แม่ค้าขี่จักรยานยนต์ถูกคนร้ายประกบกระชากสร้อย เคราะห์ดีสร้อยขาดก่อน
แม่ค้ามะม่วงเกือบเสียของรัก ขณะไปรับหลานสาวกลับจากโรงเรียนถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกบแล้วกระชากสร้อยคอทองคำ แต่โชคดีสร้อยขาดก่อน
วันที่ 5 ส.ค. 62 เวลา 16.00 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่ซอยประทุมสำราญ 7 เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงประสานไปยัง ร.ต.อ.คมกริช ไชยวรรณ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.อ.บันเทิง ทัพโยธา รองสารวัตรสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานีพร้อมชุดสืบสวน และตำรวจสายตรวจ 191 เจ้าหน้าที่อาสาเขตงานเมืองทองรุดไปตรวจสอบ พร้อมวิทยุแจ้งให้เจ้าหน้าที่บริเวณใกล้เคียงสกัดตามจุดต่างๆ แต่ก็ไร้วี่แวว
ที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งกลางซอยประทุมสำราญ 7 เจ้าหน้าที่ได้พบกับ น.ส. อรุณกมล สาลารัตน์ อายุ 28 ปี ยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตกใจ พร้อมให้การว่า ตนเองมาช่วยพี่สาวขายมะม่วงอยู่ที่ตลาดอุดรเมืองทอง โดยช่วงบ่ายตนได้ไปรับหลานสาวที่โรงเรียนแล้วจะพาไปส่งให้พี่สาวที่ตลาด หลังจากมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งและเป็นเนิน ตนเองก็ได้ชะลอรถ จากนั้นคนร้ายเป็นชายก็ขี่รถจักรยานยนต์มาประกบพร้อมกับเอื้อมมือซ้ายมากระชากสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึงพร้อมพระเลี่ยมทองของตน จนทำให้รถของตนล้มลง จากนั้นตนก็ได้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ เป็นจังหวะที่หลานสาวมองเห็นสร้อยคอขาดติดอยู่ที่คอจึงบอกให้ตนใจเย็นๆ
หลังจากตั้งสติได้ตนเองก็ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามคนร้ายพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือมาตลอดทาง จนมาพบกับเจ้าหน้าที่อาสาเขตงานเมืองทอง ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ออกตรวจหน้าตลาดพอดี ตนจึงได้เข้าไปขอความช่วยเหลือ ส่วนคนร้ายนั้นสวมเสื้อกีฬาแขนสั้นสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีน รองเท้าผ้าใบ ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้จำสีไม่ได้ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีชมพูคาดขาว คนร้ายก็ได้ขี่รถเลี้ยวซ้ายไปทางตลาดหนองบัว อย่างรวดเร็ว
น.ส.อรุณกมล สาลารัตน์ ยังเล่าต่อไปอีกว่า สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง พร้อมพระเลี่ยมทองนั้น สามีได้ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตนรักและหวงมากโชคดีที่คนร้ายไม่ได้ไป ซึ่งตนก็จะเก็บเอาไว้เป็นอย่างดีเพราะกลัวจะถูกคนร้ายมากระชากไปอีก
ร.ต.อ.บันเทิง ทัพโยธา รองสารวัตรสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ คาดว่าคนร้ายอาจจะเป็นคนละแวกนี้ขับรถมาเห็นผู้เสียหายจึงลงมือก่อเหตุ แต่โชคดีไม่ได้ทรัพย์สินไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อหาเบาะแสคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป