สาวยัวะชักปืนรัวยิงสาวประเภทสองโคม่า แก๊งเพื่อนตามไล่จับ-รุมตบอ่วม
เกิดเหตุระทึกขวัญกลางสถานบันเทิง หญิงสาวทะเลาะกับสาวประเภทสอง ก่อนชักปืนยิง 4 นัดรวด แก๊งเพื่อนเห็นวิ่งไล่จับ รุมตบอ่วม-หิ้วตัวส่งตำรวจ เจ้าตัวสารภาพ-คู่กรณีอาการยังโคม่า
(4 ส.ค.) เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในรสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ได้จับภาพนาทีเหตุทะเลาะวิวาทกันระหว่างหญิงสาวกับสาวประเภทสอง ก่อนที่ฝ่ายหญิงสาวจะชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ 4 นัด ทำให้สาวประเภทสองได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุจึงถูกกลุ่มเพื่อนของสาวประเภทสองไล่จับกุมตัวและทำร้าย ถูกนำตัวส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสภาพสะบัดสะบอม
หลังได้รับแจ้งเหตุ ร.ต.อ.อนุวัฒน์ รัตนจีนะ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปักธงชัย ได้เดินทางตรวจสอบ บริเวณหน้าสถานบันเทิง พบคราบเลือดกระจายเต็มพื้น และพบปลอกกระสุนปืนขนาด .22 ตกอยู่ที่พื้น 4 นัด พร้อมกับอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ขนาด .22 ตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกยิงเข้าบริเวณหน้าท้องและลำตัว รวม 4 นัด ทราบชื่อคือ นายทวีเกียรติ อายุ 29 ปี เป็นสาวประเภทสอง เพื่อนได้นำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ยังได้พบ นางสาวชนิตรา อายุ 25 ปี หญิงสาวคู่กรณีที่เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่ นายทวีเกียรติ โดยอยู่ในสภาพใบหน้าปูดบวมและสะบักสะบอม เนื่องจากถูกกลุ่มเพื่อนของนายทวีเกียรติ ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย วิ่งรุมจับตัวเอาไว้ก่อนที่จะหลบหนีไป และนำตัวส่งให้ตำรวจนำไปสอบสวนที่ สภ.ปักธงชัย
จากการสอบสวนเบื้องต้น นางสาวชนิตรา ได้รับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้อาวุธปืนพกสั้นก่อเหตุยิงใส่สาวประเภทสองจริงตามหลักฐาน เนื่องจากก่อนเกิดเหตุได้มานั่งดื่มกินที่ร้านอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง ก่อนจะเกิดการเขม่นกันกับนายทวีเกียรติที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ กัน ทำให้มีปากเสียงกันรุนแรง
หลังจากนั้นจึงได้ออกมาเคลียร์กันที่ด้านนอกร้าน ประกอบกับตนถูกท้าทายต่างๆ นานา จึงเกิดบันดาลโทสะ ชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมาด้วย ยิงใส่คู่กรณีไป 4 นัด กระทั่งได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายทวีเกียรติ ผู้บาดเจ็บ ยังคงพักรักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน หลังถูกย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ขณะนี้อาการสาหัสยังไม่พ้นขีดอันตราย และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด