ยายสุดช้ำอยู่ๆ ไร้บ้าน หลานแสบหลอกให้ตาโอนที่ดิน แลกนม 1 กล่อง

ยายสุดช้ำอยู่ๆ ไร้บ้าน หลานแสบหลอกให้ตาโอนที่ดิน แลกนม 1 กล่อง

ยายสุดช้ำอยู่ๆ ไร้บ้าน หลานแสบหลอกให้ตาโอนที่ดิน แลกนม 1 กล่อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณยายชาวเชียงรายร้องทุกข์ทนายดัง โดนหลานสาวตัวแสบฮุบที่ดิน หลอกคุณตาป่วยจิตเวชโอนที่ดินให้ เพื่อแลกกับนม 1 กล่อง ตอนนี้โดนหมายศาลไล่ให้ออกจากบ้าน

เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ที่ สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ปรากฏว่า นางขันคำ อายุ 66 ปี ชาว ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อมด้วย นางเกษมศรี อายุ 56 ปี หลานสาว ได้เดินทางเข้าปรึกษาคดีกับ ทนายรณณงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม จากกรณีที่ นายบุญรัตน์ อายุ 60 ปี สามีที่ป่วยเป็นจิตเวชถูกหลานสาว น.ส.บอส (นามสมมุติ) หลอกให้โอนที่ดินจำนวน 41 ตารางวา ให้

จากนั้น น.ส.บอส ได้นำที่ดินดังกล่าวไปขายฝากเป็นเงินจำนวน 474,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2559 และทางครอบครัวไม่มีใครทราบถึงเรื่องนี้ กระทั่งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้มีหมายศาลจังหวัดเชียงรายมาถึง มีคำสั่งให้ตนกับสามีย้ายออกจากที่ดินดังกล่าว หรือนำเงินจำนวน 500,000 บาท มาชดใช้ให้กับผู้รับฝากที่ดิน โดยที่ทั้งสองก็ไม่รู้จะย้ายไปอยู่ที่ไหน และต้องการได้ที่ดินดังกล่าวคืน เพราะสามีที่เป็นผู้ป่วยจิตเวช รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้

นางขันคำ ภรรยาของเจ้าของที่ดิน กล่าวว่า วันนี้มาขอความช่วยเหลือเรื่องที่ดิน ที่ดินของสามีที่ถูกหลานหลอกให้สามีไปโอนที่ให้ โดยซื้อก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม กับนม 1 กล่องให้สามีกิน สามีป่วยเป็นโรคจิตเวช พักรักษาด้วยอยู่ที่โรงพยาบาลสวนปรุง สามีบอกว่าไปโอนที่ดินไปให้ เพราะได้กินของกิน แต่ตอนนี้ตนกลับถูกไล่ที่ไม่ให้อยู่ ตนไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน จึงมาขอปรึกษาทนาย และเตรียมจะไปกองทุนยุติธรรมเพื่อให้ช่วยเหลืออีกทาง

ทางด้าน ทนายรณณงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า คุณยายมาขอคำปรึกษาว่า ที่ดินที่อยู่กับคุณตาวัย 60 ปี ถูกฟ้องขับไล่ออกจากที่ดิน ฝ่ายคุณยายก็งงว่าถูกไล่เรื่องอะไร แต่ปรากฎว่าที่ดินดันถูกหลานหลอกให้โอนไปเมื่อปี 2559 และตอนนี้ถูกขับไล่ให้ออกจากที่ดิน หรือถ้าจะอยู่ต่อต้องคืนเงิน 500,000 บาท

หลังจากการตรวจสอบพบว่าคุณตาเจ้าของที่ดี มีประวัติป่วยทางจิตอยู่ ในทางกฏหมายคือคนวิกลจริต ไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆ ได้ แต่มีการซื้อขายไปให้บุคคลภายนอกด้วย กรณีนี้อาจจะยุ่งยากหน่อย ดังนั้นตนจึงให้คุณยายไปติดต่อที่กองทุนยุติธรรมเพื่อให้ช่วยเหลือเรื่องคดี หากฟ้องชนะคดี กรรมสิทธิ์ที่ดินก็จะกลับมาเป็นของคุณตา ขณะที่ฝ่ายที่หลอกให้คุณจาโอนที่ดินให้ก็จะมีความผิดด้วย

เบื้องต้น นางขันคำ ได้เตรียมหลักฐานเพื่อยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือจากกองทุยุติธรรม และจะติดต่อขอประวีติตาจากโรงพยาบาลสวนปรุง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสู้คดีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook