แพรวา มอบอำนาจทนาย-หนุ่ม กรรชัย จ่ายเงินเยียวยา 41 ล้าน ยังขาดอีก 8 แสน

จากกรณีคดีที่ นางสาวแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา (ชื่อสกุลเดิม) ก่อเหตุขับรถซีวิคชนรถตู้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บอีกหลายราย เหตุเมื่อ 9 ปี ก่อน ซึ่งศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 1-4 ต้องร่วมกันชำระค่าเสียหาย จำนวนประมาณ 25 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2553 และจะครบกำหนดจ่ายชดเชยคือ 28 สิงหาคมนี้

ล่าสุดวันนี้ (6 ส.ค. 62) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ พร้อมด้วย นายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากครอบครัวของ นางสาวแพรวา นำแคชเชียร์เช็ค จำนวน 41,755,050.79 บาท พร้อมเงินค่าธรรมเนียมศาล 20,000 บาท มาวางต่อศาลแพ่ง ถ.รัชดา ตามคำพิพากษาศาลฎีกา เพื่อชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวผู้ประสบเหตุ จากอุบัติเหตุเมื่อปี 2553 

ทั้งนี้ สำนักข่าว INN รายงานว่า นายกรรชัย เปิดเผยกับสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าวคดีนี้ว่า เพื่อให้เรื่องนี้ได้จบสิ้น เนื่องจากคดีมีความยืดเยื้อมานานมาก สมควรแก่เวลาที่ญาติฝั่งผู้เสียหายทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ควรได้รับการเยียวยา ก่อนหน้านี้ตนเองได้รับโฉนดมาจากครอบครัวของแพรวา เพื่อเป็นตัวกลางในการจำหน่ายแต่ก็ติดขัดเรื่อยมา กระทั่งครอบครัวแพรวาตัดสินใจยืมเงินจากญาติพี่น้องจนได้ตามจำนวนกว่า 41 ล้านบาท นำมามอบให้กับศาลในวันนี้ แต่ยังขาดเงินอีกกว่า 8 แสนบาท เนื่องจากเข้าใจตัวเลขคลาดเคลื่อน ซึ่งภายใน 2-3 วันนี้ จะนำเงินมาวางเพิ่มเติมให้ครบ พร้อมยืนยันว่าทุกอย่างจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ 

INN

ส่วนสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ครอบครัวแพรวาไม่ใช้วิธีการกู้ยืมเงินเพื่อเยียวค่าเสียหาย เนื่องจากเป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายที่อยู่ในช่วงต่อสู้ทางคดี ทำให้ตัวเลขของเงินเยียวยาของแต่ละศาลไม่เท่ากัน และในวันนี้สาเหตุที่ทางครอบครัวแพรวาไม่เดินทางมาด้วยเนื่องจากไม่สะดวกและมองว่าที่ผ่านมาเคยมีการขอโทษผู้เสียหายมาตลอดอยู่แล้ว

ทางด้าน นายเดชา ระบุว่า หลังจากวางเงินต่อศาลแพ่งในวันนี้ ขั้นตอนต่อไปอีก 2-3 วันจะนำเงินที่เหลืออีก 8 แสนบาทมาวางเพิ่มเติม ซึ่งจากนั้นก็ถือว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นตามกระบวนการ ได้ชดใช้ค่าเสียหายเรียบร้อยในฝ่ายจำเลย

ขณะที่ นายโอภาส อนันตสมบูรณ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เปิดเผยว่า จำนวนเงินที่ต้องเยียวยาให้ผู้เสียหายทั้งหมด 26 ราย มีจำนวน 42,637,810.40 บาท ซึ่งยังเหลือเงินอีก 8 แสนบาท ที่ทางครอบครัวของแพรวาจะต้องนำมาชำระเพิ่มเติมนั้น ก็จะต้องนับดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 7.5 ต่อปีซึ่งจะนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะจ่ายครบ

ส่วนขั้นตอนการจ่ายเงินคืนผู้เสียหายแต่ละรายศาลมีบัญชีไว้อยู่แล้วว่าจะต้องจ่ายให้ผู้เสียหายรายละเท่าใด โดยหากเงิน 8 แสนบาทที่เหลือมาครบแล้วก็จะนำจ่ายผู้เสียหายได้ทันที

ทั้งนี้ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกล่าวขอบคุณฝ่ายจำเลยที่ทำให้เรื่องนี้จบลงเสียที และยืนยันว่าศาลให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายและขอให้สังคมเข้าใจ