เด็กชาย 2 ขวบ ตกเก้าอี้ปากแตก-ไข้ขึ้น หมอบอกไม่เป็นอะไร สุดท้ายเสียชีวิต
(6 ส.ค.62) ที่บ้านหมู่ 6 บ้านสระบัว ตำบลโนนแดง อำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ น้องโอชิ อายุ 2 ขวบ ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2562 ขณะเข้ารับการรักษาด้วยอาการป่วยเป็นไข้ ที่โรงพยาบาลโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น ก่อนจะเสียชีวิตขณะถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตด้วยอาการปอดติดเชื้อ ญาติจึงนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้
นางสาวลักษณ์สุดา อายุ 27 ปี แม่น้องโอชิ กล่าวว่า น้องโอชิ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิตนั้น เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ลูกชายตกเก้าอี้ริมฝีปากแตก เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2562 จึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล แพทย์ทำการตรวจรักษาแล้วพบว่ามีไข้ จึงให้ยามารับประทานที่บ้าน พอรุ่งเช้าเวลาประมาณ 08.00 น.วันที่ 4 สิงหาคม 2562 น้องโอชิ มีอาการเหนื่อย เพราะกินอาหารไม่ได้เนื่องจากริมฝีปากมีบาดแผลจากการหกล้ม จึงพาไปแพทย์ที่โรงพยาบาล อีกครั้ง แพทย์ได้ทำการตรวจ และเอกซเรย์
โดยครั้งนี้แพทย์ระบุว่า ผลตรวจเอกซเรย์น้องโอชิปอดติดเชื้อ จากนั้นแพทย์ได้นำตัวน้องโอชิเข้าทำการตรวจรักษาด้วยอาการพ่นยาก่อนเพื่อให้น้องมีอาการหายใจดีขึ้น จึงจะส่งตัวไปรักษาต่อกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ขณะที่แพทย์ ได้พยายามที่จะให้น้ำเกลือเนื่องจากน้องมีอาการเหนื่อย แต่ก็หาเส้นเลือดที่จะเจาะไม่ได้ ขณะที่ผลการตรวจเลือดพบว่ามีค่าน้ำตาลในเลือดสูงถึง 480 แพทย์ที่ทำการรักษา ก็มีอาการวิตกกังวล และใช้โทรศัพท์โทรพูดคุยเดินวนไปมาเป็นเวลานานคล้ายกับปรึกษากับแพทย์คนอื่น
จากนั้นแพทย์ได้ทำการเปลี่ยนยาตัวใหม่เพื่อให้น้องหายใจดีขึ้น แต่กลับพบว่าน้องโอชิมีอาการตาลอยและชีพจรต่ำ ทางพ่อน้องโอชิ ก็ได้ทักท้วงกับแพทย์ว่า ทำไมน้องมีอาการแบบนี้ แพทย์ก็ตอบว่า “การรักษาก็เป็นแบบนี้แหละ” ก่อนที่จะให้พ่อน้องออกมาจากห้องเพื่อให้มาปรึกษากับญาติ ว่าจะใช้ท่อช่วยหายใจให้น้อง ซึ่งทางญาติก็ยืนยันว่าจะไม่ใส่ท่อช่วยหายใจเพราะสงสารน้อง และช่วยให้หมอเร่งทำเรื่องส่งน้องไปรักษาต่อกับแพทย์เฉพาะทาง เวลาล่วงเลยไปนานกว่า 2 ชั่วโมงอาการน้องโอชิก็ไม่ดีขึ้น ครั้งนี้พบว่ายิ่งเลวร้าย เพราะแพทย์ได้แอบใส่ท่อช่วยหายใจทางลำคอและพบมีเลือดไหลตามท่อช่วยหายใจ ทางญาติก็ตกใจ เพราะก่อนที่น้องจะเข้ามารับการรักษาไม่ได้มีอาการไอหรือมีเสมหะแต่อย่างใด
แม่น้องโอชิ ยังบอกอีกว่า เมื่อเห็นว่าอาการลูกชายอาการไม่ดี ทางญาติก็ได้พยายามเร่งให้แพทย์ที่ทำการรักษาช่วยเร่งดำเนินการส่งตัวน้องไปรักษายังโรงพยาบาลที่มีความพร้อมด้านการรักษา และถามแบบนี้อยู่ 3-4 ครั้ง ก็ได้คำตอบว่า ต้องรอหมอใหญ่เซ็นต์ใบส่งตัว ก่อนที่หมอจะตัดสินใจส่งตัวน้องไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลบ้านไผ่ ก็พบว่า น้องโอชิ ได้เสียชีวิตระหว่างทางแล้ว และแพทย์ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า ปอดติดเชื้อ
ซึ่งทางพ่อ แม่และญาติๆ ยังติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของน้องโอชิ เพราะก่อนจะเข้ารับการรักษาน้องยังมีอาการปกติ สามารถพูดคุยสนทนาได้ ไม่มีอาการไอหรือมีเสมหะ มีเพียงอาการเหนื่อย เนื่องจากไม่ได้รับประทานอาหารเท่านั้น และแพทย์ที่ทำการรักษาก็ไม่ได้รีบเร่งส่งตัวน้องให้กับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง กลับทำการรักษา ด้วยการโทรศัพท์พูดคุยกับบุคคลอื่นแทน และเมื่อรวมระยะเวลาตั้งแต่น้องมาพบแพทย์ก่อนจะส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลอื่นแล้วรวมระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบกรณีดังกล่าวและชี้แจงข้อเท็จจริงกับญาติด้วย