รวบโจรแสบขโมยถุงกับข้าวชาวบ้าน สารภาพจำใจทำเพราะไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว

รวบโจรแสบขโมยถุงกับข้าวชาวบ้าน สารภาพจำใจทำเพราะไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว

รวบโจรแสบขโมยถุงกับข้าวชาวบ้าน สารภาพจำใจทำเพราะไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รวบหนุ่มใหญ่จอมฉกขโมยถุงกับข้าวชาวบ้าน หลังกล้องวงจรปิดจับภาพก่อเหตุหลายครั้ง เผยจำใจต้องทำเพราะไม่มีเงินซื้อเลี้ยงครอบครัว ขณะที่ภรรยาอุ้มลูกร้องไห้ลั่นไม่รู้ว่าสามีก่อเหตุ

5 ส.ค. 2562 จากกรณีมีคนร้ายตระเวนขโมยถุงกับข้าวของชาวบ้านที่ใส่ไว้ในตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์ภายในตลาดอ่างทองหลายครั้งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยคนร้ายเลือกเฉพาะถุงกับข้าวและถุงอาหาร ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเป็นชายวัยร่างท้วมกลางคนขับขี่รถจักรยานยนต์มาหยิบสิ่งของของชาวบ้านไปได้นั้น

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง นำกำลังเข้าจับกุม นายสมคิด อายุ 55 ปี รปภ.ศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองอ่างทอง

โดยนายสมคิดรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากตนเองมีปัญหาในเรื่องเงินที่นำไปซ่อมรถจักรยานยนต์จนหมดจนกระทั่งไม่มีเงินซื้อข้าวและกับข้าว จึงตระเวนลักถุงกับข้าวของคนที่มาจับจ่ายใช้สอยภายในตลาดอ่างทอง

โดยเมื่อเคยได้ครั้งหนึ่งแล้วก็เลยทำมาเรื่อยๆ โดยบอกกับภรรยาว่าไปเอามาจากบ้านพี่สาวในตลาดอ่างทอง ยอมรับว่าทำมาแล้ว 4-5 ครั้ง บางครั้งมีเจ้าของเห็นก็จะบอกว่าหยิบผิดและคืนให้เจ้าของไป ไม่คิดว่าจะถูกจับกุมที่ทำไปก็เพราะลำบากจริงๆ ไม่มีทางเลือก

ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำนายสมคิด นางสาวศิลา อายุ 40 ปี ภรรยานายสมคิดได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองอ่างทอง และเมื่อทราบว่านายสมคิดถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ถุงกับข้าวภายในตลาดอ่างทอง นางสาวศิลาก็ถึงกับปล่อยโฮออกมาเนื่องจากไม่คิดว่านายศิลาจะทำเช่นนี้ โดยแต่ละครั้งนายสมคิดก็จะบอกว่าไปเอามาจากบ้านพี่สาวหรือไปซื้อมาทุกครั้ง

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำพร้อมนำตัวนายสมคิดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทองดำเนินคดี เบื้องต้นมีผู้แจ้งความดำเนินคดีเพียงรายเดียวแต่เหตุเกิดหลายครั้ง คาดว่าจะมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติมอีก

ส่วนกรณีของหญิงสูงอายุที่ขโมยรถเข็นพระวัดดอนกระดี ที่อาพาธป่วยเป็นมะเร็ง และต้องเดินบิณฑบาตด้วยความลำบากเนื่องจากไม่อยากละทิ้งกิจของสงฆ์นั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังอยู่ในระหว่างสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook