ครอบครัวใจสลาย สาววัย 22 ทำศัลยกรรมคลินิกดัง นอนเป็นเจ้าหญิงนิทรากว่า 5 เดือน
เมื่อเวลา 16.00 น. (5 ส.ค.62) ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายอภิภู อายุ 26 ปี เจ้าของโรงงานทำอิฐมอญ เดินทางเข้าพบ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและให้สืบหาข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับการทำศัลยกรรมของ น.ส.นิ้ง (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นน้องสาว หลังเข้ารับการทำศัลยกรรมเหลาโหนกแก้ม เหลาคาง และทำตา 2 ชั้น ที่คลินิกแห่งหนึ่ง ถนนรัชดาภิเษก กทม. เมื่อวันที่ 12 มี.ค.62 เวลา 17.00 น. โดยผ่านเอเยนซี่
จากนั้นหลังผ่าตัดน้องสาวไม่รู้สึกตัว และมีอาการชัก ทางคลินิศัลยกรรมนำตัวส่ง รพ.พระราม 9 ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดทำการรักษาทันที ผ่านมา 5 เดือนกว่า น.ส.นิ้ง ยังไม่รู้สึกตัวเหมือนเจ้าหญิงนิทรา แพทย์ลงความเห็นเมื่อวันที่ 28 พ.ค.62 ว่าภาวะสมองขาดอากาศ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ไม่สามารถโต้ตอบ ต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้มีค่ารักษาที่ต้องจ่าย รพ.อีกจำนวน 3 ล้านบาท ทางคลินิกและแพทย์ที่ทำการศัลยกรรมไม่ติดต่อเพื่อรับผิดชอบ
นายอภิภู อายุ 26 ปี กล่าวว่า วันนี้มาร้องขอความเป็นธรรมกรณีน้องสาวทำศัลยกรรมที่คลินิกแห่งหนึ่ง ทำให้เป็นเจ้าหญิงนิทรามานาน 5 เดือนกว่า ทางครอบครัวยังไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริงว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นว่าทำไมทำศัลยกรรมแล้วเป็นสภาพแบบนี้ ตอนนี้ทางโรงพยาบาลที่ทำการรักษาหลังจากออกจากคลินิกแจ้งว่าสมองขาดออกซิเจนและเลือดไปเลี้ยง น้องไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงยังหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ ตอนนี้ค้างอยู่ประมาณ 3 ล้านบาท แพทย์ที่ทำศัลยกรรมจ่ายให้ไปเบื้องต้นตอนที่มารักษาครั้งแรกแล้ว 1 ล้านบาท หลังจากนั้นไม่ได้รับการติดต่ออีกเลย ทางโรงพยาบาลใหม่ได้ติดต่อไปที่คลินิกก็ไม่สามารถติดต่อได้
ตอนนี้ครอบครัวหมดหวังเรื่องน้องจะหาย แพทย์ก็ลงความเห็นว่าน้องไม่น่าจะฟื้น ตนต้องการร้องขอความธรรมในเรื่องข้อเท็จจริง เรียกร้องให้คลินิกและแพทย์รับผิดชอบ ตอนนี้คนเครียดและกังวลมาก ตอนนี้ครอบครัวรอแค่ปาฏิหารเท่านั้น ตนอยากรู้สาเหตุที่น้องเป็นแบบนี้เกิดจากอะไร
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูว่าทางคลินิกและแพทย์ว่าประมาทเลินเล่อหรือไม่ ตามประมวลกฏหมายแพ่งพาณิชย์มาตรา 420 ต้องรับผิดชอบ เคสนี้น้องสมองขาดอ็อกซิเจนไม่น่าจะเกิดขึ้น เรื่องทางการแพทย์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ทางคลินิกและแพทย์ต้องมีการจรวจสอบว่าทีใบอนุญาตถูกต้องไหม เป็นหน้าที่ สบส.มีความผิดทั้งหมอและคลีนิก คดีนี้ยังไม่ชัดเจนเลยว่าเกิดจากอะไรต้องหาสาเหตุให้ได้ก่อน สำหรับค่าใช้จ่ายทางคลินิกและหมอต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย หลังจากนี้ต้องดูว่าญาติต้องจะฟ้องร้องดำเนินคดีหรือไม่ ต้องฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบคดีนี้ช่วยเร่งคดีหาสาเหตุและผู้รับผิดชอบให้เร็วหน่อย
เบื้องต้นคดีนี้ได้แจ้งความไว้ที่ สน.สุทธิสาร และทาง สบส.ได้เรียกญาติไปสอบถามข้อมูลและอาการผู้ป่วยแล้ว แต่ผ่านมา 5 เดือนคดียังไม่คืบ ไม่มีการติดต่อแสดงความรับผิดชอบใดๆ