เล็งปรับค่าชมสถานที่ท่องเที่ยว "ต่างชาติ-คนไทย" จ่ายราคาเดียวกัน
กระทรวงท่องเที่ยว ผุดแนวคิด ลดค่าตั๋วชาวต่างชาติ เท่าคนไทย เล็งดึงท่องเที่ยวรวมกับรายการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประภา รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สิ่งที่จะต้องทำคือการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้เกิดขึ้น พร้อมทั้งการเร่งจัดทำแอพพลิเคชั่นเพื่ออำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
ขณะเดียวกัน นโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวนั้น จะต้องทำการท่องเที่ยวให้เดินหน้าควบคู่ไปกับการกีฬา กรณีอย่างการจัด รายการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก หรือ โมโต จีพี ที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีผลพลอยได้คือ นอกจากจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาติดตามชมการแข่งขันแล้ว ยังเผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักอีกด้วย
อีกประการนักกีฬาและทีมงานก็ยังคงท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งถือว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวกลุ่มเมดิคอล ในกลุ่มโรงพยายบาลของเอกชน ซึ่งไม่ใช่ผู้ป่วยเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงครอบครัวของผู้ป่วยด้วย ที่เข้ามาใช้บริการในเรื่องของโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร
“วันนี้สิ่งที่ทางการะทรวงอยากจะทำมากที่สุดคือ การจัดทัวร์นาเมนท์การแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น การวิ่งเทลล์ การจัด E Sport โดยหากสามารถดึงนักกีฬาระดับโลกเข้ามาแข่งขันได้ ก็จะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในกลุ่มที่สนใจรายการกีฬาเข้ามาท่องเที่ยวได้เช่นกัน” นายพิพฒน์กล่าว
นอกจากนี้ยังมีเรื่องการกระจายการท่องเที่ยวเมืองหลักที่ค่อนข้างแออัด ไปสู่เมืองโดยรอบ เช่น การจัดการท่องเที่ยวแบบริเวียร่า จากหัวหิน ลงไปจนถึงนราธิวาส เพราะชายหาดที่ติดต่อกัน เป็นการกระจายรายได้สู่พื้นที่ต่างๆทุกจังหวัด การท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นของ จ.เชียงใหม่ จะต้องมีการกระจายสู่จังหวัดรอบข้าง ลำปาง ลำพูน พะเยา
อีกประการหนึ่งการกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่โบราณสถาน พื้นที่มรดกโลกของประเทศไทย เช่น สุโขทัย อยุธยา โดยมีแนวคิดถึงเรื่องการเก็บราคาค่าเข้าชมในราคาเดียวกันของนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย
อย่างไรก็ตาม เรื่องของมาตรการดูแลนักท่องเที่ยว และสถานที่ท่องเที่ยว ก็เป็นอีกประการที่สำคัญ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องได้รับความปลอดภัย ถือเป็นมาตรการที่เข้มข้นที่สุดของกระทรวงฯ ร่วมกับ ททท. ตำรวจท่องเที่ยว มีการฝึกอบรมอาสาสมัครดูแลความปลอดภัยของแต่ละชุมชน ด้านการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะต้องพยายามรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ให้เสียหาย ลดการใช้พลาสติกในแหล่งท่องเที่ยให้ได้ร้อยละ 50