถึงตลาดเมืองทองฯ แต่เนื่องจากไม่มีที่จอดรถขายผลไม้ จึงได้จอดรถให้ภรรยาลงก่อน ส่วนตัวเองได้ขับวนไปหาที่จอด

เมื่อภรรยาเดินลงจากรถไปแล้ว ได้ชี้บอกตนเหยียบสุนัขติดใต้ท้องรถมาด้วย เมื่อตนลงมาดูทีแรกก็คิดว่าเป็นสุนัขตามที่ภรรยาบอก แต่เมื่อก้มลงดูชัดๆ กลับพบเป็นมือและเท้าคนโผล่ออกมา ตนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ถึงกับทำอะไรไม่ถูก คิดว่าโดนผีหลอกเข้าแล้ว จึงตั้งสติขึ้นไปขับรถ พยายามถอยรถและเดินหน้าหลายครั้ง เพื่อให้ศพหลุดออกมา

จากนั้นได้พากันขับรถออกจากตลาดไป โดยพวกตนได้ขับรถกลับไปเร่ขายแก้วมังกรตามตลาดนัดในพื้นที่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู เป็นเวลา 2 วัน หลังจากนั้นแก้วมังกรก็ขายหมดลง ในขณะที่ขายของอยู่ ตนก็นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสัง ก็ได้รับคำแนะนำให้ตนเดินทางไปที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกตนไม่ได้มีเจตนาหลบหนีแต่อย่างใด เพราะต้องหาขายผลไม้ให้หมดก่อน เพื่อเก็บไว้ลงทุนครั้งต่อไป

ในวันนี้พวกตนได้มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รู้สึกสบายใจขึ้นมาก หลังทราบข่าวจากสื่อต่างๆ ที่มีการต่อว่าพวกตนต่างๆ นานา และหลังจากนี้พวกตนจะเดินทางไปกราบขอขมาศพผู้เสียชีวิตที่บ้าน ในสิ่งที่พวกตนไม่มีเจตนา เพื่อไม่ให้มีเวรกรรมต่อกัน แล้วจะเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจกับเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไปด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook